Close this window

เรื่องของในหลวงที่เราอาจไม่รู้
เมื่อทรงพระเยาว์
>
> 1. ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น.
> 2. นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ มีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์
> 3. พระนาม”ภูมิพล”ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเ กล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
> 4. พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช
> 5. ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก
> 6. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่
> โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า “H.H Bhummibol Mahidol”หมายเลขประจำตัว
> 449
> 7. ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือสมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า”แม่”
> 8. สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง
> 9. แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผัก
> มาปลูกเพิ่ม
> 10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้ง
> หนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต
> 11. สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า”บ๊อบบี้”
> 12. ทรงฉลองพระเนตร (แว่นสายตา) ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกต
> เห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำจะต้องลุกขึ้นบ่อย ๆ
> 13. สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะ
> ทรงต่อรอง 3 ที มากเกินไป 2ทีพอแล้ว
> 14. ระหว่างประทับอยู่ สวิตเซอร์แลนด์ โดยระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทย
> กับสมเด็จย่าเสมอ
> 15. ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก”การให้”โดยสมเด็จย่าจะทรง ตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า”กระป๋องคน
> จน”หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก”เก็บภาษี”หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือน
> สมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋อ งนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด
> มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน
> 16. ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆเขามีจักรยานกัน
> สมเด็จย่าก็ตอบว่า”ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก
> ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน”
> 17. กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์
> เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา
> 18. ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง
>
> พระอัจฉริยภาพ
>
>
> 19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก”การเล่น”สมัยพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่น
> อะไร ต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับ พระเชษฐาซื้อชิ้นส่วนวิทยุที
> ละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง
> 20. สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิป ระเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้
> โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็น
> จิ๊กซอว์
> 21. ทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่
> ทรงหัดเล่นคือ ฮีบเพลง (แอกคอร์เดียน) *
> 22. ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300
> ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้
> 23. ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส
> 24. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงครั้งแรก เมื่อพระชนม์พรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ”แสง
> เทียน” จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง
> 25. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรง
> เกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลาย
> เป็นเพลง”เราสู้”
> 26. รู้ไหม...? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่5
> 27. - - - -
> 28. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วน
> พระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไ ทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวม
> ทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย
> 29. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง”นายอินทร์”และ”ติโต” ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์แต่
> พระมหาชนก ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
> 30. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และเรือใบ ทรงเคย
> ได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น”กีฬา
> ซีเกมส์”) ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510
> 31. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่งตรั สกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับ
> เข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้
> เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน
> 32. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธ ิบัตรผลงานประดิษฐ์คิดค้นเครื่องกลเติม
> อากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ “กังหันชัยพัฒนา” เมื่อปี 2536
> 33. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุก ารเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน เช่น แก๊ส
> โซฮอล์, ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20ปีแล้ว
> 34. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวาย รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วัน
> ที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาช ีวิตความเป็นอยู่ของ
> ประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง
>
> เรื่องส่วนพระองค์
>
> 35. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามา
> ธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
> 36. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด ์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระ
> บรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่า”น่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่า รักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่า
> จะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง
> 37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษก
> สมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ข้อความใน
> สมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท
> 38. หลังอภิเษกสมรส ทรง”ฮันนีมูน”ที่หัวหิน
> 39. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมืองวันที่ 22 ตุลาคม
> 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน
> 40. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช


ค่อยๆอ่านล่ะกัน....เราคนไทยควรรู้เรื่องของพ่อเรา...


> 41. ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพง ต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่จำ
> เป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น
> 42. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยก
> เว้น นาฬิกา
> 43. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้าง
> วัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ
> 44. หลอดยาสีพระทน ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏ
> รอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม
> 45. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรณคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า
> แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ ถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์
> แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยู่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่
> ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง
>
> งานของในหลวง
>
> 46. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ
> 47. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำ พระองค์อยู่ 3 สิ่งคือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง
> (ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ
> 48. ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเ นียว กระดาษที่จะนำมาให้ข้อราชการที่
> เข้าเฝ้าฯถวายงาน
> 49. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใ หญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมา
> ถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็น
> ดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน
> 50. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯร่วม กับข้อมูลจากต่าง
> ประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประช าชน
> 51. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73 บาท ซึ่ง
> ได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆ เติบโตเป็นโครงการพัฒนามา
> จนเป็นอย่างที่เราเห้นกันทุกวันนี้
> 52. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯ สวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯ ลงมา
> อธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด
> 53. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า
> “ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูง
> เหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
> 54. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระ ดูกสันหลังในอีก 5
> ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เด ินสายออนไลน์ไว้
> เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน
>
> ของทรงโปรด
>
> 55. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา
> 56. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังช่าย
> 57. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก
> 58. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระ
> ตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง
> 59. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง
> 60. ทีวีช่องโปรด ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศสของยูบีซี เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก
> 61. ทรงฟัง จส.100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที่ จส.100 ด้วย โดย
> ใช้พระนามแฝง
> 62. หนังสือที่ในหลวงอ่าน : ตอนเช้าตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ ทุก
> ฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก
> 63. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูดลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อ
> ในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อ
> จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว
> 64. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด
> 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่อง
> พยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ
> 65. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกล
> กังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว
>
> รู้หรือไม่?
>
> 66. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัว ว่า “นายหลวง” ภายหลัง
> จึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง
> 67. ทรงเชี่ยวชาญถึง 6 ภาษา คือ ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน
> 68. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆ ทรงโปรดให้กรอกในช่อง อาชีพ
> ของพระองค์ว่า “ทำราชการ”
> 69. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์
> สวิสเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมี
> อายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข
> ประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี
> 70. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับใน หลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็น
> แซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า”อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนัก
> มาก ยกไม่ไหวหรอก”
> 71. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด
> 72. หัวใจทรงเต้นไม่ปกติด ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้นไม่ปกติ เนื่องจากติดเชื้อ
> ไมโครพลาสม่า ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี
> 73. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที ่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์
> จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์
> 74. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห ัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ
> 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6ล้านคน
> 75. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่า
> เสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000
> ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน
> 76. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง
> 77. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง
> 78. นั่งรถหารสอง : ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง ให้นั่ง
> รวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด

........copy มาจากเวป guitarthai ครับ เห็นว่าเป็นเรื่องดีๆ
โดย: sansamp   วันที่: 5 Dec 2007 - 11:13

หน้าที่: 1   [2]

 ความคิดเห็นที่: 21 / 40 : 307079
โดย: sansamp
..
วันที่: 05 Dec 07 - 11:26

 ความคิดเห็นที่: 22 / 40 : 307083
โดย: sansamp
สุดท้ายแล้วครับ
โพสไปก็น้ำตาซึมไป ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม

เป็นสิ่งดีๆในวันพ่อที่แบ่งปันกันนะครับ

....ทั้งหมด เก็บเอามาจากเวป guitarthai
วันที่: 05 Dec 07 - 11:32

 ความคิดเห็นที่: 23 / 40 : 307086
โดย: RedZilLa
ขอบคุณ จขกท.ในความเอื้อเฟื้อ
วันที่: 05 Dec 07 - 11:48

 ความคิดเห็นที่: 24 / 40 : 307087
โดย: รตอ.คุณชายลี่@เชียงใหม่
ขอบคุณครับ ได้อะไรดีๆมามากเลย
วันที่: 05 Dec 07 - 11:50

 ความคิดเห็นที่: 25 / 40 : 307092
โดย: Navigator
ขอบคุณอีกคนครับ
วันที่: 05 Dec 07 - 12:20

 ความคิดเห็นที่: 26 / 40 : 307101
โดย: คเณศ
ขอบคุณด้วยอีกคนนะครับ
วันที่: 05 Dec 07 - 12:57

 ความคิดเห็นที่: 27 / 40 : 307117
โดย: johiro
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับพ่อ
วันที่: 05 Dec 07 - 13:45

 ความคิดเห็นที่: 28 / 40 : 307148
โดย: JipJeep
อ่านแล้วก็น้ำตาซึม ยิ่งได้เห็นภาพถ่ายส่วนพระองค์สมัยทรงพระเยาว์แล้วน้ำตาไหลเลย

นี่คือบุคคลคนนึง ที่ทรงรักและห่วงใยประชาชนของพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งใด
ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอีกแล้วในโลกนี้ที่จะทำได้อย่างพระองค์ครับ

โชคดีจริงๆ ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์ครับ


..... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ .....
วันที่: 05 Dec 07 - 15:43

 ความคิดเห็นที่: 29 / 40 : 307174
โดย: เซนท์โซเฟียร์
" ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน "



กระทู้นี้ไม่มีไคร ปาดเลยแฮะ
วันที่: 05 Dec 07 - 17:35

 ความคิดเห็นที่: 30 / 40 : 307195
โดย: Yut13
ขอแถมอีกเรื่องนึงผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นนักบินเฮลิคอบเตอร์สีฟ้าขาวพบกันเมื่อหลายเดือนเจอกันในงานเลี้ยงมาในชุดนักบินถามไปว่าทำไมถึงแต่งชุดบินตลอดเวลาเขาตอบว่าเวลามีภัยพิบัติเกิดขึ้นต้องทำหน้าที่บินพา "นาย" ไปดูสถานที่จริง

ขอจงทรงพระเจริญ
วันที่: 05 Dec 07 - 19:45

 ความคิดเห็นที่: 31 / 40 : 307222
โดย: นายหนึ่ง
ทรงพระเจริญ
วันที่: 05 Dec 07 - 22:34

 ความคิดเห็นที่: 32 / 40 : 307290
โดย: อันดามัน ณ หนองคาย
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
วันที่: 06 Dec 07 - 09:15

 ความคิดเห็นที่: 33 / 40 : 307309
โดย: Lantis_samuri
ทรงพระเจริญ
วันที่: 06 Dec 07 - 11:06

 ความคิดเห็นที่: 34 / 40 : 307310
โดย: ลาลา
จะมีใคร..คนไหนที่ทำ(ให้)ได้เท่านี้....ไม่มีเลย
วันที่: 06 Dec 07 - 11:08

 ความคิดเห็นที่: 35 / 40 : 307317
โดย: boy56
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ
ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
วันที่: 06 Dec 07 - 11:28

 ความคิดเห็นที่: 36 / 40 : 307320
โดย: green cronos
ขอบคุณจากใจ จะเริ่มทำความดีให้มากยิ่งขึ้น
วันที่: 06 Dec 07 - 11:41

 ความคิดเห็นที่: 37 / 40 : 307383
โดย: อิด
บุคคลเพียงหนึ่งเดียวในโลก ที่ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน

ทรงพระเจริญ
วันที่: 06 Dec 07 - 16:19

 ความคิดเห็นที่: 38 / 40 : 307605
โดย: บาส

> 54. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระ ดูกสันหลังในอีก 5
> ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เด ินสายออนไลน์ไว้
> เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน



อ่านแค่บรรทัดนี้ บรรทัดเดียว ก็รู้สึกภูมิใจ ที่ได้เกิดเป็นข้าแผ่นดินของพ่อ

ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
วันที่: 07 Dec 07 - 10:53

 ความคิดเห็นที่: 39 / 40 : 307750
โดย: sansamp
ขอบคุณทุกๆท่านนะครับ ที่เข้ามา
ผมเชื่อว่ามีหลายๆท่านต้องน้ำตาซึม หรือ หลั่งน้ำตาบ้างล่ะ...แต่เป็นน้ำตาของความปิติ
เป็นน้ำตาของความสุข...
....ผมเองก็ยอมรับอย่างไม่อายว่า น้ำตาไหลเหมือนกัน ...มันเป็นของมันเอง
และไม่สามารถ อ่านทุกๆข้อในครั้งเดียวได้....มันกลั้นไม่ไหวจริงๆ...ต้องค่อยๆอ่านอยู่หลายครั้ง
จนครบหมด
....ตอนโพสรูป โพสไปก็น้ำตาซึมไป....................ครับ....ผมรักพระองค์ท่าน
....ทรงพระเจริญ
วันที่: 07 Dec 07 - 18:32

 ความคิดเห็นที่: 40 / 40 : 309700
โดย: Mz lantis
เป็นเหมือนกันครับ
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
วันที่: 14 Dec 07 - 10:24

หน้าที่: 1   [2]