คือต้องจอดทิ้งไว้ตากฝนตลอด เพราะว่าไม่มีที่จอดที่มีหลังคาเลยครับ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน หลังๆมาเลยชอบเปิดฝากระโปรงฉีดโซแน็กอาทิตย์ละครั้งสองครับ แต่แบบว่ามือค่อนข้างหนักฉีดพรมไปทั่วห้องเครื่องจนเกือบจะชุ่มเลยครับ แหะๆ ไม่ทราบว่าเป็นวิธีที่ถูกไหมอะครับ อ้อ รถตาตี่นะครับ กลัวว่าระยะยาวอุปกรณ์บางตัวมันจะพังเอา แต่เหมือนทำแบบนี้แล้วมันสตาร์ทติดง่ายขึ้นกว่าก่อนครับ

โดย: SONAX   วันที่: 9 Aug 2008 - 11:43

 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 375537

โดย: BB

คำถาม

1. ครั้งแรกที่คุณตั้งใจฉีด sonax ก่อนที่จะรู้สึกว่าสตาร์ทเครื่องติดง่ายขี้น คุณเชื่อว่าอะไรครับ
2. มีจุดไหนของเครื่องทีคุณฉีดเน้นๆไปบ้างไหม ถ่ายรูปแล้วทำลูกศรชี้มาก็ได้ครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 375564

โดย: SONAX

.....อืม ครั้งแรกแถวๆสายหัวเทียนครับ กับสายพาน นอกนั้นพ่นไปทั่วเลยครับ
ครั้งต่อๆมาก็แบบเดิมครับ ตรงไหนมีสายอะไรก็ตามผมละเลงหมดเลย

T_T จะพังไหมอะคับ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 375565

โดย: สามหู

เคยฉีดตามขั้วปลั้ก ผล เครื่องสั่นทั้งคัน คาดว่ามันทำให้การนำไฟฟ้าแย่ลง

กว่าจะล้างมันออก เปลือง คอนแทค คลีนเนอร์

เอาไว้หล่อลื่น ก็ดีไม่เท่า นมค หยอด

แถมเค้าว่ามันกัดยาง ด้วยน่ะสิ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 375567

โดย: Aneka

ไม่ควรทำมากขนาดนั้นครับ ไม่เห็นประโยชน์ อาจเป็นโทษมากกว่า จะทำเมื่อก็ต่อเมื่อรถมีปัญหา

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 375571

โดย: BB

Sonax ป๋องเหลือง หรือ WD-40 หรือ Philips ฝาแดง ส่วนใหญ่ ถ้าฉีดภายในสายหัวเทียน หรือในจานจ่าย ตอนลุยน้ำท่วม จะช่วยขจัดความชื้นได้ ผมเห็นด้วยกับคุณ Aneka ไม่มีประโยชน์อะไรให้ทำ นอกจากให้ความแวววาวในระยะแรก จากนั้นน้ำมันเหล่านี้จะเริ้มจับฝุ่นทำให้ห้องเครื่องสกปรกง่าย เวลาทำความสะอาดก็ยากขี้น นอกจากนั้นถ้าฉีดที่พลาสติกและยาง พ+ย จะเริ่มกรอบ

1 ห้ามฉีดที่สายพานเด็ดขาด ผมรวมถึงจารบีและน้ำมันเครื่องด้วย อย่าให้โดนสายพาน มันจะทำให้สายพานแข็งและกรอบในที่สุด อายุการใช้งานจะสั้นลงเยอะ ห้ามเอาอย่างช่างมักง่าย เอาจารบีป้ายสายพานเวลาเสียงดัง รถถูกออกแบบมาให้ไม่มีเสียงสายพานดัง โดยปราศจากจารบี มันต้องมีเหตุอื่นให้เกิดเสียง เช่น สายพานหย่อน หรือ พูลเลย์เสีย หรือ ลูกปืนแตก จริงไหมครับ

2 จุดที่ต้องระมัดระวังต่อไปคือ ไดชาร์จ หน้าคลัชคอมแอร์ ห้ามส่ง sonax เข้าไปเด็ดขาด

3 นอกจากนั้นปลั๊กต่างๆ รวมถึงเซนเซอร์ต่างๆ ไม่ควรฉีด รวมถึง แอร์โฟล ปีกผีเสื้อ ISC ถ้าอยากทำความสะอาดให้ใช้น้ำยา Contact Cleaner ถ้าเป็นของ philips จะเป็นฝาสีฟ้า หรือ ยี่ห้ออื่นๆก็ได้ แต่ต้องเขียนว่า contact cleaner ฉีดห่างๆ เพราะแรงดันกระป๋องอาจมีผลต่อการทำงานของเซนเซอร์ เช่น Air Flow น้ำยาเนี้ยก็ไม่ควรฉีดโดนวัสดุที่เป็นยางโดยตรงด้วย

ถ้าอยากจะทำความสะอาด หรือไล่ความชื้นโดยรวมอย่างง่ายๆ ผมแนะนำให้ไปซื้อเครื่องเป่าลมไฟฟ้าหอยโข่งมาติดไว้ครับ คลองถมก็มีตัวละ 1000 ต้นๆ เป่าได้ทุกอย่างตั้งแต่หน้ารังผึ้ง กรองอากาศ ไปจนถึง firewall ฝุ่นหายหมด แอร์เย็น เครื่องยนต์สะอาดด้วย เป่ามันได้ทั้งคอม อาบน้ำหมา ไล่เหงื่อตอนซ่อมรถ ดีสุดๆ ครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 375921

โดย: ยอด

.ผมก็เคยทำ ดีนะที่รถยังไม่พัง

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 375972

โดย: zexwarior

ตามพี่ บีบีครับ
ฟินลิปส์ สีฟ้าไล่ความชื้นครับ ฉีดปุ๊บ จะแห้งเลย ไม่ควรฉีดหนา
--------สีแดง เป็นตัวหล่อลื่นมากกว่า