Close this window

ปัญหาเรื่องแอร์รถไม่เย็นตอนกลางวันสามารถแก้ไขได้ // ขอโทษช่างแอร์ด้วยนะครับ ((เอามาฝากอ่ะ))
แอร์สู้แดดตอนกลางวันไม่ได้ แต่ตอนกลางคืนแอร์เย็นเป็นปกติ

ปัญหานี้มีทางแก้ผู้ใช้รถแก้ไขได้ด้วยตนเองค่าใช้จ่ายไม่เกิน 100 บาท .....ข้อคิดสำหรับผู้ใช้รถแอร์สู้แดดไม่ได้ตอนกลางวันแต่กลางคืนเย็นปกติ...ถ้ารถอาการแบบนี้วาลว์ ดรายเออร์ไม่เสียครับ...ถ้าสองอย่างนี้เสียเปิดแอร์ตอนไหนก็ไม่เ เย็น

รถยนต์ทุกยี่ห้อเมื่อใช้งานมา 2 ปีจะเริ่มมีปัญแอร์สู้แดดไม่ได้ปัญหานี้มีทางแก้และผู้ใช้รถแก้ได้ด้วยตนเอง ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 100 บาทยินดีให้คำแนะนำวิธีการแก้ไข

ฉีดน้ำยาล้างคอยล์ร้อนแอร์....ที่ด้านหน้ารถตามรูปครับ




ปล่อยให้น้ำยาทำงานประมาณ 1-5นาที...แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด..ผลที่ได้ตามรูป


ย้ำๆครับว่า...แอร์รถท่านต้องทำงานเป็นปรกติน่ะครับ...เพียงแต่มีปัญหาที่สู้แดดไม่ได้ เจอแสงแดดทีไรความเย็นละไม่มี...วิธีนี้แก้ได้แน่นอน100%ครับ



น้ำยาล้างตู้แอร์...มีหลายยี่ห้อครับ ที่นิยมก็ยี่ห้อ..อาปาเซ่...ราคา50-80บาท(แล้วแต่ร้านที่ขาย)แนะนำให้ไปหาซื้อที่ร้านขายอะไหล่แอร์บ้านน่ะครับ(ร้านที่ทำแอร์รถไม่ขายให้แน่นอน)



ขวดหนึ่งควรล้าง2ครั้งติดต่อกัน...ครั้งละ1/2ขวด...
ไม่ต้องไปเสียเงิน1000-10000ให้ร้านซ่อมแอร์...เอะอะก้อจะเปลี่ยนตัวโน้นตัวนี้ไปเรื่อย
.....มันเป็นเส้นผมบังภูเขา....

วิธีการฉีดล้างน้ำยาล้าง...
1.รถกระบะ....ถอดกระจังหน้าออก แล้วบีบขวดน้ำยาฉีดได้เลยครับ
2.รถเก๋ง...ถอดกระจังหน้าและพัดลมแอร์ออก หรือแล้วแต่รุ่น แล้วบีบขวดน้ำยาฉีดได้เลยครับ
....ฝาขวดน้ำยามีรูเล็กๆสำหรับบีบฉีดได้เลยครับ....

ท่านๆคงเคยเอารถไปซ่อมแอร์มาบ้างไม่มากก็น้อยกับอาการที่แอร์เย็นสู้แดดไม่ได้...เคยสังเกตุมั๊ยครับว่าเวลาที่ช่างเขาได้เปลี่ยนอะไหล่แอร์ไปหลายรายการ พอถึงเวลาที่ลองแอร์ช่างเขาก็จะทำดังต่อไปนี้
1.สตาร์ทเครื่องเปิดแอร์
2.เปิดพัดลมแอร์เบอร์สูงสุด ตั้งอุณหภูมิไว้สูงๆ
3.เร่งรอบเครื่องให้สูงๆ
4.เอาน้ำมาฉีดที่แผงคอยล์แอร์ด้านหน้า(คอยล์ร้อน)
5.เสร็จแล้วช่างก็บอกว่าแอร์เย็นแล้วครับ ทั้งหมดก็......บาทครับ

....พอจ่ายตังค์เสร็จขับรถออกจากอู่ซ่อมได้ไม่นาน พอเจอแดดแอร์ท่านพี่สู้แดดไม่ไหว...ต้องกลับเข้าเช็คใหม่ไม่รู้กี่รอบ หรือเปลี่ยนอู่หรือร้านซ่อมไปเรื่อยๆแก้กันไม่จบเสียที...

ทุกท่านที่ได้แก้ไขแล้วช่วยบอกต่อผู้ที่ใช้รถแอร์สู้แดดไม่ได้ด้วย เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ประสพปัญหานี้...การแก้ปัญหานี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์ ซีล โอริง และคอยล์เย็น น้ำมันจะประหยัดกว่าเดิมเพราะแอร์ตัดต่อเร็วกว่าเดิม ปัญหาแอร์สู้แดดไม่ได้เกิดกับรถทุกคันทุกยี่ห้อเมื่อใช้งานมา 2 ปี...การแก้ต้องแก้แบบเดียวกันทั้งหมดแล้วผู้ใช้รถแก้ไขเองได้ด้วยตนเอง
โดย: malang   วันที่: 4 Mar 2008 - 17:14

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 26 : 330975
โดย:
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ จะลองไปทำดู
แต่ที่บอกว่าให้ดูที่รูป
ฉีดน้ำยาล้างคอยล์ร้อนแอร์....ที่ด้านหน้ารถตามรูปครับ --> รูปไม่มีครับ
ปล่อยให้น้ำยาทำงานประมาณ 1-5นาที...แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด..ผลที่ได้ตามรูป --> รูปไม่มีครับ

ปล. รบกวนโพดรูปอีกครั้งครับ
วันที่: 04 Mar 08 - 17:48

 ความคิดเห็นที่: 2 / 26 : 330988
โดย: alek
เคยอ่านเจอนะครับ เห็นว่าได้ผลจริงๆ แต่ไม่ได้ลอง เพราะติดปัญหาต้องถอดกระจังหน้ารถออกเลยไม่มีเวลาได้ทำซักกะที ถ้าจะลองทำดูอาจจะเอาน้ำยาใส่เข้ากระปุกฉีดน้ำแล้วฉีดผ่านกระจังหน้าโดยไม่ต้องถอดไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า จะลองทำดูนะครับ
วันที่: 04 Mar 08 - 19:13

 ความคิดเห็นที่: 3 / 26 : 331029
โดย: นัทแปดริ้ว
น่าจะใช้ได้นะ
เพราะผมเคยลองตอนที่แอร์ไม่เย็น

ลองเอาน้ำมาสาดเข้าไปที่คอยล์ร้อน

แอร์ก็เย็นขึ้นมาทันที...แต่ซักพักก็ร้อนเหมือนเดิม





แต่อากาศร้อนนี่มีผลทำให้แอร์ไม่ทำงานด้วยหรือป่าวคับ
วันที่: 05 Mar 08 - 01:30

 ความคิดเห็นที่: 4 / 26 : 331051
โดย: art
เป็นแบบโพม ชนิดเดียวกับที่ใช้ล้างแอร์บ้านหรือเปล่าครับ
วันที่: 05 Mar 08 - 07:48

 ความคิดเห็นที่: 5 / 26 : 331062
โดย: t O r @ The Pirates
ม่ะช่ายแอร์ไม่ทำงานคร๊าบบบบ

จิงๆ คือมันระบายความร้อนม่ะทันง่ะ (ไอ้คอยล์ร้อนนั่นแหละ)

แอร์เลยม่ะเย็น

พอเราฉีดน้ำ หรือขับรถเร็วๆ แอร์ก้อจาเย็นขึ้นอ่ะคร๊าบบบบบ ^^

ว่าแล้วเสาร์นี้ไปล้างดีก่า
วันที่: 05 Mar 08 - 09:02

 ความคิดเห็นที่: 6 / 26 : 331064
โดย: nuntawut
เป็นข้อมูลที่น่าสนใจเหมือนกันครับ ถ้าใครทำแล้วได้ผลอย่างไรก็แจ้งให้ท่านอื่นๆทราบด้วยก็ดีครับ รถผมเองก็มีอาการแอร์รถไม่ค่อยเย็นตอนกลางวันแดดร้อนๆเหมือนกัน เวลาปกติเปิดพัดลมเบอร์1 อุณหภูมิประมาณกลางๆค่อนไปทางขวาก็เย็นสบายดี แต่บางวันร้อนจัดๆ เปิดพัดลมเบอร์3 อุณหภูมิค่อนไปซ้ายประมาณ9นาฬิกา คนนั่งหลังยังร้อนอึดอัดจนเพลียเลย
ส่วนว่าทำได้เองไหม สำหรับผมมันยุ่งยากตรงที่ว่าต้องไปถอดกระจังหน้าและพัดลมแอร์ออกนี่หละครับ ถอดก็ไม่ถูกและกลัวใส่กลับไม่ได้อีก ถ้าทำได้จริงก็คงไปให้ร้านทำให้ยอมเสียค่าแรงไม่กี่บาท
วันที่: 05 Mar 08 - 09:12

 ความคิดเห็นที่: 7 / 26 : 331065
โดย: nuntawut
แล้วอยากทราบเพิ่มเติมว่าการแก้ไขแบบนี้จะมีผลประมาณเท่าไร อีกหลายๆเดือนถึงกลับมาเป็นใหม่ หรือว่าอีกไม่กี่วันก็กลับเป็นเหมือนเดิม
วันที่: 05 Mar 08 - 09:14

 ความคิดเห็นที่: 8 / 26 : 331070
โดย: malang
มาแล้วครับรูป ผมทำแล้วกลิ่มมันหอมๆ อร่อยๆดี น่าทำนะครับ
วันที่: 05 Mar 08 - 09:28

 ความคิดเห็นที่: 9 / 26 : 331074
โดย: malang
P1
วันที่: 05 Mar 08 - 09:32

 ความคิดเห็นที่: 10 / 26 : 331075
โดย: malang
P2
วันที่: 05 Mar 08 - 09:32

 ความคิดเห็นที่: 11 / 26 : 331076
โดย: malang
จากที่สอบถามนะครับ เรื่องระยะเวลาเค้าบอกว่าอยู่ได้หกเดือน ถึง ปีนะครับ
วันที่: 05 Mar 08 - 09:34

 ความคิดเห็นที่: 12 / 26 : 331082
โดย: คนรักโปเต้
แล้วโปเต้ตัวไมเนอร์เชนจ์ถอดกระจังหน้า + พัดลมยังไงอ่ะคะ
อยากลองทำดูบ้าง เคยอ่านมาเหมือนกัน
เพราะแอร์จะไม่เย็นก็ช่วงแดดแรงๆอ่ะค่ะ
วันที่: 05 Mar 08 - 09:50

 ความคิดเห็นที่: 13 / 26 : 331106
โดย: taer
ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะไปหาซื้อมาทำดู
วันที่: 05 Mar 08 - 11:31

 ความคิดเห็นที่: 14 / 26 : 331125
โดย: malang
รถผมเย็นสบายแระ ท่านใดที่ไม่ค่อยเย็นโทรเรียกได้ครับ (คิดถูกกว่า Taxi นิดหน่อย) คริคริคริ
ผมแนะนำนิส ท่านใดไม่กล้าถอด ให้อู่เค้าถอดให้แล้วเราก็ซื้อน้ำยามา ล้างแล้วก็ใส่คืน (คงไม่กี่บาท) ผมถอดเองเพราะผมเคยชนเสา กันชนหน้าแตกเลยถอดไปทำ เลยพอรู้วิธีถอด (ไม่กลัวถอดเพราะเคยเห็นแล้ว แต่มันก็ง่ายนะสำหรับคนเคยถอด) ลองดูนะครับ ผมชอบตรงกลิ่นมันหอมๆอ่ะ ไม่รู้เกี่ยวกับที่เราล้างมั้ย
วันที่: 05 Mar 08 - 12:42

 ความคิดเห็นที่: 15 / 26 : 331211
โดย: นัทแปดริ้ว
ผลแค่ลองถอดออกมาแล้วก็ไช่น้ำเปล่าผสมกับผใซกฟอกแปลงสีฟันขัดพวกสิ่งสกปรกออกส่วนมากเป็นพวกแมลงและเศษใบไม้คับ

ผลที่ออกมา แอร์เย็นดีครับทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนเลยคับ

แต่ถ้าได้น้ำยาที่พี่เค้าบอกคงจะเย็นน่าดูเลยยย
วันที่: 05 Mar 08 - 19:18

 ความคิดเห็นที่: 16 / 26 : 331598
โดย: เจ
ของถูกระวังเจอโซดาไฟ ฟองฟู่ๆ ตู้กร่อนหมด ไปซื้อแบบเป็นโฟมมาจะดีกว่า ใครจะใช้ตามใจ
วันที่: 06 Mar 08 - 12:08

 ความคิดเห็นที่: 17 / 26 : 331783
โดย: Jan.Cronos
วันที่: 06 Mar 08 - 17:34

 ความคิดเห็นที่: 18 / 26 : 332200
โดย: nuntawut
อ่านดูจากกระทู้ต่างๆแล้ว พวกน้ำยาที่เห็นใช้ๆกันดูมันแรงเหมือนกันครับ เน้นที่ราคาถูก กลัวว่าใช้ไม่ระวังมันจะไปทำความเสียหายให้กับอุปกรณ์เหมือนกัน

ที่แนะนำว่าให้ใช้แบบโฟม พอจะมีคำแนะนำไหมครับ ว่าของยี่ห้ออะไร ราคาประมาณเท่าไร

ของผมใช้ protege ถ้าไม่ต้องไปถอดอุปกรณ์อะไรเนี่ยพอจะฉีดทำความสะอาดได้สะดวกไหม
วันที่: 07 Mar 08 - 09:15

 ความคิดเห็นที่: 19 / 26 : 332294
โดย: หวอ
ถ้ารถใครมีอายุอานามเก่าแก่หน่อยไม่แนะนำคับ
เพราะอาจทำให้ตู้รั่วได้ไม่คุ้มคับเนื่องจากน้ำยามันกัด
วันที่: 07 Mar 08 - 15:20

 ความคิดเห็นที่: 20 / 26 : 332341
โดย: Jan.Cronos
แผงแอร์ผมของเดิมติดรถมา 15 ปีแล้ว ล้างแล้วยังไม่รั่วเลยครับ
จริงๆ รถเก่าๆ น่าจะทำนะ ถ้ารั่วก็รั่วไปเลย มันถึงเวลาหมดอายุการใช้งานอยู่แล้ว
จะได้เปลี่ยนใหม่ไปเลย ราคาน่าจะอยู่ประมาณ 4พันกว่า
แต่รถใหม่นี่สิ ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะแผงแอร์ยังใหม่อยู่ ล้างไปก็ไม่เห็นผลมากหรอกครับ
ใช้น้ำเปล่าฉีดล้างก็พอแล้ว

ส่วนน้ำยาแบบเป็นโฟมก็น่าจะใช้ได้นะครับ ไม่เคยลอง
ปกติมักจะเห็นเค้าเอาไว้ล้างคอยล์เย็น

สำหรับคอยล์ร้อนหน้ารถที่ปะทะกับฝุ่นควันทุกวัน โดนละอองน้ำ
ไอน้ำมันจากไอเสียรถคันอื่นที่พ่นเข้าหารถเราอีก คราบจะเกาะแน่นทีเดียว
จะให้สะใจมันก็ต้องใช้น้ำยาสำหรับล้างคอยล์ร้อนนี่แหละครับ
โดยปกติแล้วแอร์บ้านทั่วไปเค้าก็ใช้น้ำยาตัวนี้แหละครับล้างคอยล์ร้อน

น้ำยาที่ใช้กันก็ซื้อมาจากร้านแอร์ครับ
จะเป็นแบบผสมเจือจางแล้ว ขวดคล้ายๆ น้ำกลั่น ราคาไม่เกิน 100 บาท
จริงๆ แล้วก็มีแบบเข้มข้นที่ขายเป็นแกลลอน ต้องเอามาผสมน้ำใช้เอง
แบบนั้นอันตรายกว่ามากครับ

ผมว่านะ น้ำยาล้างห้องน้ำบางตัวยังน่ากลัวกว่าอีกนะ แรงไม่ต่างกันเลย
ถ้ารถใครไม่มีปัญหาเรื่องแอร์ก็ไม่จำเป็นต้องทำนะครับ
นอกจากพวกชอบลองของ และชอบแกะโน่นทำนี่ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
พวกที่เวลาว่างๆ ชอบแงะรถตัวเองเล่นน่ะ อยากลองก็เชิญตามสบายครับ
แต่คนที่ไม่เคยทำรถเอง เคสนี้ถ้าอยากทำจริงๆ เอาไปให้ช่างทำให้ดีกว่าครับ

เรื่องแอร์นี่มีส่วนประกอบค่อนข้างมากทีเดียว จะแก้ปัญหาต้องค่อยๆ ไล่ไปทีละจุด
ยิ่งเป็นมาสด้า ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ส่วนประกอบยุ่งยากมากมายทีเดียว
พวกเซอร์โวต่างๆ ที่ควบคุมลิ้นปิดเปิดบางทีก็ฝืดหรือค้าง
ทำให้ลมผ่านเข้าฮีทเตอร์ไปบางส่วน ผสมกันออกมาก็ไม่เย็นเท่าที่ต้องการ
แผงคอยล์เย็นก็มีส่วนด้วย ถ้ารถเก่าๆ ที่ไม่เคยแกะล้าง
ก็มีส่วนทำให้ลมที่ผ่านแผงแอร์ไม่เย็นอย่างที่ควรจะเป็น เพราะครีบแอร์จะอุดตันไปด้วยฝุ่นโคลน
ยิ่งคนที่เอาหมาเอาแมวเข้ารถบ่อยๆ ลองให้ร้านแกะมาดูครับ ขนติดอยู่เต็มเลย
พัดลมแอร์และพัดลมหม้อน้ำด้วย ยิ่งในกรุงเทพรถติดตลอด พัดลมทั้งสองตัวสำคัญมากเลยล่ะ

ยาว... พอดีกว่า เรื่องแอร์เนี่ย ปัญหาใหญ่จริงๆ แก้ยากหน่อย ยากตรงที่จะหาตัวต้นเหตุนี่ล่ะ
วันที่: 07 Mar 08 - 16:38

หน้าที่: [1]   2