จะติด เกจ์วัด กันเครื่องฮีต ยังสับสนอยู่ครับ
ตอนนี้จะติดเกจ์วัด กันเครื่องฮีตครับ แต่ไม่เข้าใจว่า ควรจะติด เกจ์อะไร ดี
ระหว่าง อุณภูมิน้ำมันครื่อง กับ อุณภูมิน้ำ การทำงาน มันต่างกันยังงัย และควรติดอะไร
เพื่อกันเครื่องฮีต
ที่ งง คือว่า เมื่อน้ำแห้ง แต่น้ำมันเครื่องยังอยู่ และ นำมันเครื่องแห้ง แต่น้ำยังอยู่
มันก็จะฮีต ทั้ง 2 อย่างใช่หรือเปล่า แล้วจะติดเกจ์อะไรดี

มี ยี่ห้ออะไรแนะนำดี ครับ ไม่ต้องแพงมากนะครับ อยากได้แบบมี ไฟ เตือนด้วยครับมีหรือเปล่า
และจะติด อย่างไรดี ไม่ให้ ดูเกะกะ ใจอยากได้แบบ ติดกะเสา a ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

โดย: ไม่เคยติด   วันที่: 17 Dec 2009 - 16:15

 ความคิดเห็นที่: 1 / 17 : 530389

โดย: mid

ถ้ามีงบติด 2 อันก็ให้ติดทั้ง 2 เลย แต่ถ้าได้แค่อันเดียวก็แนะนำให้ติดน้ำดีกว่า และควรใช้ sensor เพิ่มต่างหากอย่าพ่วงกับของรถ
เวลา heat เกิน limit มันก็อันตรายทั้งคู่นั่นล่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 17 : 530390

โดย: BP1800T Powered By MES

เท่าที่รถมีมาให้ถ้าหมั่นดู ก็น่าจะเพียงพอนะครับ เว้นเสียแต่ไม่มีมาให้ดู เพราะติดเกจมันไม่ได้กันฮีต แต่ทำให้เห็นค่าความเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้ารถฮีต ยังไงมันก็ฟ้องทางเข็มวัดความร้อนอยู่แล้วครับ มันสัมพันธ์กัน oil temp กะ water temp

 ความคิดเห็นที่: 3 / 17 : 530400

โดย: Xavier Z

ใช้เซนเซอพ่วงต่างหากนะครับ ห้ามนำพ่วงกะรถเดิม

ไม่งั้นเข็มเซนเซอของรถอาจจะรวนด้วยนะครับ

ผมว่าทั้ง 2 อันไม่จำเป็นครับ

อุณหภูมิน้ำดูที่หน้าปัดได้อยู่แล้ว

ผมว่าติด volt กะ vacuum ยังเท่และได้ประโยชน์กว่าครับ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 17 : 530409

โดย: เซนท์โซเฟียร์

ผมติด โวลท์ เวคคั่มและวัดน้ำครับ ที่เครื่องฮีทครั้งที่แล้วรู้ก็เพราะ วัดน้ำนี่แหละครับ แรกๆมันขึ้นมากว่าปกติ ปกติ 80-90 วันนั้นมันขึ้น 100 แต่เกจรถมันขึ้นครึ่งเดียว (มากกว่าเดิมนิดเดียว) ผมเลยว่ามันแปลกๆ เผลอแป๊บเดียวขึ้น 120 จอดเลยครับ มองเข็มติดรถเกินครึ่งมาเป็น 3/4 ก็เลยรอดมาจนยกเครื่องนี่แหละครับ เล่าสู่กันฟัง

 ความคิดเห็นที่: 5 / 17 : 530411

โดย: พีร

ผมติดแบบสามช่องครับ

วัดน้ำร้อน วัดร้อนที่ฝาวาวล์น้ำ วัดน้ำมันเกียร์

และ

ไปซื้อนาฬิกาติดรถ มีวัอุณหภูมิในตัว และ มันดันมีแถมเซนเซอร์อีกจุดนึง

เลยเอาไปแหย่ที่ช่องแอร์ วัดอุณหภูมิแอร์อีกต่างหาก


สรุปว่า มีเซนเซอร์ 5 จุด

 ความคิดเห็นที่: 6 / 17 : 530521

โดย: ninja ดำ

ผมก็ติดแบบมี alarm เตือนเมื่อสูงเกิน วัดอุณหภูมิน้ำ อุณหภูมิเครื่องยนต์วัดที่ฝาวาล์ว และ แรงดันแบตเตอรี่

 ความคิดเห็นที่: 7 / 17 : 530529

โดย: Switch_ON!

มันวัดต่างกันอยู่แล้ว และหน้าที่ของน้ำหล่อเย็น กับน้ำมันเครื่องก็คนละจุดประสงค์กันอยู๋แล้วครับ ดังนั้นไม่ต้องงงครับ มันคนละหน้าที่กัน แยกกันเด็ดขาด การเตือนก็บอกคนละเรื่องกัน อยากรู้ทั้งหมดต้องติดทั้งคู่ครับ

น้ำหล่อเย็น หรือระบบหล่อเย็น (Cooling System) - ใช้เพื่อลดความร้อนของเครื่องโดยการเอาน้ำ(ที่เย็นกว่า)ไปวิ่งผ่านตัวเครื่อง ซึ่งร้อนขึ้นเพราะการจุดระเบิด (ก็จะได้น้ำร้อนออกมา) แล้วไประบายความร้อนออกทางหม้อน้ำ (โดยอากาศ) เพื่อลดความร้อนของน้ำและหมุนเวียนกันต่อไป

การวัดความร้อนน้ำ ก็เพื่อเตื่อนในหลาย ๆ เรื่อง เช่นถ้าเครื่องทำงานหนักไป แบบว่าซัดหนักเท้าไปนาน ๆ เครื่องก็ร้อนเร็วแถมความร้อนสูง ระบบหล่อเย็นไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน อุณหภูิมิน้ำ มันก็จะสูงขึ้น ถ้ามีการติดเครื่องวัดไว้เราก็จะรู้ได้ตัวได้เร็วขึ้น เบาเท้าได้ทันไม่ต้องทรมานเครื่องต่อไป หรือ ที่ส่วนใหญ่เจอกัน พัดลมไฟฟ้าไม่ทำงาน น้ำจะร้อนเร็ว เวลารถไม่ได้วิ่ง เพราะไม่มีลมผ่านหม้อน้ำ เราก็จะรู้ได้เร็วอีก ซ่อมได้ทันก่อนเครื่องฮีท

ข้อดีของเกจพวกนี้ที่ดีกว่า ของติดรถคือ มันละเอียดกว่า ช่วงวัดจะกว้างกว่า จะเท่าที่สังเกตุมา เกจติดรถ จากระดับปกติ (กึ่งกลาง) จนไปถึง 3/4 จะอยู่ราว ๆ 20 องศาได้ นั้นคือ ถ้าเริ่มร้อนเกิดปกติไปนิดหน่อย ๆ เข็มมันจะไม่ขยับจนสังเกตุได้ รู้ตัวอีกที มันก็พุ่งไปจนเกือบจะสุดแล้ว แต่ถ้า เกจแต่ง ๆ มันจะละเอียดกว่า ขยับกันที่ละช่อง ช่องละองศา สังเกตุได้ง่ายชัดเจน

แต่ทั้งนี้ ถ้าหากหม้อน้ำแห้ง มันจะเตือนได้ช้ากว่าเกจติดรถ เพราะเกจติดรถ มันก็ติดกะเสื้อสูบรถด้วย หรือบางรุ่นก็อยู๋ใกล้กับวาวล์น้ำ พอจะวัดอุณหภูมิเครื่องได้ แต่เกจแต่ง มักจะเอาไปติดคันตรงท่อยางเข้าหม้อน้ำ ซึ่งหากน้ำแห้งไปแล้ว การวัดความร้อนก็จะทำไม่ได้ไม่ดีเท่ามีน้ำวิ่งผ่าน

อีกเรื่องคือ เกจวัดแรงดันน้ำมันเครื่อง (Oil Press) และ อุณหถูมิน้ำมันเครื่อง (Oil Temp)
ดูที่ตัว Oil Temp ก่อน - จะต่างกับ Water Temp ตรงนี้ ระบบน้ำ มันจะมีระบบระบายความร้อนเอง แต่ Oil จะใช้ ระบบน้ำมันแหละ มาช่วยระบายความร้อน ถ้าอยู่ ๆ Oil Temp สูงขึ้นผิดปกติ ก็จะสะท้อนไปที่เรื่องของระบบหล่อเย็นด้วยนั้นเอง

ถ้าให้เทียบแล้ว Oil Temp จะสะท้อนความร้อนของเครื่องได้ตรงจะจุดกว่า ยิ่งพวกรถผูกโบด้วยแล้ว ต้องเอาน้ำมันเครื่องไปเลี้ยง แกนโบด้วย ความร้อนมันก็จะยิ่งสูงขึ้นได้ง่าย ถ้าเกิดลิมิตไปแล้วจะได้ยกทีนได้ทันเวลา ก่อนอะไรจะกลับบ้านเก่าไว (Oil Temp อาจจะสูงได้ด้วยที่ Water Temp ไม่สูงก็ได้ เพราะระบบหล่อเย็นทำงานปกติ แต่ น้ำไม่สามารถช่วยระบายความร้อนมาได้เร็ว เพราะมันไม่ได้ผ่านความร้อนจากน้ำมันไปสู่น้ำตรง ๆ แต่ผ่านไปทางผนังเครื่องอีกที กรณีนี้ต้องใช้พวก Oil Cooler ช่วยระบายความร้อน จากน้ำมันสู่อากาศตรง ๆ)

แต่กระนั้น Water Temp ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดีเพราะมันแสดงถึงประสิทธิภาพของระบบหล่อเย็นของเราตามที่อธิบายไปแล้วนั้นแหละ ไม่ใช่ว่ามี Oil Temp แล้วไม่มี Water Temp ก็ได้ แต่มันขึ้นอยู่กับกว่าเราสนใจที่จะดูค่าไหนเป็นพิเศษรึเปล่า (แต่อย่างน้อยของติดรถก็มีมาให้เราดูได้ระดับนึงอยู่แล้ว แค่ไม่ละเอียดแค่นั้น วัดหยาบ ๆ)

อีกตัวคือ Oil Press - ก็คือแรงดันน้ำมันเครื่อง ในเครื่องยนต์ มันจะมีปั๊มดูดน้ำมันจากอ่างน้ำเครื่องด้านล่าง เพื่อฉีดขึ้นไปเลี้ยงวาล์ด้านบน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครื่อง ซึ่งไอนี่แหละคือแรงดันที่เราจะวัด ถ้าวันนึ่ง แรงดันตัวนี้สูงหรือต่ำผิดปกติ ก็จะบอกเราได้ว่า ระบบน้ำมันเครื่องผิดปกติ อาจจะเป็นได้ว่าปั๊มน้ำมันเครื่องตัน กรองตัน น้ำมันขาด (ไม่มีให้ดูดแล้ว แรงดันก็ตก) ฯลฯ....

 ความคิดเห็นที่: 8 / 17 : 530553

โดย: Nuay@Protege

ไม่เห็นต้องติดเพิ่มเลย

ถ้าห่วงเรื่องโอเวอร์ฮีท ก็ดูที่อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเป็นหลัก
เข็มความร้อนในรถ ก็วัดจากอุณหภูมิน้ำนั่นแหละครับ
เพราะฉะนั้น ถ้าขับแล้วหมั่นดูว่าเข็มมันไม่ขยับตัวไปใกล้ H บ้าง
ก็น่าจะไม่เกิดอาการโอเวอร์ฮีทได้หรอก

ส่วนเรื่องน้ำมันเครื่อง มีไว้หล่อลื่นการทำงานของวัสดุในเครื่องยนต์
ที่ต้องมีการเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว และเสียดสีกันไปมา
อุณหภูมิน้ำมันเครื่องมักจะไม่เกินระดับที่สูญเสียความหนืดของมัน
ยกเว้นในกรณีรถเครื่องเทอร์โบ ที่มีการใช้งานหนัก บูสหนักมากๆ
ก็จะทำให้อุณหภูมิน้ำมันเครื่องสูง จนกลายเป็นของเหลวใส หล่อลื่นไม่ได้
เมื่อนั้นไม่ใช่เครื่องฮีทครับ ชิ้นส่วนข้างในละลายกันหมดแน่นอน

ถ้ากลัวเรื่องแรงดันน้ำมันเครื่อง ก็ดูจากไฟเตือนบนหน้าปัดก็พอแล้ว
ทุกอย่างอยู่ที่การสังเกต...มีเกจ์วัดเพิ่มก็คงไม่สามารถป้องกันอะไรได้

 ความคิดเห็นที่: 9 / 17 : 530625

โดย: Méchant (charu)

ผมกำลังจะไปติด วัดอุณหภูมิ เครืองโดยตรง คือเอาเซ็นเซอร์ ไปแปะกับตัวเครื่องยนต์เลย แสดงตัวเลขอุณหภูมิ สลับกับ แรงดันแบตฯ ราคา 850 พร้อมส่งคับ :-)

ข้อมูลเพิ่มเติมลองค้นหาในเว็บดูคับ โดยคำว่า ขันชัย น่าจะใช่นะ อิอิ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 17 : 530628

โดย: @NewSedanNo.001แตน ๆ

ูู^
^
^
ผมติดเหมือนข้างบน

ใช้มาครึ่งปี โอเค ดี

มีเสียงเตือน ด้วย

เผื่อบางช่วงลืม มองเข็ม

 ความคิดเห็นที่: 11 / 17 : 530787

โดย: Switch_ON!

การเอา senser อะไรไปใส่ในรถ อย่าลืมนึกถึงจุดที่ต้องติดด้วยนะครับ เพราะแต่ละจุดในเครื่อง มันก็ให้ผลไม่เท่ากัน ใช่ว่าติด ๆ เข้าไปก็เหมือน ๆ กัน แกนกลางยังไงมันก็ร้อนกว่าผิวนอกอยู่แล้ว


แต่ไม่ว่าจะติดอะไรก็ตาม ต้องหัดสังเกตุมันบ่อย ๆ ด้วยนะ ไม่งั้นก็ไม่ได้อะไรนอกจากความสวยงาม

 ความคิดเห็นที่: 12 / 17 : 530908

โดย: พีร

เหตุที่ติด เพราะว่าผมกลัวเรื่องหม้อน้ำ
รถมันก็ได้อายุหม้อน้ำรั่วแล้ว ( สองแสนโล )

วันนึง มันร้องเตือน
หม้อน้ำปริรั่วแล้วครับ
ความร้อนขึ้น 110 ตามที่ตั้งเตือนไว้
เกจ์วัดที่หน้าปัทม์ กึ่งกลางเท่าเดิม

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมไม่ติดเซนเซอร์

น้ำไม่มี เข็มมันไม่ขึ้น
เคยโดนมาแล้วครับ

 ความคิดเห็นที่: 13 / 17 : 530938

โดย: @NewSedan No.001

งั้น ต้องถอดเครื่อง มาติดที่แกนกลางซะแล้ว

 ความคิดเห็นที่: 14 / 17 : 531216

โดย: VanillaICE

ตอนนี้รถอยู่ที่อู่ เครื่องละลายเป็นเศษเหล็ก เพราะเชื่อเข็มมันอยู่ตรงกลาง กระพริบตาแป๊บเดียวทะลุ H แล้ว เงยหน้ามาอีกทีควันมาแล้ว เปิดฝากระโปรงต้องแทบวิ่งหนี 555+ จบเลย ต้องติดเกจน์วัดแยก โดยด่วน T^T

 ความคิดเห็นที่: 15 / 17 : 531217

โดย: VanillaICE

ตอนนี้รถอยู่ที่อู่ เครื่องละลายเป็นเศษเหล็ก เพราะเชื่อเข็มมันอยู่ตรงกลาง กระพริบตาแป๊บเดียวทะลุ H แล้ว เงยหน้ามาอีกทีควันมาแล้ว เปิดฝากระโปรงต้องแทบวิ่งหนี 555+ จบเลย ต้องติดเกจน์วัดแยก โดยด่วน T^T

 ความคิดเห็นที่: 16 / 17 : 531218

โดย: VanillaICE

ตอนนี้รถอยู่ที่อู่ เครื่องละลายเป็นเศษเหล็ก เพราะเชื่อเข็มมันอยู่ตรงกลาง กระพริบตาแป๊บเดียวทะลุ H แล้ว เงยหน้ามาอีกทีควันมาแล้ว เปิดฝากระโปรงต้องแทบวิ่งหนี 555+ จบเลย ต้องติดเกจน์วัดแยก โดยด่วน T^T

 ความคิดเห็นที่: 17 / 17 : 564017

โดย: จักร

เคยเครื่องฮีต จนสูบติด ทั้งๆที่เกจ์อุณหภูมิน้ำไม่ขยับเลย
เลยไม่ค่อยเชื่อตัวเกจ์ในรถเท่าไหร่ ตอนนี้กำลังหาเกจ์มาติดเพิ่มอยู่ กลัวจนประสาทเลย

ไม่โดนไม่รู้