Close this window

= ใครเคยค้ำประกันเข้าทำงา่นบ้าง?=
คือมีรุ่นน้องเพิ่งจบจะเข้าทดลองงานที่สายการบิน มาขอให้เซ็นค้ำประกันเข้าทำงาน ไม่ค่อยสนิทกันแต่เท่าที่็เห็นก็ดูเรียบร้อยดี ใจนึงก็อยากช่วยเค้าจะได้ไม่ลำบากเดี๋ยวนี้งานหายาก อีกใจนึงมันก็กระอักกระอ่วนเพราะไม่ได้รู้จักสนิทสนม ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ช่วยเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ
โดย: Redzilla   วันที่: 12 Aug 2007 - 00:35


 ความคิดเห็นที่: 1 / 12 : 285047
โดย: sunroof
เคยค้ำให้อยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายจนต้องรับผิดชอบแทน
แต่คนที่ไม่ได้ค้ำนี่สิเจ็บปวด ทั้งๆมันก็รู้อยู่เต็มอก
วันที่: 12 Aug 07 - 01:32

 ความคิดเห็นที่: 2 / 12 : 285049
โดย: Switch_On!
ถ้าไม่สนิทกันจริง ถึงขนาดรู้จักบ้าน (หมายถึงครบครัวเค้า) หรือแบบสนิทกันขนาดเล่นหัวกันได้เนีย ผมว่าไปค้ำให้เนีย ความเสียสูง ยี่งเป็นงานที่ต้องมีใช้ความเสี่ยงด้วยแล้ว เช่นพวกฝ่ายบัญชี การเงิน หรือ งานที่สินค้ามีมูลค่าสูง ต้องพึงระวังไว้ใครับ


ขอบแบบนี้ไม่ใช่ว่าเราไม่ยอมค้ำให้ แล้วจะโกรธกันไปตลอดชาติซะหน่อย แต่ถ้าลองค้ำให้แล้วเกิดเหตุที่ต้องสาวมาถึงในกรณีให้เราต้องชดใช้เนียนะ (เจ้าตัวหนีไปแล้ว) แบบเนีย ชาติหน้าผมก็ไม่ขอมองหน้ามันแน่ ๆ ส่วนชาตินี้ก็คงต้องไปตามลากตัวมันกลับมาให้เจอ



ยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวผมแล้วกัน เป็นของคุณพ่อผมเอง...ท่านไปค้ำประกันเงิน ให้ลูกน้องคนนึง พอคุณพ่อท่านเสียไป ไอ้ลูกน้อง(เลว)คนนี้ ก็ลาออกไปจาก บ. แล้วไปอยู่ที่อื่น แล้วมันก็ไปเบี้ยวหนี้ ที่พ่อผมค้ำไว้ให้ มันก็ตามพ่อผมต่อ แต่พ่อผมมไม่อยู่ให้มันตามแล้ว มันก็เลยมาตามกะแม่แทน มูลค่าที่มันตาม ก็แสนกว่า ๆ คุณแม่แทบเป็นลม ปรึกษากะน้าที่เป็นทนาย แล้ว...เป็นอันว่าตาม กม เราก็ต้องชดใช้ แต่ว่าถ้าเราตามไอ้(เลว)นั้นเจอ ก็ไม่เป็นไร

เลยต้องให้น้าจัดหาคนไปตามันจนเจอ แล้วลากไปส่งเจ้าหนี้ กว่าจะจบเรื่อง แม่ผมก็เสียไปนานเลย

เป็นอันนี้ ชาตินี้ถ้าไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ คนบ้านเดียวกัน ผมก็คงไม่ไปค้ำอะไรให้ใครอีกแล้ว
วันที่: 12 Aug 07 - 03:32

 ความคิดเห็นที่: 3 / 12 : 285050
โดย: แม็กโตะคุง
โหเห็นด้วยกับเวบพลาสเตอร์เต็มๆเลย

ผมเคยค้ำให้เพื่อนสนิทมาก่อน นับว่าโชคดีมากที่ไม่เคยทำอะไรเสียหายให้ การค้ำประกันใครไม่เคยดีข้อดีใดๆทั้งสิ้น พึงระวังไว้ให้ดี และไม่ได้สอนให้เห็นแก่ตัวครับ

ตอนที่ผมเรียนอยู่ที่เมืองนอกอาจารย์ผมจะสอนไว้เสมอให้ใช้ช่องว่างของการค้ำประกันให้เป็นประโยชน์ในกรณีที่คุณไม่อยากเสียเพื่อน ยกตัวอย่างเช่นคุณไปเซ็นค้ำประกันซื้อรถมือสองให้เพื่อนคุณ คุณก็ควรจะเป็นเจ้าของรถด้วย ไม่ใช่ในฐานนะของผู้ค้ำประกัน ของรถคันจนกว่าเพื่อนคุณเค้าจะผ่อนรถหมด แล้วค่อยโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดให้เพื่อนคุณเมื่อเค้าผ่อนหมดแล้ว ในเคสที่คุณเจอเพื่อนชั่ว มันชิ่งหนีไปก่อนอย่างน้อยคุณก็สามารถยึดรถเค้าเอาไปขาย แล้วก็นำไปจ่ายส่วนที่มันยังผ่อนไม่หมดได้ ดีกว่าคุณต้องมานั่งช้ำใจจ่ายให้มันในขณะที่ที่เพื่อนคุณเอารถไปใช้สบายๆ

ที่ต้องทำแบบนี้เพราะผมเรียนด้านengineerมา กฎหมายผมเลยโง่มาก เพื่อนผมส่วนใหญ่เป็นพวกอินเดีย(ไม่ได้discriminateทางด้านเชื้อชาตินะครับ) เลยเป็นที่มาของประโยคที่ว่า เวลาเจองูกับเจอแขกต้องตีห้วแขกก่อนตีหัวงู ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ดีนะครับ แต่เค้าฉลาดกว่า

แต่กฎหมายเมืองไทยเนี่ยไม่รู้อ่ะรอผู้เชี่ยวชาญมาตอบดีกว่า เอาเป็นว่าถ้าจะไปค้ำประกันให้ใครแบบลอยๆถ้าไม่ใช่เมีย ลูกๆ หรือ ญาติสนิทกันจริงๆเนี่ย ไม่น่าทำอย่างยิ่งครับ

ทั้งหมดเป็นแค่ความเห็นไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่นงับบบ
วันที่: 12 Aug 07 - 05:39

 ความคิดเห็นที่: 4 / 12 : 285054
โดย: chompoo
เราเคยค้ำประกันให้เด็กคนนึงซึ่งไม่สนิท นะ อ่านสัญญาค้ำประกันก่อนซิ เพราะส่วนใหญ่สัญญาค้ำจะเหมือน ๆ กัน ที่เคยเซ็นไป เขาระบุในสัญญาว่าให้เราชดใช้ไม่เกิน สี่หมื่นบาทเห็นว่าเงินแค่นี้พอรับไหว สำหรับอนาคตคน ๆหนึ่ง จึงเซ็นให้ไป ก็ไม่มีไรเกิดชึ้นนะ พิจารณาสัญญา ว่ารับได้หรือเปล่า มันเกินตัวเราหรือเปล่าในสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา
วันที่: 12 Aug 07 - 06:51

 ความคิดเห็นที่: 5 / 12 : 285059
โดย: ชีวิตก็แค่นี้
เอาตามความรู้สึกครับ
ถ้ารู้สึกว่าไม่อยาก ก็คือไม่อยาก
จะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม
จง "เคารพตัวเอง" และ ปฏิเสธคนให้เป็น
แล้วจะรู้สึกดีเองครับ
วันที่: 12 Aug 07 - 10:09

 ความคิดเห็นที่: 6 / 12 : 285107
โดย: slowstep in pirate
เป็นผมก็จะดูหลายๆ อย่างประกอบกัน เช่น ความรู้สึก ความสัมพันธ์ และก็สัญญา คับ ถ้าทุกอย่างเหมาะสมลงตัวก็เซ็น แต่ถ้าไม่ก็ไม่เซ็น ถ้ารู้สึกไม่อยาก แต่ความสัมพันธ์มีในระดับดี และสัญญาไม่ผูกพันมากจะเกินไป ก็เซ็นคับ ถ้าพิจารณาทั้ง 3 อย่างแล้วเข้าซัก 2 ใน 3 ก็เซ็นเถอะคับ ช่วยๆ กันคับ
วันที่: 12 Aug 07 - 16:11

 ความคิดเห็นที่: 7 / 12 : 285109
โดย: ทวีรัฐ
ผมใช้วิธีเดียวกับ คุณแม็กโตะคุง ครับ

เฉพาะที่จะเป็นจะตายจริงๆ เท่านั้น เพราะมันเข็ดมาแล้วแม้แต่เพื่อนสนิทๆ น้อองๆ ที่เราเชื่อว่าคงไม่ทำให้เสื่อมเสีย มันก็ทำ

ถ้าเป็นรถ..ผมจะกลับกันคือให้คนที่มาขอเป็นผู้ค้ำประกัน แล้วชื่อผมเป็นผู้เช่าซื้อ ให้จัดการผ่อนเอง ถ้าขาดส่งเมื่อไหร่ เรารู้ตัวก่อนเพราะไฟแนนซ์จะทวงเราก่อน..ยากนักก็ยึดรถมา แล้วให้หาเงินมาเคลียร์เองครับ

ส่วนค้ำประกันงาน..เมื่อกว่า10ปีที่แล้ว เคย ดึงลูกน้องจากบริษัทฯเก่า มาเข้า พานาฯ ไม่เชิงค้ำประกัน แต่ใช้อำนาจหน้าที่ เชิงระบุว่าต้องการคนนี้ เท่านั้นอะไรประมาณนี้ เดือนแรก ทุกอย่างราบรื่น งานจนเจ้านายชม เราก็ได้เครดิต ด้วย
พอผ่านโปรฯเท่านั้น ลายออก.. ทนได้ 6 เดือน ผมต้องเป็นฝ่าย เชิญให้ไปที่ชอบๆ ด้วยตัวเอง เพราะหลงระเริง คิดว่ามี แบคอัพ จะทำอะไรใครก็ได้ เลยต้องตัดสินใจ ก่อนที่เราจะเสียหายครับ

กรณีเจ้าของกระทู้..ผมว่าเสี่ยงเกินไปและไม่คุ้มค่าเอาซะเลยกับความเสียหายที่จะเกิด หากไม่ดี
ที่สำคัญ ความเกรงใจ ครับ คุณบอกว่าเกรงใจเขา ..ดีครับ...แต่ถามหน่อย เขาเป็นใครเหรอครับ ที่มาขอให้คุณช่วยโดยที่ยังไม่ได้มาสนิทสนม เชื่อใจรู้จักถึงครอบครัวกัน ถึงต้องเกรงใจเขา

จริงๆพวกเขาสิที่ต้องเกรงใจคุณถึงจะถูก..ควรมาพูดคุยที่บ้านหรือเชิญคุณไปที่บ้าน รู้จักครอบครัวทั้ง2ฝ่ายสิครับ

แต่เขาเป็นแค่รุ่นน้อง...ก็แนะนำง่ายๆได้นี่ครับ บอกว่าเรื่องนี้เรื่องสคัญ ทำไมไม่ให้ คุณพ่อ-คุณแม่ ของเขา ค้ำละครับ ไม่เห็นเหตุผลตรงไหนที่ต้องให้คนอื่นมาค้ำเลยนี่ครับ
วันที่: 12 Aug 07 - 16:22

 ความคิดเห็นที่: 8 / 12 : 285153
โดย: b
สำหรับผม พิจารณา 2 ข้อ....

1.ตอบตัวเองได้ ว่าคนนี้สมควรไว้ใจ

2.รับมือกับค่าเสียหายไหว ถ้าโดนชิ่ง

แค่นี้ครับ ขาดข้อใดไป ก็ไม่เซ็น

ตอนนี้มีเซ็นค้ำเงินกู้(จากบริษัท)ของเพื่อนร่วมงานประมาณ 6 หมื่น

เซ็นค้ำเข้าทำงานให้ลูกของน้า(แท้ๆ) ไป 4 หมื่น

วัดใจกันไป ถ้ามีอะไรผิดพลา...1 แสนไม่ถึงกับบรรลัยครับ พอหาได้
วันที่: 13 Aug 07 - 02:25

 ความคิดเห็นที่: 9 / 12 : 285176
โดย: เ-พี-ย-ว
ต้องดูสัญญาและข้อจำกัดความรับผิดของผู้ค้ำ ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ มีข้อยกเว้นอะไรบ้าง และหากต้องรับผิดชดใช้แทนตามสัญญาค้ำประกันนั้น มีวงเงินที่ค้ำเท่าไหร่ และต้องคำไปนานเท่าไหร่ และตำแหน่งอะไรที่ผลการค้ำประกันยังมี มีตัวอย่างว่าถ้าเราค้ำประกันตั้งแต่เขาเป็นพนักงานเล็กๆ แล้ว เกิดนานไปอีกสิบปีเขาเป็นผู้จัดการ แล้วไปทำความเสียหายให้บริษัท เราจะรับผิดชอบไหวมั้ย ดังนั้นคิดให้ดีก่อนค้ำประกัน และดูระยะเวลา ต่ำแหน่งงาน ของผู้ที่เราจะค้ำด้วยครับ
วันที่: 13 Aug 07 - 08:52

 ความคิดเห็นที่: 10 / 12 : 285190
โดย: Redzilla
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ


ป๋าวีครับ คือทางสายการบินนั้นมีข้อกำหนดว่าผู้ค้ำต้องเป็น..
1.ข้าราชการ ระดับซี 5 ขึ้นไป
2.พนักงานเอกชน อัตราเงินเดือน สองหมื่นขึ้นไป
พ่อแม่น้องเค้าเป็นชาวสวนน่ะครับ
แต่ตอนนี้ผมมีทางออกแล้วครับ ซึ่งก็คงต้องปฏิเสธไปเพราะตัวผมเองตอนนี้ก็ค้ำรถยนต์ให้พี่สาวแฟนอยู่ รวมทั้งเงินกู้กับบัตรเครดิตอีกหลายตัว คงค้ำให้ใครอีกไม่ไหว ช่วยอย่างอื่นจะดีกว่าถ้าช่วยได้...
วันที่: 13 Aug 07 - 09:30

 ความคิดเห็นที่: 11 / 12 : 285202
โดย: ทวีรัฐ
กรณีนี้ ก็แย่นิดนึงนะสิครับ สำหรับเขา

บ้านเมืองเรา ทำไมนะ ปากบอกกันปาวๆ ว่าให้โอกาสคน แต่สุดท้าย ไม่มีเส้นสาย ไม่รู้จักใครที่มีตำแหน่งเป็น(ขี้)ข้าราชการ ก็หมดโอกาส ที่จะทำงานดีๆที่พอจะเสริมสร้างฐานะของครอบครัวให้ดีขึ้นได้

แล้ว สุดท้ายใครไม่มีเส้นสาย ก็หมดโอกาส...
บางคนหน้าตาสะสวยหน่อย ก็ใช้ "เซ่น" สาย(เดี่ยว) ก็พอจะดิ้นรนไปได้บ้างไม่ได้บาง...

แต่ สุดท้าย ตาสี ยายสา ก็หมดโอกาสให้ลูกหลานได้ทำงานดีๆอยู่ดี ด้วยแค่ หาคนค้ำ ที่บางครั้ง ระบุเลยว่าต้องเป็น(ขี้)ข้าราชการ ซีอะไร "เท่านั้น"

ไม่เข้าใจสังคมไทยนัก

สมัยเรียนผมก็เคยตกสภาพเหมือนน้องคนนี้ครับ..สอบติด จปร..ตกพละ(ไม่มีเส้น) ปีต่อมาสอบ นายเรือ อากาศ ..ตกสัมภาษณ์..ไม่มีเส้นอีก... อีกปีนึง..สายตาไปซะแล้วเลยอด...

และตอนนี้ก็ดีใจจัง ไม่ได้เป็น ผู้พันขี้เหล้า เหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีเส้นครับ
วันที่: 13 Aug 07 - 12:16

 ความคิดเห็นที่: 12 / 12 : 303883
โดย: ทืเดน
ผู้พันขี้เหล้าเนี่ยนะ ดีใจด้วยที่ไม่ได้เป็น

http://www.clipv.com
วันที่: 21 Nov 07 - 15:16