Close this window

อีกครั้งสำหรับชาวมาสด้าคลับ/อู่/ร้านอะไหล่/เบอร์โทร/คำแนะนำ
อู่ช่างหมู แอร์ ดิจิตอล MES 081-4977743 โทรถามเส้นทางก็พอครับ โทร ตรงพระราม9 มีสองอู่ครับ FP กับ อู่ช่างหมู
ถ้า FP ราคาน่าจะสูงกว่าอีกที่สักหน่อยครับ
อู่ช่างหมู พระราม ๙ เบอร์โทร 0814977743 จากหน้าราม เลี้ยวขวาแยก avon แล้วเลี้ยวซ้ายแยกไฟแดง
จะอยู่ซอยติดกับปั๊ม ปตท. (ถ้าจำปั๊มไม่ผิดน่ะ) ลองโทรถามดูอีกทีแล้วกัน
ตัวกิ๊ปล๊อคประตูข้าง บ้านหม้อ คลองถม เพียบ ตัวละ 10 บาท ศูนย์ 37 บาท
พี่สุด เรื่องอะไหล่ โทรเบอร์คุณสุด 081-555-8384 พี่ตู่ T.0818449830 ....ครับ
โกดังคุณสุดซอยตรงข้าม ทางเข้ารพ.ศรัธัญญา

http://www.car4click.com/product.detail.php?lang=th&cat=235637&id=1034651 ของแต่งโครโนส
ดอนเมือง เบอร์โทรครับ ช่างประภาส 0898966102
มีปัญหาเรื่องอะไหล่มาสด้าทุกรุ่น ทั้งเก่าและใหม่ ติดต่อสอบถามผมได้ครับพร้อมให้คำปรึกษาและจัดสั่งอะไหล่ให้ 089-โกสินทร์อะไหล่มาสด้า 7570326 , 083-1539055 โกสินทร์อะไหล่มาสด้า
เรื่องซ่อมเกียร์ 086-9069809ช่างตี๋ พุทธมลธล สาย 3
ชุดเพลา สำเร็จรูป http://www.naskodriveshaft.com/camparison_tools.html
อะไหล่ต่างๆ ของเก่ามือสอง http://www.samautoparts.com/branch/branch.php โทร คุณ กิ 02-216-8338
ที่กรุงเทพฯ
ช่างบุญทรง อู่ B.S. SERVICE พุทธมณฑลสาย2 ฃอยวัดบุญยฯ โทร 02-8073910 087-7117916

อู่TL SERVICE พุทธมณฑลสาย3 เบอร์โทร 086-9069809 คุณตี๋

ช่างหมู ถนนพระราม 9 เบอร์โทร 081-4977743

อู่ Ferrari Performance พระราม 9 เบอร์โทร 0-2319-7640, 0-2319-8103,
หรือ 08-1775-5558 (คุณชาลี)
อู่สุขาสอง ครับ ถ.รามคำแหง ครับ ชื่อคุณ เจริญศักดิ์ อู้นี้เค้าดีมาเลยนะครับ คิดค่าแรงถูกมาเลยครับ ลองโทรไปสอบถามพี่เค้าดูนะครับ เบอร์ 0814267454 พวกพี่ๆ เค้าเป็นช่าง Mazda ของ 0 แล้วออกมาทำเอง ครับประสบการณ์ ไม่ต่ำ 10 ปี ทุกคนเลยให้คำแนะนำได้

นวลจันทร์การช่าง รามอินทรา นวมินทร์ ช่างแดง และช่างป๋อง โทร.0851344578 08-6773-6862อู่นวลจันทร์การช่าง อยู่ในซอย นวลจันทร์ อยู่ ซอยนวลจันทร์40 ถนนรามอินทรา ติดกับศูนย์ซ่อม zabb ตรงทางโค้งพอดี ทีนี่ซ่อมเฉพาะ mazda กับ ford เจ้าของอู่เป็นช่างมาจากศูนย์ mazda ค่าแรงไม่แพง รับประกันผลงาน อะไหล่แท้ลดพิเศษถูกกว่าศูนย์ อะไหล่มือสองเชียงกงสั่งจองได้ เครื่องมือตรวจวัดแบบเดียวกับศูนย์ คุยกันถูกใจซดเบียร์ด้วยกันค่าแรงยิ่งถูกลงไปอีกผมรับประกัน เบอร์ติดต่อก้อ คุณ สมคิด (ช่างแดง) 05-1344578



อู่พร้อมเซอร์วิส อยู่ติดกันธนาคารกรุงไทย สาขา นนทบุรี
02 967 4184 หรือคุณธนวัฒน์ 086 600 3778

อู่ช่างเล็ก อยู่แถวปากเกร็ด ซ.ทรายทอง โทร.081-667-0468

ดอนเมือง พี่ประภาส 0898966102

ช่างบุญเชิด สุขาภิบาล 3 โทร. 081 303 3802

แถวอ้อมน้อยอ้อมใหญ่ ซอยเพชรเกษม 91 อู่พี่วิทูรย์

ช่างสุด 08-1555-8384

อู่กิจจา ลาดพร้าวโชคชัย 4 ตรงข้ามโรงพยาบาล เปาโล สยาม

อู่kt มีนบุรี 081 5244035


ที่ชลฯ (ถ้าอยากออกมาเที่ยวทะเล)
อู่นางฟ้าออโต้ เส้นบายพาส เบอร์โทร 086-667-0406
อู่ช่างแกะ081-9837-663
อู่วิเชียร เซอร์วิส ช๊อป 038-392483

และสุดท้ายถ้าพี่อยากมาเยี่ยมผมก็นี่ครับ
อู่สหมิตร เซอร์วิส 038-288 168
น้ำมันเกียร์ ยี่ห้ออะไรก็ด้าย งับ แต่ต้องเป็น เด็กร่อน2 เท่านั้น ขอย้ำ DEXRON2

หลอดไฟหน้า Philip Vision Plus ไม่ต้องแปลงนี่ครับ เลือก โคมแยก H เป็น h1 โคมยาว h3 ให้ตรงรุ่น แล้วใส่แทนได้เลย
กล่อง ECU พัง พอดีเจอร้านซ่อมกล่องชื่อ อรัญอิเลคโทรนิคส์ อยู่แถวซอยจินดาถวิล สี่พระยา เลยแยกสามย่าน ไปหน่อย เจ้าของร้านซ่อมกล่องเก่งไม่เบา(สังเกตจากกล่อง ECU หลากยี่ห้อวางเต็มไปหมด)
ร้านอะไหล่ ร้านนรรัตน์ จากเเยกเเคลาย ตรงไปทางที่จะไปบางบัวทอง เลย Carefour ไปนิดอ่ะครับ อยู่ตรงสะพานลอย
เขียนป้ายไว้ใหญ่ๆว่า อะไหล่ Ford/Mazda 02-9505042
ร้าน ก.รุ่งโรจ แถว วรจักร ราคาถูกมาก(ของแท้)
Tel.02-222-9092-4
ถ้าตรงวรจักรนี่ ลองถาม น.เจริญ ครับ 02-2246261
1.ร้านพัฒนายนต์วรจักร(1994) 02-2222464 , 02-2227562 , 02-2228714 วรจักร
2.ร้านเอส.ซี. อะไหล่ยนต์ 02-9607374-8 ปากเกร็ด
3.ร้านไทยมั่นคงอิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต 02-2210923 , 02-2226387 วรจักร
4.ร้านนรรัตน์ 02-9505844-6 รัตนาธิเบศร์จากเเยกเเคลาย ตรงไปทางที่จะไปบางบัวทอง ไม่ถึง Carefour รัตนาธิเบศนะครับ อยู่ตรงสะพานลอยตรงข้ามกับสวนอาหารจวนทอง เขียนป้ายไว้ใหญ่ๆว่า อะไหล่ Ford/Mazda
5.นนท์อะไหล่ยนต์ 02-5914887 , 029524235 ติวานนท์
6ร้านชื่อ ที เอฟค่ะ เบอร์ 02-377-1920 นะคะ
7ร้านวันดีการช่าง ซอยนราธิวาสราชนคริทร์ 14 (ศูนย์การค้าวรรัตน์) สาทร กรุงเทพฯ 02-6761153 , 081-8287182
เรื่องของสปิงและโช๊ค ถ้าจะเอาของใหม่แกะกล่อง ก็มี 3 ยี่ห้อให้เลือก
1.Eibach
2.H&R
3.Apex
ราคาก็มีตั้งแต่ 6500-9500 Eibach จะแพงที่สุดครับ
ยางรองแท่นเครื่อง ปากซอยรามอินทรา 109 ข้างร้านเป็ดย่าง หรือ ร้านรุ่งโรจน์ออโต้พาร์ท เบอร์ 02-2229092-4

ไฟหน้า โคมแยกชิ้น ไฟต่ำใช้ H1 ครับ
Osram silverstar เค้าว่าสว่าง+50% เหมือนกัน แต่ถูกกว่า Philips หาซื้อได้ที่ central ทุกสาขา 820 บาท
ไมล์ขาว จีช๊อต สนใจโทร 0814084335 0863156667 หนุ่มเจ้าเดิมครับ

ส่วนโช้ค กี่มีหลายยี่ห้อเหมือนกัน
1.KYB ของเดิมติดรถ
2.Gabrial ถูก แต่คนขายบอกห่วย จิงรึึป่าวไม่ีรู้
3.KONI แดง แพงสุด 1x,xxx
4.Monroe Reflex 7500.- อันนี้ผมใช่อยู่ครับ
ร้านซ่อมแอร์ อาทิตย์ที่แล้วไปแถวโกดังคุณ สุด....เจ้าโครโนส เกเร แอร์ไม่เย็นซะงั้นอ่ะ
ขับไปเจอร้าน ซ่อมแอร์ชื่อ "กาญจนา อะไหล่" 02-5915169 มือถือ 089-989 1454 (อยู่ตรงข้ามตลาดนาขวัญ ถ.ติวานนท์)

ช่างรึ้อดู ปรากฎว่า ตู้แอร์ รั่ว ....สภาพน่าสมเพช มากอ่ะ น้ำยารั่วแล้วมีคราบดำๆ ไปอุดตัน
ถามเฮีย เจ้าของร้าน ว่าแกมีอะไหล่ตู้แอร์รึ....เฮียแกมี ของใหม่ เอี่ยม แกะกล่องครับ..(ของไทยทำ..ยี่ห้อ PACO ..ผมลองเซริช ดู เป็น โรงงาน ทำอะไหล่แอร์ ใหญ่โตเลยอ่ะ)

ผม เปลี่ยนตู้แอร์ (ใหม่เอี่ยม) + ไดเออร์ (ใหม่เอี่ยม) + วาวล์ว (ใหม่เอี่ยม) ทั้งหมด ราคา 3500 คับ

ที่ผมประทับใจคือ ลูกน้องเฮียแกละเอียดเหมือน เป็นรถ ตัวเองอ่ะ
ถอดกรอบ เก๊ะ ออกมาล้าง + ถอด มอเตอร์ พัดลม (ที่ติดๆ กับตู้แอร์) ออกมาล้างสะอาด + เป่าแห้ง
โอริงที่ใช้ เป็น โอริง ตัวนอก...ปกติร้านแอร์ทั่วไปไม่มีขายคับ..เพราะตัวนึง 40-50 บาท (เฮียแกเอาของมาเทียบให้ดูเลยอ่ะ)

สรุป..จ่าย 3500 เหมือนได้ระบบแอร์ใหม่เอี่ยม....ตอนนี้ผมต้องใส่เสื้อกันหนาวเวลาขับเจ้าโนสอ่ะ
เย็นสุดขั้ว จิงๆ





ขายเกียร์ออโต mazda cronos ราคา 6500 บาท ใช้งานได้ปรกติ ไม่มีปัญหา ขายเพราะเปลี่ยนเครื่องใหม่ และยังมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่กับเครื่องใช้ได้อีกหลายอย่างลองโทรคุยดูนะครับ0895881266 ทวีศักดิ์
อะไหล่ รถเชียงกง ต่างๆ หัวตัด คุณอู๋ 086-610-4100 หรือ 081-825-8125
อะไหล่รถ โทร 089 767 3636 ไต้อ๋อง
ที่วางแก้วน้ำคับ ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยซื้อของใหม่ที่ PSN 024430308 ไม่เกิน 1600 บาท
\มีปัญหาเรื่องอะไหล่มาสด้าทุกรุ่น ทั้งเก่าและใหม่ ติดต่อสอบถามผมได้ครับพร้อมให้คำปรึกษาและจัดสั่งอะไหล่ให้ 089-7570326 , 083-1539055 โกสินทร์อะไหล่มาสด้า
วิธีถอดคอนโซล
จริง ๆ มันจะ 4d หรือ 5d ก็เหมือนกันแหละครับ
อันนี้เป็นวิธีของผมนะครับ ท่าอื่นไม่ทราบ ตามนี้ครับ
- ถอดที่ล๊อก เบรคมือก่อนเลย
- ถอดถาดบนคอนโซลเกียร์
- ถอดคอพวงมาลัย (เฉพาะที่เป็นพลาสติกนะครับ)
- ถอดแผงใต้หน้าปัตฝั่งคนขับ
- ถอดแผงข้างของคอลโซลหน้า (ชิ้นจะเป็นลักษณะ 3 เหลี่ยนติดกับยางขอบประตู)
- ถอดน๊อน รวมถึง ที่เปิดฝากระโปรง ทุกตัวที่เห็นว่ามันติดกับพลาสติกชิ้นหน้าปัตวิทยุครับ
- ทีนี้ก็ค่อย ๆ ถอดเจ้าแผงหน้าปัตวิทยุออกมาได้ละ
ผมใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 15 นาที (ถอดจนชำนาญ)
มีน๊อตประมาณ 7 ตำแหน่งที่ต้องถอด หรือ 6 เนี่ยแหละ สำหรับแผงวิทยุ ส่วนคอ อีก 3 จุด
เบามือ และใจเย็น คอ่ย ๆ ถอด เพระว่ามันถอดได้ยาก ถ้าเปรียบเทียบกับรถอื่น ๆ ครับ ไม่รู้ทำไมต้องยุ่งยากนัก
ลองถามร้านวันดีการช่าง ดูสิครับเพราะเคยไปใช้บริการมาเขามีอะไหล่รถของมาสด้าหลายอย่างอยู่เหมือนกัน เบอร์โทร 081-8287182

02-6761153 , 081-8287182 ร้านวันดีการช่าง ซอยนราธิวาสราชนคริทร์ 14 (ศูนย์การค้าวรรัตน์) สาทร กรุงเทพฯ

สรุปคำบรรยายวิธีใช้เกียร์อัตโนมัติ "เหนืออัจฉริยะ" ของมาสด้า

ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนนะคะว่า คำว่าเกียร์อัตโนมัติเหนืออัจฉริยะเนี่ย ทางมาสด้าเป็นคนบัญญัติ ไม่ใช่หมูอ้วนเข้าข้างมาสด้าแต่อย่างใด ในบทสรุปที่จะนำมาลงนี้ มาจากการฟังคำบรรยายที่ทางมาสด้าซิตี้เป็นผู้จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี อ.มนุญเป็นผู้บรรยายนะคะ

เรื่องพื้นฐาน ***

เกียร์ในรถยนต์เปรียบได้กับเฟืองโซ่ของจักรยาน เกียร์ 1 เป็นเสมือนเฟืองขนาดใหญ่ หมุนช้า แต่ให้ torque (แรง) สูง ในเกียร์ธรรมดา จะมีถึงเกียร์ 5 ซึ่งเปรียบได้กับเกียร์ overdrive หรือ เกียร์ 4 ในเกียร์อัตโนมัติ

เกียร์ overdrive นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน กล่าวคือช่วยให้รอบไม่เพิ่มขึ้นไปจนสูงมาก เมื่อขับด้วยความเร็วสูงต่อเนื่อง แต่ผู้ขับรถหลายท่านมักเข้าใจว่า เกียร์สูงสุด ทั้งในระบบเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ เป็นเกียร์ที่ช่วยในการเร่งความเร็วขึ้นอีก ซึ่งประเด็นนี้ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเกียร์สูงสุด

อัตราทดเกียร์ เกียร์ 1 จะมากที่สุดแล้วลดลงเรื่อย ๆ จนถึงเกียร์ 4 (อัตโนมัติ) และ 5 (ธรรมดา) อ.มนุญผู้บรรยายยืนยันว่า หากขับเกียร์อัตโนมัติอย่างถูกวิธีแล้ว จะกินน้ำมันน้อยกว่าหรือเท่ากับเกียร์ธรรมดาเลยทีเดียว

*** ความหมายของตำแหน่งต่าง ๆ ในเกียร์อัตโนมัติของมาสด้า ***

- เมื่อไม่ได้อยู่ในโหมด Hold

P หรือ Park
เป็นเกียร์ที่ใช้เมื่อจอดรถ แต่เกียร์นี้ ไม่ใช่เบรคมือ ไม่ควรเข้า Park เวลาจอดอยู่บนเนิน หรือทางลาดชันอย่างสะพาน หรือทางขึ้นลงที่จอดรถ แทนการเหยียบเบรคหรือดึงเบรคมือ เพราะเกียร์จะแบกน้ำหนักรถมากเกินไป ควรใช้ P เมื่อนำรถเข้าจอดในช่องแล้ว หรือจอดที่บ้านในโรงจอดรถ

R หรือ Reverse
เป็นเกียร์ถอยหลัง มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ถอยหลังขณะรถเคลื่อนที่อยู่

N หรือ Neutral
คือเกียร์ว่าง
คำถามที่มักถามกันบ่อยคือ เมื่อใดควรเลื่อนจาก D มาเป็น N
คำตอบคือ ไม่ควรเข้า D, S, L แล้วเหยียบเบรคเป็นเวลานานเกิน 5 นาที ถ้าคิดว่าเกิน ก็เปลี่ยนเป็น N ดีกว่า และถ้าจอดรถขวางชาวบ้านอยู่ ก็กรุณาเข้า N ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้รถถูกขูดขีดเป็นรอย เนื่องจากมีคนหมั่นไส้เพราะเข็นรถคุณไม่ได้

D หรือ Drive
เกียร์นี้ คือ เกียร์อัตโนมัติเต็มรูปแบบ มีตั้งแต่เกียร์ 1-4

S หรือ Second
เกียร์นี้ของมาสด้า มีทั้งหมด 3 เกียร์ คือ 1,2 และ 3

L หรือ Low
ชื่อบอกอยู่แล้วนะคะว่าเป็นเกียร์ต่ำ ในเกียร์นี้มี 2 เกียร์ด้วยกันคือ 1 และ 2 ใช้สำหรับขึ้นลงที่ลาดชัน ขึ้นเขาลงเขา ขึ้นที่จอดรถ

- เมื่อใช้ Hold
เมื่อกดปุ่ม Hold แล้วมีไฟสัญญาณแสดงว่า hold ขึ้นที่หน้าปัทม์ ระบบเกียร์อัตโนมัติจะเปลี่ยนไปดังนี้

เกียร์ P,R,N ยังเหมือนเดิม แต่เกียร์ 3 อันล่าง ให้ดูตัวเลขแสดงที่อยู่แถวเดียวกับคำว่า hold ที่มีลูกศรชี้ลงมา จะเห็นว่า
D เป็นเกียร์ 3 เท่านั้น (เว้นเวลาหยุดแล้วออกรถ เกียร์จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำให้ก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 เพื่อป้องกันความเสียหาย)
S เป็นเกียร์ 2 เท่านั้น (เช่นเดียวกับเกียร์ D เกียร์จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำให้ก่อน เมื่อออกตัว)
L เป็นเกียร์ 1 เท่านั้น
การ hold จะถูกยกเลิกเมื่อกดปุ่ม hold อีกครั้ง (ไฟสัญญาณที่หน้าปัทม์ดับ) และจะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติเมื่อปิดสวิตช์กุญแจ

*** ปุ่มล็อคที่เกียร์ ***
ปุ่มใหญ่ที่อยู่ทางขวาของหัวเกียร์นั้น เป็นปุ่มที่ใช้ป้องกันไม่ให้ผู้ขับรถเข้าเกียร์ผิดจนเกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ เกียร์ หรือเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ไม่ควรกดปุ่มนี้ทุกครั้งที่เข้าเกียร์ -กรณีเข้าเกียร์ไล่จากบนลงล่าง
P ไป R ต้องกด
R ไป N ไม่ต้องกด
N ไป D ไม่ต้องกด
D ไป S ไม่ต้องกด
S ไป L ต้องกด
(จะเห็นว่า หากผลักลงสุดเลย จะไปสุดที่ S ซึ่งเป็นเกียร์ที่ใช้กับการขับรถในเมืองที่ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.ได้ และเมื่อจะเข้าเกียร์ว่างเมื่อรถหยุด ก็ผลักขึ้นสุด เกียร์จะไปสุดที่ N) -กรณีเข้าเกียร์โดยผลักจากล่างขึ้นบน
L ไป S ไม่ต้องกด
S ไป D ไม่ต้องกด
D ไป N ไม่ต้องกด
N ไป R ต้องกด (เพื่อป้องกันการถอยหลังแบบไม่ตั้งใจ และป้องกันเกียร์พังกรณีเปลี่ยนทิศทางการขับรถจากหน้าเป็นหลังขณะรถยังเคลื่อนอยู่)
R ไป P ต้องกด

เรื่องพื้นฐานก็คงมีเพียงเท่านี้นะคะ ต่อไปจะเป็นการใช้เกียร์ในสถานการณ์ต่าง ๆ

== หมายเหตุ===
เสริมเรื่องปุ่ม hold ของมาสด้าอีกนิด แต่เป็นเรื่องสำคัญ
คือ ปุ่ม hold ของมาสด้านั้น "ไม่ใช่" ย้ำ "ไม่ใช่" ปุ่ม overdrive off (เกียร์ overdrive คือเกียร์ 4 ในเกียร์อัตโนมัติ ดังนั้นปุ่ม overdrive off ในรถยี่ห้ออื่น ๆ ก็คือการตัดเกียร์ 4 ทิ้งไป ให้เหลือ 1-3 ซึ่งถ้าวิ่งเร็ว ๆ โดยใช้เกียร์ 4 อยู่ แล้วต้องการเร่งแซง จะใช้วิธีเหยียบคันเร่งให้มิดเพื่อคิกดาวน์ หรือกดปุ่ม overdrive off ก็ได้ เกียร์จะเหลือ 1-3 แต่ของมาสด้าไม่ใช่ เพราะเมื่อกด Hold เกียร์ D จะเป็นเกียร์ 3 เท่านั้น เว้นแต่เมื่อรถหยุดแล้วออกตัว เกียร์จะช่วยเซฟให้โดยเปลี่ยนไปเป็นเกียร์ต่ำก่อนเพื่อออกรถแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นเกียร์ 3)

ดังนั้น การออกรถขณะใช้ระบบ Hold อยู่ (มีไฟสัญญาณที่หน้าปัทม์) จึงควรออกรถด้วยเกียร์ L แล้วเปลี่ยนขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนเกียร์ธรรมดา ถ้าไม่เปลี่ยน เกียร์จะอยู่ที่เกียร์ 1 ไปตลอดกาล

*** วิธีการใช้เกียร์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ***
= ขับในเมือง =
การขับในเมือง คงมีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะใช้ความเร็วได้ตั้งแต่ 80 กม./ชม.ขึ้นไป ขนาดขึ้นทางด่วนบางทีก็ยังไม่สามารถทำความเร็วได้ เกียร์ที่เหมาะสมจะใช้กับการขับในเมืองคือ S (มี 3 เกียร์คือ 1 2 3) ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าเกียร์ได้ง่ายด้วย คือ เมื่อจะออกรถก็ผลักเกียร์ลงมาสุด (ไม่ต้องกดปุ่มล็อคเกียร์ที่อยู่ทางขวา) เกียร์จะมาสุดที่ S และเมื่อรถหยุด ก็ผลักขึ้นสุด (ไม่ต้องกดปุ่มล็อคเกียร์เช่นกัน) เกียร์ก็จะสุดที่ N ทำให้เข้าเกียร์ได้ถนัด แม่นยำ ไม่ต้องคอยมอง เหมือนการเข้า D แต่จำไว้ว่า เกียร์ S ไม่ควรใช้วิ่งเกิน 80 กม./ชม. เพราะจะกินน้ำมัน และเครื่องจะทำงานหนักที่รอบสูง ดังนั้นหากเข้า S ไว้ เมื่อทำความเร็วได้แล้ว ก็ผลักขึ้นไปเป็น D ได้ค่ะ

= รถติดนานแค่ไหนถึงควรผลักเกียร์ไปที่ N =
คำตอบคือ ถ้าไม่ใช่การเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ ขับ ๆ หยุด ๆ แต่ต้องหยุดนานเกินกว่า 5 นาที ให้ผลักไปที่ N อย่าเข้า S หรือ D แล้วเหยียบเบรคค้างไว้เป็นเวลานาน ๆ เปลืองทั้งเบรค เปลืองทั้งความสึกหรอที่กลไกเกียร์ (อันนี้เป็นข้อถกเถียงกันจนเป็นเรื่องใหญ่โต เอาเป็นว่า ถนัดยังไงก็ทำอย่างงั้น เมื่อยก็ผลักไปN ก็แล้วกัน)

= การเร่งแซง =
วิธีที่ 1
ให้เหยียบคันเร่งจนสุด เพื่อให้เกียร์คิกดาวน์ไปเป็นเกียร์ที่ต่ำลง เมื่อแซงเสร็จ ผ่อนคันเร่ง เกียร์จะเปลี่ยนไปเกียร์สูงกว่า
วิธีที่ 2
โยกคันเกียร์ จาก D เป็น S (ซึ่งคือ 1-3) เมื่อแซงเสร็จแล้วก็ผลักกลับไปที่ D เหมือนเดิม (มี 4 เกียร์)
วิธีที่ 3
กดปุ่ม Hold หากขับด้วยเกียร์ D อยู่ เกียร์ก็จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 เมื่อแซงเสร็จ กดปุ่ม Hold อีกครั้ง เพื่อปิด เกียร์ D ก็จะกลายเป็น 1-4 ตามเดิม
อย่าลืมว่า Hold ไม่ใช่ overdrive off นะคะ

= การขับลงทางลาดชัน =
การขับลงที่ลาดชัน ทุกท่านคงจะทราบอยู่แล้วว่าต้องใช้เกียร์ต่ำเพื่อใช้เครื่องยนต์หน่วงไม่ให้รถไหลไปเร็วเกินไปจนต้องเบรคตลอดเวลา ดังนั้น ในการใช้เกียร์อัตโนมัติก็เหมือนกับเกียร์ธรรมดา คือต้องเปลี่ยนเกียร์มาเป็น S หรือ L เมื่อลงที่ลาดชัน ตามน้ำหนักบรรทุกและองศาของพื้นที่ลาดชันนั้น ๆ แล้วค่อย ๆ ขับลง (ไม่ใช่ขับด้วยความเร็วเป็น 100 กม./ชม.) แตะเบรกช่วยบ้างบางครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันเบรค หรือผ้าเบรคร้อนเกินไปจนไหม้

อย่าใช้เกียร์ D ขับลงที่ลาดชัน เพราะในเกียร์นี้จะไม่มีการใช้เครื่องยนต์หน่วงรถ หรือ engine brake เลย รถจะไหลไปด้วยความเร็ว เกียร์ก็จะเปลี่ยนเป็นเกียร์สุงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีการหน่วง

หากขับมาด้วยความเร็วสูง เช่น ประมาณ 100 กม./ชม. ขึ้นไป แล้วต้องลงทางลาดชัน ให้ชะลอก่อน แล้วจึงเปลี่ยนเกียร์ลงมาเป็น S หากมีองศาชันมาก ก็ให้ชะลอลงเรื่อย ๆ แล้วค่อยเปลี่ยนจาก S เป็น L

อีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ก็คือหากวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ให้ชะลอรถลง แล้วกด Hold จากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเกียร์ลงเหมือนการขับเกียร์ธรรมดา แต่ใน Hold mode นี้ มีการจำกัดความเร็วของแต่ละเกียร์ไว้ด้วย ดังนี้ค่ะ

เกียร์ S
รุ่น 1600 ซีซี ไม่เกิน 101 กม./ชม.
รุ่น 1800 ซีซี ไม่เกิน 108 กม./ชม.
รุ่น 2000 ซีซี ไม่เกิน 106 กม./ชม.
เกียร์ L
รุ่น 1600 ซีซี ไม่เกิน 52 กม./ชม.
รุ่น 1800 ซีซี ไม่เกิน 57 กม./ชม.
รุ่น 2000 ซีซี ไม่เกิน 55 กม./ชม.

= จะทราบได้อย่างไรว่าเกียร์มีปัญหา =
ไฟ hold จะกะพริบ ให้รีบเอารถเข้าศูนย์บริการทันทีค่ะ

*** การดูแลรักษาเกียร์ ***
เกียร์ประกอบด้วยหน่วยไฟฟ้า สมอง (ใช้คำนวณลักษณะการขับขี่ พื้นผิวถนน น้ำหนัก ฯลฯ) และเฟือง ดังนั้นหากเกียร์เสีย ควรเช็ค 3 จุดนี้ ระวังอย่าให้น้ำเข้าเกียร์ ถ้าเป็นไปได้ อย่าลุยน้ำสูงเกินแก้มยาง (หรือขอบล้อด้านล่าง) และควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยกว่าที่กำหนดไว้ในคู่มือ (เปลี่ยนทุก 10,000 กม.ก็ได้ค่ะ) หากลุยน้ำสุง ๆ มา ตรวจเช็คน้ำมันเกียร์ พบว่าสีจางลงเป็นสีชมพู แปลว่าน้ำเข้าไปแล้วแน่ ๆ ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เลยค่ะ

เวลาตรวจน้ำมันเกียร์
ถ้าเป็นสีแดง แสดงว่าปกติ
ถ้าเป็นสีชมพู แสดงว่าน้ำเข้า
ถ้าเป็นสีน้ำตาล แสดงว่ามีฝุ่นเข้าและเกิดการไหม้ขึ้น

อย่าเติมน้ำมันเกียร์เกินขีดที่กำหนดไว้ น้ำมันจะกระเพื่อมมากไป
น้ำมันเกียร์อัตโนมัติที่มาสด้าใช้คือ Dexron II ไม่ควรเปลี่ยนสลับไปมา
การวัดระดับน้ำมันเกียร์จะไม่เหมือนกับการวัดน้ำมันเครื่อง เพราะต้องวัดขณะที่เครื่องยนต์ได้อุ่นเครื่องแล้ว

================================ ที่มา: การอบรมเรื่องเกียร์อัตโนมัติ ของรถยนต์มาสด้า โดยมาสด้าคลับ และมาสด้า ซิตี้
วันที่ 25 พฤษภาคม 2545 ที่ มาสด้า ซิตี้@ลุมพินี
รวบรวมสรุปเนื้อหาคำบรรยายโดย คุณหมูอ้วนตัวใหญ่





มาดูความแตกต่างเรื่อง Over Drive กันหน่อย

OVERDRIVE ของเกียร์อัตโนมัติ

แม้เกียร์อัตโนมัติจะแพร่หลายในไทยมามากกว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังมีคนสับสนกับปุ่ม OVERDRIVE หรือ OD กันมาตลอด ทั้งงงว่าคืออะไร มีไว้ทำไม ทำไมรถยนต์บางุร่นไม่มี ควรเปิด-ON หรือปิด-OFF ในสภาพการขับแบบใด

OVERDRIVE คือ อะไร ?

การใช้คำนี้นั่นเองที่ทำให้เกิดความสับสน เพราะอ่านแล้วแปลออกแต่ไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้วมีผลอย่างไรในรถยนต์ ไม่ว่าจะมีเกียร์ทั้งหมดกี่จังหวะ ถ้ามีปุ่มเปิด-ปิด OVERDRIVE ก็คือ การเปิด-ปิดเกียร์สูงที่สุด ว่าจะให้มีใช้หรือไม่

ถ้ามีเกียร์ทั้งหมด 4 จังหวะ หากปิด ก็เท่ากับมีแค่เกียร์ 1-2-3 เปลี่ยนขึ้นลงเท่านั้น ไม่ว่าความเร็วจะขึ้นไปสูงเพียงไร ก็ไม่มีการเข้าเกียร์ 4 ให้ ในรถยนต์บางรุ่นมีปุ่ม OVERDRIVE บางรุ่นไม่มี แต่ก็สามารถเลือกจะไม่ใช้เกียร์นั้นได้ โดยดูที่ฐานคันเกียร์ว่ามีตำแหน่งรองจาก D ลงไปเป็นอะไร ถ้าปกติเป็น D4 รองลงไปเป็น D3 ดังนั้นหากเลื่อนคันเกียร์ไปที่ D3 ก็คือ ปิด OVERDRIVE หรือมีใช้แค่ 3 เกียร์นั่นเอง

สำหรับรถยนต์ที่มี 5 เกียร์ การปิด OVERDRIVE ก็จะเหลือ 4 เกียร์ 1-2-3-4 โดยไม่มีเกียร์ 5 ใช้นั่นเอง

สมมุติถ้าไม่ใช้คำว่าปุ่มหรือเกียร์ OVERDRIVE หากเรียกกันว่าปุ่มเปิด-ปิดเกียร์ 4 หรือเกียร์ 5 ก็น่าจะลดความสับสนลงได้ เพราะก็แค่ไปทำความเข้าใจว่า การเปิดหรือปิดเกียร์ 4 หรือ 5 นั้นจะมีผลเช่นไรในการขับ ไม่ต้องไปงงกับคำว่า OVERDRIVE

ทำไมต้องเปิด ทำไมต้องปิด ?
รถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ ส่วนใหญ่ยกเว้นรุ่นที่เป็นรถยนต์สมรรถนะสูงจริงๆ เกียร์สุดท้ายหรือเกียร์สูงที่สุด จะเป็นเกียร์ที่มีอัตราทดต่ำ ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ และลดการสึกหรอ ลดความสิ้นเปลืองน้ำมันฯ มีอัตราเร่งในช่วงความเร็วสูงแค่พอประมาณ แต่ไม่ดีเท่ากับเกียร์รองลงไป และถ้าไม่ได้เน้นการเร่งแซงในช่วงนั้นแบบดุดัน ก็ไม่ต้องปิด OVERDRIVE เพราะไม่ถึงกับไม่มีอัตราเร่งเลย

การปิด OVERDRIVE จะไม่ได้ทำให้อัตราเร่งในช่วงออกตัวไปจนถึงสุดเกียร์ 3 แตกต่างจากการเปิดไว้ (กรณีมีทั้งหมด 4 เกียร์) การปิดไว้ เป็นเพียงการป้องกันไม่ให้ระบบควบคุมมีการเปลี่ยนเกียร์จาก 3 ไป 4 ในช่วงที่ผู้ขับลดการกดคันเร่ง

ในการขับปกติ ควรเปิด OVERDRIVE ไว้ ดังที่เห็นว่า ในรถยนต์ส่วนใหญ่หากปิดไว้ จะมีไฟเตือนสีส้มสว่างขึ้น ชื่อก็บอกว่าเป็นไฟเตือน และยังเป็นสีส้มอีก ไม่ใช่สีเขียว จึงหมายความว่าเป็นการเตือนแบบไม่ร้ายแรง หากเปิด OVERDRIVE ไว้ จะไม่มีการเตือน นั่นแสดงกว่าเป็นภาวะปกตินั่นเอง

OVERDRIVE อัตราทดต้องต่ำกว่า 0 ใช่ไหม ?

หลายคนเข้าใจว่าเกียร์ใดที่มีอัตราทดต่ำกว่า 1 ต้องเป็นเกียร์ OVERDRIVE ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่ใช่ เพราะในรถยนต์แต่ละคัน อาจมีหลายเกียร์ที่มีอัตราทดต่ำกว่า 1 ไม่ใช่เฉพาะแค่เกียร์สูงสุดเท่านั้น

ในความเป็นจริง เกียร์จังหวะใดจะเป็นเกียร์ OVERDRIVE ก็ต่อเมื่อเกียร์นั้นไม่สามารถเร่งเครื่องยนต์ไปถึงรอบที่มีแรงม้าสูงสุดได้

หากมีถนนว่างและปลอดภัย ให้ลองทดสอบดูก็ได้ว่า ในเกียร์รองลงไปและ OVERDRIVE หรือการปิด-เปิด เกียร์ใดมีอัตราเร่งดีกว่า ลากรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุด และทำความเร็วสูงสุดได้ ถ้าจะเน้นอัตราเร่งช่วงความเร็วสูง ควรปิด

ทำได้หลายวิธี คือ เปิด OVERDRIVE แล้วกดคันเร่งให้จมเพื่อให้มีการคิกดาวน์ลงมาที่เกียร์ต่ำเอง กดคันเร่งแช่ต่อเนื่องไป หากสุดเกียร์ 3 จริงๆ แล้วถึงจะถูกเปลี่ยนไปยังเกียร์ 4 หรือ OVERDRIVE เอง แต่ถ้ามีการลดการกดคันเร่งในช่วงใด และอยู่ในเกียร์ 3 ระบบจะเปลี่ยนไปที่เกียร์ 4 ให้เอง อัตราเร่งก็จะไม่ดี หากจะเร่งต่อ ก็ต้องเสียจังหวะการคิกดาวน์ลงมาที่เกียร์ 3 อีกครั้ง หรือถ้าความเร็วสูงแล้ว ระบบก็จะไม่ยอมคิกดาวน์มาที่เกียร์ 3 ดังนั้นถ้าจะให้ดี ก็ควรปิด OVERDRIVE ไว้ในช่วงที่ต้องการอัดตราเร่งที่ดุดันในช่วงความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ในเมืองปิดหรือเปิด ?
บางคนเข้าใจว่า ในเมื่อการขับรถยนต์ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด ไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ ก็จะไม่มีความจำเป็นต้องเปิด OVERDRIVE ไว้ เพราะเกียร์จะต้องเปลี่ยนสลับไปมา และขึ้นไปสู่เกียร์ OVERDRIVE โดยไม่จำเป็น เพราะเดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนลงเกียร์ต่ำสลับไปสบับมาซ้ำกันบ่อยๆ คิดว่าจะทำให้เกิดทั้งการสึกหรอและการกระตุกขณะเปลี่ยนเกียร์สลับไปมา

ในความเป็นจริง แม้จะขับในเมือง ก็ควรเปิด OVERDRIVE ทิ้งไว้ตลอดหากตอนนั้นไม่ได้เน้นอัตราเร่งในช่วงความเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือถึงจะเน้น แต่ใช้วิธีคิกดาวน์กดคันเร่งมิดเพื่อลดเกียร์ขณะเปิด OVERDRIVE ก็ยังได้

ถ้าใช้ความเร็วปานกลางขึ้นไป ไต่ไปอยู่เกียร์ 3 แล้ว หากจะมีการเปลี่ยนไปเข้าเกียร์ 4 (กรณีมี 4 เกียร์) แล้วมีการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงบ่อยๆ ก็ไม่เป็นอะไร เพราะเมื่อไรที่อยู่ในเกียร์สูงสุด ก็จะลดทั้งรอบเครื่องยนต์ ลดการสึกหรอ และประหยัดน้ำมันขึ้น เมื่อไรที่ต้องการเพิ่มอัตราเร่งก็แค่คิกดาวน์ อย่างรถยนต์ที่ไม่มีปุ่ม OVERDRIVE เข้าอยู่ในเกียร์ D หรือ D4 ก็เท่ากับเป็นการเปิด OVERDRIVE อยู่ตลอดเวลา

ปิด OVERDRIVE ช่วยเบรก

เมื่อขับรถยนต์มาด้วยความเร็วแล้วต้องการเบรก นอกจากจะกดแป้นเบรกตามปกติแล้ว หลายคนได้ใช้วิธีปิด OVERDRIVE หรือเลื่อนคันเกียร์ลงมาที่ D3 เพื่อช่วยในการเบรก

หลายคนชอบปฎิบัติเช่นนี้ เพราะต้องการใช้เครื่องยนต์ช่วยในการเบรก (ENGINE BRAKE) เหมือนการลดเกียร์ต่ำในรถยนต์เกียร์ธรรมดา ซึ่งก็ได้ผลบ้าง เพราะรถยนต์มีอาการหน่วงความเร็วลงเล็กน้อยเมื่อเกียร์ลดลงต่ำ

ในความเป็นจริงแล้ว เครื่องยนต์สามารถช่วยหน่วงความเร็วในกรณีนี้ได้ก็จริง แต่ไม่มากเลย ไม่คุ้มกับการสึกหรอของชุดเกียร์และเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นเลย ทดลองได้จาก ขับรถยนต์ด้วยความเร็วปานกลางบนเส้นทางที่ปลอดภัย แล้วปิด OVERDRIVE โดยไม่ต้องกดเบรก จะพบว่ารถยนต์ถูกหน่วงก็จริง แต่แค่นิดเดียว แล้วเริ่มใหม่ กดแป้นเบรกแรงๆ โดยไม่ต้องยุ่งกับเกียร์ดูสิ หัวทิ่มเลย
ควรใช้เบรกตามหน้าที่ ใช้การลดเกียร์ต่ำเมื่อต้องการเร่งความเร็ว หรือลงเขา

BRAKE TO SLOW / GEAR TO GO
บทสรุป

ถ้ายังงง ให้ลืมคำว่า OVERDRIVE ไป เปลี่ยนเป็นการเปิดใช้หรือไม่ใช้เกียร์ 4 (ในกรณีที่มีทั้งหมด 4 เกียร์) เมื่อไรที่อยู่ในเกียร์นั้น จะช่วยลดรอบเครื่องยนต์ ให้ความประหยัดน้ำมันฯ และลดการสึกหรอ แต่อัตราเร่งจะไม่ดีเท่าเกียร์รองลงไป

ปฏิบัติง่ายๆ เปิด OVERDRIVE ไว้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือต่างจังหวัด หากต้องการอัตราเร่งดีๆ เมื่อไร ให้กดคันเร่งจมมิดเพื่อคิกดาวน์แล้วแช่ไว้ หรือหากช่วงใดต้องการอัตราเร่งที่ดีในช่วงความเร็วสูงแล้วไม่อยากให้เกียร์เปลี่ยนไปๆ มาๆ ระหว่าง 3 กับ 4 ก็ให้ปิด OVERDRIVE ขับ เมื่อพ้นจากสถานะการณ์นั้นแล้ว ให้กลับมาเปิดใช้ตามปกติ

================================ คัดลอกจากบทความเรื่องเกียร์OVER DRIVE ในเกียร์อัตโนมัติ โดย วรพล สิงห์เขียวพงษ์
________________________________________
คุณ earth 091667856 ผมเปลี่ยนมาแล้วครับ
รายการที่เปลี่ยนก็ ยางขอบประตู (ตัวที่ติดอยู่กับประตู) 4 เส้น 8000 บาท
ยางซุ้มล้อหน้า 1 คู่ 4000 บาท
ยางขอบประตู ที่ติดกับตัวรถ 4 เส้น 2500 บาท (เป็นยางเทียบรุ่นเอานะครับ)
ตอนนี้ขาดก็แต่ ยางสักหลาด ทั้ง 4 บาน ตรวจสอบราคาแล้ว อยู่ที่ หน้า 1950 หลัง 2150 บาท ต่อบานครับ
ลองดูที่ร้านขายอะไหล่พวกยางๆที่เซียงกงปทุมวันสิครับ
นั่ง BTS ไปลงสถานีสนามกีฬา แล้วก็เดินไปซื้อได้เลย
ยางขอบกระจกหน้าและหลัง ร้านจะอยู่ข้างๆร้าน SCC ใกล้ๆกับพื้นที่ขายอุปกรณ์กีฬา
ต้องเอาของเก่าไปเทียบซื้อนะครับ
ขายเป็นเมตร ไม่กี่สิบบาท
ผมเคยไปเอายางขอบประตูท้าย หมดไปสองร้อยกว่าบาท (ซื้อมา 5 เมตร)
ยางกระจกบังลมก็น่าจะมีนะครับ

ไปที่ร้านขายยางขอบประตู ขอบกระจก
แถวๆเซียงกง จุฬาซอย 10 เป็นร้านอยู่ข้างๆร้าน SCC
ร้านนี้ขายแต่ยางๆ
เสียงรบกวนในห้องโดยสาร
เสียงรบกวนในห้องโดยสารไม่ได้มาจากยางขอบประตูเท่านั้น เสียงต่างๆที่จะกวนประสาทหูจะมาจาก เสียงยางดีดร่องถนน ยางบดถนน ยางหอน เข้าทางพื้นรถ เสียงก้องจากประตู เสียงจากผนังหน้าห้องโดยสาร(หลังห้องเครื่อง) ซึ่งพวกรถเข้าอู่บ่อยๆจะโดนช่าง(แม่ง)แงะจุกยางอุดต่างๆออกไปเวลาหารูร้อยสายไฟไม่ได้ หรือร้านเครื่องเสียงชุ่ยๆแงะออกแล้วร้อยสายไฟแอมป็เข้ามาแล้วอุดด้วยซิลิโคนดำแทน พอใช้ไปนานๆก้อหลุด และนี่เป็นปัญหาที่ทำให้แอร์ไม่เย็นด้วย พวกรถที่วิ่งความเร็วสูงนานๆแล้วแอร์ไม่เย็น มีกลิ่นเข้ารถตอนรถติดๆ อย่าไปโทษแอร์อย่างเดียว รูหลังห้องเครื่องเนี่ยแหละ

Damp ประตูช่วยได้มากกว่า(แต่แพงกว่าเยอะ) อย่างน้อยตอนรถติดๆเสียงท่อไอเสียแมงกาไซคันข้างๆก้อเข้าน้อยลงไปเยอะล่ะ

รื้อพรมออก แล้วปูฉนวนกันความร้อน(พรมอัดสีเทาที่เป็นใยๆขนๆ) ที่ร้านเครื่องเสียงเอามาบุตู้ซับนั่นแหละ ของเดิมติดรถมาก้อมี แต่บางมากๆๆๆๆๆ เหมือนกระดาษสา จะหนาแค่บางที่คืออุโมงค์เกียร์(รถขับหลัง ขับหน้าไม่รู้เรียกว่าอะไร) ซื้อแบบหนาๆซัก 1เซนมาปูเพิ่ม ทำเส็ดแล้วพรมในรถจะดูอุยๆ ตุ๊ยตุ่ยนุ่มน่าเหยียบว่าเดิมมาก ปูเส็ดเวลาซัดรถยาวๆแล้วร้อนเท้านี่หายไปเลย

damp+ปูพรมเพิ่ม ช่วยให้ห้องโดยสารเงียบมากกว่า เสียงยางเสียงก้องหายไปเยอะรวมทั้งเสียงท่อแมงกาไซที่จอดติดไฟแดงข้างๆ และเสียงคนขับกับคนนั่งซ้อนก้อได้ยินไม่ชัดเจน ต้องแง้มกระจกแอบฟังเอา ค่าใช้จ่ายแพงกว่าสอดใส่เงียบๆ แต่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ค่าพรมจำได้ว่าไม่เกิน 300 ปูได้สองคัน หน้าตัดกว้างประมาณ 2เมตรได้ ค่าปูไม่รู้ ถ้าปูเองลมแทบจับ ส่วน damp นี่ทำมาแผ่นละ 700
โดย: win3955   วันที่: 9 Jan 2008 - 09:56


 ความคิดเห็นที่: 1 / 14 : 317301
โดย: win3955
ขอโทษเพื่อนๆด้วยนะคับที่โพสหลายครั้งแต่ กระทู้นี้คงเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆในเวป จึงขอโพสให้เพื่อนๆที่เข้ามาใหม่ได้อ่านด้วยนะคับ จะได้เป็นแนวทางในการดูแลรถมาสด้าของเพื่อนๆได้ มีอะไรก็แนะนำได้นะคับ
วันที่: 09 Jan 08 - 10:01

 ความคิดเห็นที่: 2 / 14 : 317303
โดย: win3955
เป็นสิ่งที่เพื่อนๆโพสแล้วบอกว่าดีคับ ทั้งอู่และร้านอะไหล่ แต่อาจจะไม่เรียบร้อยนะคับ เพราะไม่ได้เรียบเรียง ไม่ค่อยมีเวลา บางอันก็เกี่ยวกับรถโครโนสของผมนะคับ
วันที่: 09 Jan 08 - 10:08

 ความคิดเห็นที่: 3 / 14 : 317316
โดย: oxoxox
ทีแรกผมก็เห็นว่าดีนะ แต่ เนื้อหามันเหมือนเดิมเป๊ะๆ และยาวยืดแบบนี้ น้อยคนครับที่จะอ่าน เป็นผมเปิดมาเจอยาวแบบนี้หนีเปิงไปแล้วครับ หากระทู้สั้นๆตรงประเด็นอ่านดีกว่า

http://www.mazdaclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=32872

เข้าใจนะครับว่าคุณ win3955 อยากจะรวบรวมสิ่งดีๆให้เพือ่นๆได้อ่านกัน
คนใหม่ๆ ที่เข้ามาส่วนมากก็ search ปัญหาหรือข้อมูลของรถรุ่นนั้นๆ ก่อนแหละครับแล้วค่อยอ่านกระทู้ที่ search ออกมา
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้กระทู้ที่คุณตั้งขึ้นมามีประโยชน์จริงๆ ควรตั้งหัวข้อด้วยคีย์เวิร์ดที่คนส่วนมากจะ search ครับเช่น "อู่ดีๆ อู่ซ่อมมาสด้า เบอร์โทร อะไหล่/อะหลั่ย ราคาถูก" ฯลฯ

ที่ผมเขียนไปอาจจะทำให้คุณ win3599 รู้สีกน้อยใจเสียใจ แต่อย่าพึ่งหมดกำลังใจนะครับ ทำต่อไปครับ แต่ว่าช่วยกรุณาแยกหัวข้อหรือเรียบเรียงให้ดูน่าอ่านซักนิด แต่ถ้าไม่ค่อยมีเวลาก็ยังไม่ต้องโพสครับ ค่อยๆเรียบเรียงจนดีแล้วโพสทีเดียวเลย บอร์ดไม่วิ่งหนีหายไปไหนครับ
วันที่: 09 Jan 08 - 10:51

 ความคิดเห็นที่: 4 / 14 : 317327
โดย: แม็กโตะ
เพิ่มให้ เชียงกง ต่างๆ

ปทุมวัน
1.ใหญ่สุด แพงเกือบสุด ครบทุกอย่าง พี แอนด์ พี หน้าลานจอด สน. 02-2155452 02-2155454
2.ใหญ่ ราคาไม่แรง ครบทุกอย่าง SAM 02-2192425 02-2192426
3. ใหญ่ ราคาไม่แรง แต่ไม่มีเครื่อง เลิศโสภณ 02-2155455 02-2156918
4.ใหญ่ ราคาแรง เครื่องเพียบ โชคชัยดีเซล 02-2140922
5. เล็ก ราคากลางๆ เน้นทางท่อ+เครื่องเสียง สยามเซียงกง 02-214-2485
6. เล็ก ราคากลางๆ พวกของกระจุกกระจิก เอ็น ดี เจริญยนต์ 02 -2142924
7. เล็ก ราคาแรงมาก ของแต่งมีหน่อยเดียว เอ ออโต้ พาร์ท 02-6117714
8. กลางๆ ราคาไม่แน่นอน เครื่องกะพวกกระโปรง ขาว-ชาติ 02-6117864
9. ใหญ่ ราคาแรง ชอบปั๊วของ ศรีนครสแปร์พาร์ท 02-6118791
10. กลาง หลังๆไปรับทำแก๊ซติดรถ เอ็น พี โชวไก 02-215-1402
11. ปิ่นประทาน ที่ปทุมวันไม่ใหญ่ แต่บางนาใหญ่มาก เป็นเจ้าที่ตัดของกระจายให้รายเล็ก 02-2141016
12. รวมทรัพย์ กลางๆ มีเครื่องกะพวกไฟรถ ซ.26ท้ายซอย 02-2142028
13. ธนภัทร อะไหล่ ขาใหญ่พวกไฟหน้า ท้าย เลี้ยว กระจกข้าง ทุกยี่ห้อ หาได้ร้านนี้ ซ.กลาง 02-2155417
14. สมบัติกลการ กลางๆ เน้นเครื่อง ราคาแรงนิดหน่อย ซ.กลาง 02-6117832
15. ศิริพร เน้นพวกเบาะแตนๆ กะเกจ์นิดหน่อย ราคาแรง เจ๊เคี่ยวจัด ซ.กลาง 02-2140453
16. เคนอะไหล่ยนต์ กลางๆ ราคาใช้ได้ ของแต่งเล็กน้อย ซ.24 02-2169487
17.วีระวัฒน์กลการ ใหญ่ เน้นเครื่อง ซ.กลาง 02-2144204
18. ศรีฟ้ามอเตอร์ ของแต่งเล็กน้อย ราคาตามความซี้กะเจ๊ ซ.30 02-2140701
19. โส๓ณเทอร์โบ ร้านรับซ่อมเทอร์โบ มีลูกในร้านเป็นร้อยตัวได้ ซ.26 02-2152175
20. ชัยศิริยนต์ ของแต่งล้วนๆ ท่อ เกจ์ เยอะ ซี๊กัน ตาอ้ำ ซ.26 02-2140774
21. วีระวัฒน์กลการ กลางๆ เน้นเครื่อง ซ.กลาง 02-2144204
22. อินเตอร์อะไหล่ กลางๆเน้นที่ไฟหน้าหลัง เบาะ คอนโซล ซ.34 ใกล้ สน. 02-2151305
23. SLM ร้านเดียวกับ SAM แต่แพงกว่า? ลานจอดเล็กใกล้สน. 02-2168338
24. ตรีทศ อินเตอร์ ร้านเล็กแต่คุยว่าหาได้ทุกอย่าง ซ.28 02-2140924
25. ศุภโชคกลการ ติดสน. ขายของใหม่แต่งรถอย่างเดียว หลังๆราคาแพงเทียบกับวรจักรติดแอร์ 02-2167063
26. จิวฮะเส็ง เล็กๆแต่ของประกอบเครื่อง(ลูกสูบ ข้อเหวี่ยง ก้าน)เยอะมาก ซ.30 02-2140941
27. ธีระพันธ์คลัทซ์ ซ.กลาง เน้นที่คลัชตามชื่อ แต่อาจสู้ไก่คลัชไม่ได้ 02-6116412
28. ช.ประเก็น ถนนบรรทัดทอง สุดยอดปะเก็นเหล็ก 02-2152488
29. ไดรเวอร์มอเตอร์สปอร์ต ของเฮียเหน่ง ซ.กลางเกือบถึงพระราม4แล้ว 02-2155569
30. K.S.K อะไหล่ เล็กๆเน้นที่จักรยายเสือภูเขา ซ.28 02-2143116

วรจักรบ้าง
31. ป.รุ่งโรจน์ อะไหล่ยนต์ อะไหล่นิสสันทุกรุ่น ราคาลอประมาณ 20-30 % จากราคาห้าง
02-6210622-6
32. ชิงนำชัย พระรามสี่ใต้ทางด่วน ใหญ่มาก แต่เป็นของแตนๆ ราคาถูก(ตีซี๊สามพี่น้องเค้าแล้วกัน)
02-3502929-35
33. ชิงนำชัย ลาดกระบัง ใหญ่เช่นกัน เครื่องเยอะ ของแต่งมีมาพอควร พวกอีโวเยอะใช้ได้ ราคาถูกเช่นกัน
02-3268999

รังสิตบ้าง
34. ใหญ่สุด เอี่ยม อะไหล่ยนต์ เครื่องเยอะมาก 02-9017792-5
35. กลางๆ ไทยอินเตอร์ ของแต่งมาเป็นระยะๆ 02-9018284
36. กลางๆ ส.รุ่งเรือง ที่ว่ามีหน้า-หลังตัดพริมิร่าไฟเพชรไง ราคาโหด 02-9017390-1
37. เจอาร์แอนซัน ของแต่งล้วนๆ อยู่ทางขวาสุดซอย 02-9017470 แถวนี้จะมีร้านของแต่งอยู่ 2-3ร้านแต่ผมไม่มีเบอร์แล้ว
38. กลางๆ ของกระจุกกระจิก ชาติกลการ 02-9017289
39. กลางๆ เน้นจักรยานเสือภูเขา ราคาแรงใช้ได้ เอบีซี 02-5213849
40. เล็กๆ ขายพวกกระโปรงหน้า-หลัง S Y motor 02-9017512

บางนาบ้าง
1.ของแต่งสุดๆ RPA ซ.1 เฮียปืนหลังๆออกกล้องบ่อยแหะ 02-3171024-5
2.ของแต่งสุดๆเหมือนกัน ญาติปืน ซ.3 RPA 02-3163897
3.ของแต่งแต่แพง อ.กลการ ซ.7 02-3171718
4.ของแต่ง เน้นมิตซู over-act ตอนนี้เจ๊แกท้องอยู่ ซ.4 มือถือ 01-8143171
5.ของแต่ง เน้นฮอนด้า ตุ่น ซ.3 พี่แกขับเบนซ์500ขายของอ่ะนะ 02-3163889
6.เครื่องล้วนๆ ป.วัฒนยนต์ ซ.7 02-3164488-89
7.เครื่องล้วนๆ คร่ำ คูณ ซ.7 02-7511500-3
8.เครื่องกะช่วงล่าง ร้านใหญ่ ปิ่นประทาน 02-3164518-9
9.ไฟ กระโปรง เครื่อง เน้นของสิงค์โปร์ ตรงรุ่นบ้านเรา อาร์เค อะไหล่ ซ.1ก่อนข้ามคลอง 02-3250433
10.เครื่องกะกระจุกกระจิ๊ก เลิศบุญ ซ.5 02-3171679
11.โจ้ อะไหล่ยนต์ ติดกะโอเวอร์แอค ซ.4 02-3113251-2 พวกหน้าตัดเพียบมาก
12. SLS motor ซ. 5 ท้ายซอย เน้นอีโว 5 -6- 7 มาทั้งแพ แต่มี SR20DE UK มาทั้งแพ 2 ตัว 02-3165335-6
13. โตเจริญ ซ.1 ต้นซอยเลย มีฝาท้ายคามิโน่สีดำไง 02-3250600
14. พีซีอาร์ ซ.3 ต้นซอย พวกเบาะ กะพวกไฟหน้า-หลัง 02-3172035
15. เดชทัช ท้าย ซ.5 พวกเศษเล็กเศษน้อย 02-3164702
16. พ.พัฒนอิทธิฯ ซ.3 ข้าง RPA พวกเครื่องเสียง กะเครื่อง
17. SP autopart ท้ายซ.2 พวกเบาะ (ผมได้ไบรด์ราคาถูกร้านนี้แหละ) เครื่องเสียง ท่อ 02-3171804-5
18. เด่นชัยยนต์ เอาเข้ามาทุกอย่าง ดุมสกายก้อเยอะแต่ราคาแรง ซ.2 02-3168985-6
19. สุดซอย 1 ข้างร้านไฟเบอร์ เน้นของแต่ง ราคาแรง รู้แต่เบอร์มือถือ 01 -3431036
20. รวมทรัพย์ทวี ซ. 7 เน้นเครื่องกะของประดับรถนิดหน่อย 02-3164481

ที่มา
http://www.weekendhobby.com/offroad/kia/Question.asp?ID=6089
วันที่: 09 Jan 08 - 11:33

 ความคิดเห็นที่: 5 / 14 : 317425
โดย: win3955
รับทราบ และจะแก้ใขให้คับ อีกสักพักนะคับ และจะโพท แยกหมวดหมู่ให้ทีเดียวเลยคับ
วันที่: 09 Jan 08 - 16:45

 ความคิดเห็นที่: 6 / 14 : 317482
โดย: เซนท์โซเฟียร์
เยี่ยมเลยครับลุงวิน แต่ผมก็ อ่านจนจบเลยนะ (มีใบประกาศไรมอบให้ผมมั่งไหมครับ) แต่ก็อย่างที่ลุงวัว(oxoxox) บอกครับ ถ้าแยกเป็นหมวดๆ จะง่ายต่อการค้นหาครับผ๊ม
วันที่: 09 Jan 08 - 19:29

 ความคิดเห็นที่: 7 / 14 : 317488
โดย: พีร
จ๊าบบบบบบบ
วันที่: 09 Jan 08 - 19:57

 ความคิดเห็นที่: 8 / 14 : 317522
โดย: diNk uN LOck
เยี่ยมยอดครับ กระทู้นี้ดีจริงๆขอบคุณทุกท่านนะครับ
วันที่: 09 Jan 08 - 22:13

 ความคิดเห็นที่: 9 / 14 : 317653
โดย: เล็กจังค่ะ
เยี่ยมด้วยคนครับ ขอชมด้วยความจริงใจ.....( แม้จะยาวไปหน่อย)
วันที่: 10 Jan 08 - 14:37

 ความคิดเห็นที่: 10 / 14 : 317775
โดย: koko69
วันที่: 11 Jan 08 - 10:30

 ความคิดเห็นที่: 11 / 14 : 317791
โดย: colourkey zrom-zrom
น่าจะเพิ่มห้องเก็บ ไว้ที่หน้าหลักของเวปบอร์ด ท่านเวปว่ามั้ย?
วันที่: 11 Jan 08 - 11:43

 ความคิดเห็นที่: 12 / 14 : 317805
โดย: Amy
ขอบคุณค่ะ สำหรับกระทู้นี้ ดีมาก ๆ ค่ะ
วันที่: 11 Jan 08 - 12:25

 ความคิดเห็นที่: 13 / 14 : 345328
โดย: ช่างตี๋ครับ
ช่างตี๋เปลี่ยนเบอย์แล้วครับ 085-3383829
วันที่: 05 May 08 - 14:15

 ความคิดเห็นที่: 14 / 14 : 382267
โดย: orawan_tai
..... เพิ่งมาอ่านเจอคะ..เยี่ยมจริงๆ สุดยอด!!!!! ได้ความรู้มากๆ

ขอบคุณในความพยายามที่รวบรวมข้อมูลมาให้แก่คนที่ยังไม่รู้ในหลายๆ เรื่องนะคะ



วันที่: 29 Aug 08 - 13:28