Close this window

จูนแก๊สแลนติส V6 จาก 5.9 เป็น 8.9 กม./ ลิตร
แชร์ประสบการณ์ครับ ทดสอบการกินแก๊สจากการเติมถังแรกหลังจากจูนครั้งใหม่
คันนี้ติดแก๊สมา 4 ปีแล้ว ยังไม่เคยทำตัวเลขได้ดีขนาดนี้มาก่อน

แก๊สเติมเต็มถังตัดที่ 85% ใช้ไปดูจากเข็มที่ถังใช้ไปประมาณ 69% 85-69 =16%
ถัง 65 ลิตร 65*16%=10.4 ลิตร
ขับไป 93 กม. 93/10.4 = 8.94 กม./ลิตร
เติมแก๊สที่ราคา 10.99 เฉลี่ย กม.ละ 1.2 บาท

วิ่งแถวปิ่นเกล้า ตลิ่งชัน บางแค บางใหญ่ ราชพฤกษ์ ปีนขึ้นลงที่จอดรถเดอะมอลล์
ติดรถไฟบ้าง ไฟแดงบ้าง ยังไม่ได้เช้าไปติดหนักๆในเมือง ซึ่งถ้ารถติดหนักเท่าที่
ขับคันนี้มา จะกินเเพิ่มอีกไม่เกิน 1 กม./ลิตร

ตัวเลขนี้ ดีกว่าตัวเลขปรกติที่วิ่งมาโดยตลอด ถ้าวิ่งแถวนี้ได้แค่นี้ วิ่งทางไกลไป
ต่างจังหวัดน่าจะมีลุ้น 11-12+ แน่ๆ

ไม่เคยวิ่งใน กทม.ได้ประหยัดขนาดนี้มาก่อนครับ น่าจะดีกว่าตอนใช้น้ำมันด้วยซ้ำ
นี่เป็นแค่ครั้งแรกหลังจากจูนใหม่ คงต้องดูค่าเฉลี่ยจากการวิ่งจนหมดประมาณสัก
5 ถังอีกครั้ง หรือดูค่าเฉลี่ยสักเดือนนึง

แค่ได้ตัวเลขเฉลี่ยที่ 7-8 กม.ในเมือง หรือ 1.3-1.5 บาทต่อ กม. ผมก็แฮ๊ปปี้แล้วครับ
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)   วันที่: 21 Jan 2010 - 10:11

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 27 : 538137
โดย: SpyTT
ทำไงอะ
ผมยัง 6-7 โลลิตร อยู่เลย (7 โลลิตร ก็ดีใจแล้ว)
ผมวิ่งในเมือง 15 โลใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 45-60 นาที

ผมติดมา จะ5ปีละ ระบบดูด พึ่งเปลี่ยนผ้าหม้อต้มไป เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง (600 แนะ ถอดมา ของเก่ายังดีอยู่เลย แต่ซื้อมาแล้ว ก็เปลี่ยนซะ)

ผมใช้ แลมด้าคอนโทล บวกกับ ที่ เอ เอฟมิเตอร์ ดูประกอบตลอด มันก็วิ่งไปกลับตลอดนะ ไม่หนาไม่บาง

ส่งใส จะอยู่ที่ คนขับ ซะแล้ว งานนี้
วันที่: 21 Jan 10 - 10:40

 ความคิดเห็นที่: 2 / 27 : 538152
โดย: MooHeaven
เมื่อวานผมวิ่งไปกลับ กทม ชัยนาท ประมาณ 300 โล กลับมาเติม 300 บาทนิดเดียว
ทุกทีมีห้าร้อย แต่รอบนี้ขับนิ่งๆ 90-100
วันที่: 21 Jan 10 - 11:18

 ความคิดเห็นที่: 3 / 27 : 538160
โดย: Switch_ON!
ก่อนจูนให้เทียบกันน้ำมันดีกว่าครับ

ถ้าขับน้ำมันเฉลี่ยแล้วได้เท่าไหร่ จูนแก๊สให้เนียนโครต ๆ ก็ได้ไม่เกินน้ำมันครับ ถ้าเกินแสดงว่าจูนบางเฉียบเกินไป รอบสูง ความเร็วสูงรถจะไม่มีกำลังส่งแล้ว

อัตราบริโภคที่ยอมรับได้ และถือว่าปกติคือ อัตราเฉลี่ยของน้ำมัน-1 เช่น น้ำมันได้เฉลี่ย 9 กม./ลิตร แก๊สก็น่าจะได้เกือบ ๆ 8 กม. ต่อลิตร 7.5 หรือ 8.5 อยู่ราว ๆ นี้แหละครับช่วงกว้างมันจะแกว่งกว่าน้ำมันเยอะ ยิ่งเป็นแบบมิกซ์ จะยิ่งแกว่งกว้างกว่าพวกหัวฉีด
วันที่: 21 Jan 10 - 11:50

 ความคิดเห็นที่: 4 / 27 : 538162
โดย: SpyTT
งันของผม ก็คง โอ อะครับ
เพาะใช้ น้ำมัน ก็ ไม่เกิน 8 อิอิ
วันที่: 21 Jan 10 - 12:02

 ความคิดเห็นที่: 5 / 27 : 538236
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
ขอเขียนเล่าสักนิดว่าก่อนหน้านี้มันมีปัญหาอะไร เผื่อมีประโยชน์ต่อท่านอื่นที่ติดแลมด้าแล้ว
มีปัญหาเหมือนผมครับ

รถผมติดแลมด้ามาตั้งแต่เริ่มติดแก๊สเมื่อสัก 4 ปีก่อน ใช้ได้ดีมาตลอด จนมาระยะ 2-3 เดือน
ที่ผ่านมา มีอาการแปลกๆคือต้องจูนที่ sen บ่อยๆ เดี๋ยวหนาไปเดี๋ยวบางไป ทั้งๆที่ปรกติ
ผมแทบไม่ได้ไปยุ่งกับมันเลย

แถมกินแก๊สเยอะขึ้น จาก 6-7 กม./ลิตร กินเพิ่มไปที่ 5.5-5.9 กม./ลิตร แทบไม่เคยแตะ 6 เลย
ลอง reset เจ้าecu แก๊ส เพื่อให้มันทำ self learning ใหม่ก็ดีได้สักอาทิตย์ แล้วก็เป็นอีก
มีอาการเหยียบแล้วเงียบ.. ผสมเข้ามาด้วย

ขับไป ตวจ. รู้สึกได้ชัดเลย เคยวิ่งประมาณ 9 กม.+ ต่อลิตร พี่เค้าฟาดไป 7 กว่าๆ

เปลี่ยนกรองแก๊ส ถ่ายขี้แก๊ส ก็ยังไม่หาย จนที่สุดผมก็ลองซื้อชุดซ่อมหม้อต้มของโทมาเซ้ทโต้
หกร้อยกว่าบาท ซึ่งถอดดูสภาพไดอะแฟรมแล้วก็สมควรเปลี่ยนจริงๆนั่นแหละ
วันที่: 21 Jan 10 - 15:28

 ความคิดเห็นที่: 6 / 27 : 538237
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
อาการดีขึ้นนะครับ แต่มันก็ยังไม่หาย กินแก๊สเยอะและจูนไม่จบเหมือนเดิม
ตอนนี้เหลือผู้ต้องหาอยู่รายเดียวเท่านั้นก็คือเจ้าแลมด้าคอนโทรลนี่แหละ

เจ้าชุดนี้มันมีส่วนประกอบหลัก 2 ตัวคือ ecu และ stepping motor
ไม่ใครก็ใครใน 2 ตัวนี้แหละ (คิดว่า sensor ไม่เสียเพราะวิ่งน้ำมันได้ดีปรกติ)

ถอดลูกสูบใน stepping mortor ออกมาดู มีคราบเขม่าๆดำๆติดอยู่หนา
พอควร น่าจะเป็นตัวนี้แหละที่ทำให้เกิดการทำงานติดๆขัดๆ ไม่เชื่อฟัง ecu
ทำให้เดี๋ยวหนาไปเดี๋ยวบางไป

เอาใส่กลับเข้าไป ขับดีอยู่ 2 อาทิตย์ อาการเดิมกลับมาอีก ก็จูนกันไปใช้กันไป
เพราะไม่มีเวลาไปยุ่งกับมัน จนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขับไปส่งลูกเรียนพิเศษ
เลี้ยวรถแล้วมันดับครับ

สตาร์ทใหม่ติด เร่งเครื่องเป็นแก๊สแล้ว ตูม แบ็คครับ...เป็นการแบ็คครั้งแรก
จากที่เคยติดแก๊สมา 4 ปี สวิทช์ไปน้ำมันส่งลูกเสร็จกลับบ้านโดยด่วน
วันที่: 21 Jan 10 - 15:34

 ความคิดเห็นที่: 7 / 27 : 538252
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
ถอด stepping motor ออกไปเลยครับ เอา power valve มือหมุนที่ซื้อ
สำรองไว้มาใส่แทน หมุนเปิดหมดแล้วปิดกลับมา 1/4 รอบเพราะกลัวมันหลุด

จูนใหม่ครับ ปิด idle จูนแต่ sen อย่างเดียว แป๊บเดียวก็ขับไปรับลูกได้

เอ๊ะ...มันดีแฮะ ไม่มีอาการกดแล้วไม่ไป อาการรอบไม่นิ่งหายไปเยอะเลย ไม่มี
อาการบางไปหนาไปให้รำคาญ สรุปว่าเจอตัวปัญหาแล้ว

คำถามในใจต่อมาก็คือจะซื้อแลมด้าชุดใหม่ หรือใช้ power valve ต่อไปดี
เลยคิดว่าไหนๆเราก็ไม่เคยใช้เจ้าตัวนี้ ลองใช้สักพักจะเป็นไรไป

วันต่อมาว่าง ก็เลยเป็นที่มาของการจูนรอบนี้แหละครับ
วันที่: 21 Jan 10 - 15:57

 ความคิดเห็นที่: 8 / 27 : 538260
โดย: MiR@CLe
ของผม โนส 5ตู 4สูบ ครับ เดิมๆ ใช้มิกซ์ 28 มม. ครับ ตั้งไฟอ่อนลงหน่อย ใช้แก๊ส ในเมือง ราชพฤษ ปิ่นเกล้าเหมือนกันครับ ได้ 8 กม. ก่า ๆ นอกเมืองไม่เกิน 100 ได้ 11 - 12 กม ครับ ถ้าเข้าเมืองรถติด ๆ ได้ 6 ก่า ๆ ครับ ต้องลองจูนดูครับ ตอนผมติดอาทิตแรก เข้าไปให้ช่างจูน เกือบทุกวันครับ กว่าจะได้ นี่ช่างก็บอกว่ายังพอได้อีก ว่าจะไปจูนอีกหน่อยครับ คงจะได้ นอกเมืองที่ 13-14 กม. ครับ ส่วน น้ำมันวิ่งปกติครับไม่มีอืด
วันที่: 21 Jan 10 - 16:21

 ความคิดเห็นที่: 9 / 27 : 538263
โดย: Nuay@Protege
ผมว่าการวัดอัตราสิ้นเปลืองแบบไม่เติมจนตัดนั้น มีโอกาสคลาดเคลื่อนสูงมากครับ
ทางที่ดี น่าจะเติมเต็ม Reset 0 วิ่งจนใกล้หมดแล้วเติมเต็ม
แล้วค่อยวัดหาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงครับ

เข็มมาตรวัดที่เห็นนั้น เพี้ยนได้เยอะมาก
วันที่: 21 Jan 10 - 16:30

 ความคิดเห็นที่: 10 / 27 : 538271
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
คุณ SpyTT :

ผมจูนแบบนี้ครับ

ไหนๆเราก็มีตัวบอก oxygen sensor และ tps จากกล่อง ecu แก๊ส
ก็เลยเอามาใช้ในการช่วยจูนด้วย เสียบสายต่อเข้าคอมดูตัวเลขตอนเดินเบา
+ เปิดแอร์ + เปิดไฟ จำตัวเลขไว้ แล้วไปตั้งแก๊สให้เท่ากันเลย

ได้แล้วก็ไปหมุน sen กลับให้แก๊สเข้าน้อยลงจนเครื่องสั่น แล้วไปเพิ่ม idle
จนรอบนิ่งอีกครั้ง

ด้วยติดนิสัยตอนจูนแลมด้า ผมเลยปรับหม้อต้มให้ไฟมันติดเฉลี่ยทั้ง 3 ดวง
ตอนเดินเบา ค่าจะมากกว่าตอนเดินเบาน้ำมันเล็กน้อย เอาไปลองขับเลยครับ
ขึ้นเนินปากซอย ปรากฎว่ารอบไม่นิ่งเหมือนจะหนาไปหน่อย

กลับมาปรับใหม่ ลด idle ลง 1/4 รอบ กลับไปใหม่ คราวนี้รอบนิ่งสบายๆ
แล้ววิ่ง test ปรับ idle ลดลงอีก 1/4 รอบ จนไปเติมแก๊สครั้งนี้แหละครับ
วันที่: 21 Jan 10 - 17:33

 ความคิดเห็นที่: 11 / 27 : 538273
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
คุณ MooHeaven

วิ่งทางไกล 300 โล 300 บาทนี่ เครื่อง 1.8 หรือ V6 ครับ
วันที่: 21 Jan 10 - 17:36

 ความคิดเห็นที่: 12 / 27 : 538278
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
คุณ Switch_ON!

ผมใช้คันนี้มา 14 ปี ตั้งแต่ปี 95 เท่าที่เคยวิ่งน้ำมันมา ไม่เคยได้เยอะขนาดนี้
นะครับ ดีที่สุดวิ่งรอบนอกรถไม่ติดก็ประมาณ 8 กม/ล ทางไกลก็ประมาณ 11
มั้งครับ แล้วแต่ว่าจะขับแบบไหน

ผมคิดว่าที่มันประหยัดกว่าแลมด้า เพราะแลมด้ามันพยายามจ่ายให้พอดี แต่
ผมจูนบางกว่า คือผมยึดตัวเลขค่า o2 และ tps ของน้ำมัน ในจอ lov eco
ค่าของน้ำมันตอนเดินเบาจะอยู่ในโซน lean ติดแต่ไฟเขียวครับ

จากที่ทดลองขับมา ออกตัวปรกติ เร่งแซงปรกติครับ 0-120 ก็ปรกติ ที่ยัง
ไม่ได้ลองคือเกินกว่า 120 และ kick down เท่านั้น ไว้ลองแล้วจะมารายงาน
ผลเพิ่มเติมนะครับ

แต่ผมใช้ใน กทม.แค่นี้ก็เวิร์คแล้ว ถ้าออก ตจว. ถ้าอยากสนุกก็บิด sen เพิ่มอีก
นิดก็น่าจะโอเคนะครับ
วันที่: 21 Jan 10 - 17:56

 ความคิดเห็นที่: 13 / 27 : 538280
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
แก้ไขครับ ผมลบเลขผิดไปนิด รถผมปี 95 สรุปว่าผมใช้คันนี้มาแล้ว 16 ปี!!!!
มีใครใช้รถรุ่นนี้นานเหมือนผมบ้างไหมครับ จะได้มาเช็คกันดูว่าเปลี่ยนอะไหล่
อะไรไปมั่ง อะไรใกล้จะเจ๊งจะได้หามาสแปร์ไว้
วันที่: 21 Jan 10 - 18:06

 ความคิดเห็นที่: 14 / 27 : 538281
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
คุณ MiR@CLe

เฮ! เครื่อง 2000 ไม่ใช่มีผมคนเดียวที่ทำได้ 8 กว่าๆ วิ่งแถวเดียวกันเลยนะครับ
เติมแก๊สปั๊มเดียวกันด้วยรึเปล่าเนี่ย กินพอๆกันเลย

งี้ทางไกลผมมีลุ้น 12-14 กม./ล บ้างแล้วสิครับ
วันที่: 21 Jan 10 - 18:07

 ความคิดเห็นที่: 15 / 27 : 538283
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
คุณ Nuay@Protege

ปรกติผมก็วัดตอนเติมเต็มครับ reset 0 เติมเต็มถังใช้จนไฟแดงขึ้น แล้วเติมเต็ม
ถังอีกครั้งก็มากดหารกันดูว่ากี่ กม./ล จริงๆผมก็ทำวิธีนี้เป็นประจำแหละครับ
ทำมาตั้งแต่สมัยใช้ sunny คันแรกเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วน่ะครับ

สำหรับมาตรแก๊สในถังของผม เคยลองหารเป็นเปอร์เซนต์เทียบกันแล้ว ตัวเลขออก
มาพอๆกันครับ เติมเต็มเท่าไหร่ หารเป็นเปอร์เซนต์ก็ออกมาพอกัน

ที่ผมชัวร์ว่ามันประหยัดขึ้น เพราะไฟบอกปริมาณแก๊สมันฟ้องครับ ตอนยังไม่จูน
เติมแก๊สเต็มไฟดวงแรกจะดับประมาณที่ 50 กม.+- แต่เมื่อวานวิ่งมา 80 กม.ไฟ
ทั้งสามดวงยังติดครบเลยครับ เพิ่งมาดับเอาตอนที่ 90 กม.นี่แหละครับ

ไว้เติมเต็มถังจะเอาตัวเลขมารายงานอีกทีนะครับ
วันที่: 21 Jan 10 - 18:17

 ความคิดเห็นที่: 16 / 27 : 538419
โดย: SpyTT
โฮะๆ
รู้สึก หม้อผม เซนต์ กะ ไอเดิด จะทำงานไม่ค่อยสำพันธ์ กัน เท่าไรแล้วแหละครับ
ตอนนี้ เกือบ ปิด ไอเดิด อยู่
ฝากให้ แลมด้ามัน ทำงานคุมให้อะครับ
มิเตอร์มันก็แก่งหนาบาง ปรกติครับ
เกียร์ธรรมดานะเนี้ย
วันที่: 22 Jan 10 - 08:25

 ความคิดเห็นที่: 17 / 27 : 538472
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
คุณ SpyTT

เกียร์ธรรมดานี่ต้องประหยัดกว่าของผมอีกนะครับ ว่างๆลองหาพาวเวอร์วาล์ว
มาจูนเล่นดูครับ ถ้าอยากประหยัดรับรองว่าประหยัดกว่าแลมด้าแน่ๆ

ทุกวันนี้ผมเอากล่อง ecu ของแก๊สมาติดไว้ใต้ console ( เดิมผมต่อเข้ามา
ไว้ในห้องโดยสารอยู่แล้ว เพราะอยากให้มันเย็นหน่อย ดีกว่าอยู่ในห้องเครื่อง
ecu ของรถยังอยู่ในห้องโดยสารเลย ) ไว้เช็คดูความหนาบาง โดยดูจากไฟ
3 ดวงบนกล่อง ปรกติก็ติดอยู่ 2 ดวงคือเขียวกับเหลืองครับ แดงจะกระพริบ
แป๊บเดียวตอนตัดเป็นแก๊สใหม่ๆขณะเครื่องไม่ร้อนเท่านั้น
วันที่: 22 Jan 10 - 10:52

 ความคิดเห็นที่: 18 / 27 : 538503
โดย: จะเด็ด
ผมขอแชร์ไอเดียจากประสบการณ์นะครับ
ผมเริ่มมาจาก Fix แล้วขยับขึ้นมาเป็นแลมด้า
พอจะเห็นความแตกต่างอยู่บ้าง

รวมทั้งเครื่อง FP ที่วางในโปเต้ เป็นตัวที่ใช้คอล์ยคู่
ไม่มีจานจ่าย ที่เราจะไปขยับมาร์คอะไรได้เลย

ตอนแรกที่ใช้ Power Valve คู่กับ Mix รูเตา 32 มิล
ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน วิ่งประหยัดกว่าตอนนี้เสียอีก
เคยวิ่งได้ไปสุดที่ 160 เลยแหละครับ สำหรับ A/T แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง

แต่หลังจากที่เชิญกรองผ้า K&N ลงไปประทับเท่านั้นแหละ
Power Valve เอาไม่อยู่ครับ อากาศไหลเข้ามากขึ้น
เริ่มไม่เป็นสัดส่วนที่พอดีเหมือนเดิมแล้ว

ตอนนั้นเริ่มรู้ตัว ว่าต้องเอาอะไรสักอย่างมาคุมส่วนผสม A/F ใหม่
เอาว่าแยกกันระหว่างเดินเบา กับเร่งทำความเร็ว ให้ต่างกันได้
ก็เลยลงแลมด้าเข้าไป

ยอมรับว่า ถ้าขับเร็วสัก 140 ขึ้นไป
แล้วเทียบกันระหว่าง Fix กับแลมด้า
แลมด้าจะบริโภคมากกว่าอย่างชัดเจน

ถามว่าทำไม? อย่าลืมว่า หนาหรือบาง
นอกจากปริมาณเชื้อเพลิงที่จ่ายเข้าไปแล้ว
เรายังมีเรื่ององศาการจุดระเบิดอีกอย่าง

การตั้งไฟให้แก่ขึ้นเล็กน้อย อย่างเหมาะสม
น่าจะช่วยให้เห็นว่า หนาขึ้น อย่างชัดเจน
ลองไปดูวงรอบการทำงานของเครื่อง จะเข้าใจได้เองครับ

แต่ที่รอบสูง การ Advance ไฟไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
แถมบางครั้งต้อง Retard อีกต่างหาก
ซึ่งจูนเนอร์ที่เป็นงานจะบอกได้ ว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น

ถามผมว่าแลมด้าดีกว่ายังไง
ทั้งที่มันก็กินมากกว่า

ผมตอบว่าแรงม้าที่ยังออกครบๆ ครับ
เพราะผมเคยลองวิ่งสุดเท้าดูแล้ว มันก็ไหลได้เท่าน้ำมันแหละ

แต่ตอนที่ใช้ Power Valve ม้ามันออกไม่ครบครับ
เหตุผลคือ มันมีอะไรที่เปลี่ยนไปในการจุดระเบิด
การ Advance องศาไฟจุดระเบิดตลอดทั้งช่วง
จะทำให้ม้าลดลงแน่นอนครับ

แต่ผมคงบอกไม่ได้ว่า ลดลงไปกี่ตัว
วันที่: 22 Jan 10 - 12:06

 ความคิดเห็นที่: 19 / 27 : 538580
โดย: Michael Scofield (ปลาทู)
คุณ จะเด็ด

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาแชร์ไอเดียกัน ได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้โดยไม่ต้อง
ลองเอง ใครแวะมาอ่านก็ได้ประโยชน์ด้วย แบบนี้ดีครับ

ขอแชร์เพิ่มเติมด้วยนะครับ

รถผมเดิมๆ ทั้งภายนอก-ใน และเครื่อง( ติดเพิ่มแต่วิทยุและระบบแก๊สเท่านั้น
อ้อ มีแปลงด้านในท่ออากาศส่วนที่ย่น + ทำหม้อน้ำอะลูมิเนียมทั้งใบอีกอัน )

ติดแก๊สครั้งแรก มิกซ์เดิมที่ร้านใส่เบอร์ 33 มาให้ + กับจูนหนากว่า fix นิดๆ
ซึ่งเป็นสูตรปรกติในการจูนแลมด้า เพราะต้องเผื่อให้เปิดใช้ได้เต็มที่ ถ้ามากไป
ยังไงมันก็หรี่ให้เอง จากนั้นก็จูนคอมตั้งค่าเบื้องต้นไว้ แล้วไปขับจูนกันต่อ

ผมลองใช้ได้สักพัก รู้สึกว่าตอนใช้น้ำมันเหมือนอากาศมันไม่พอ เลยไปขยาย
จาก 33 mm เป็น 39 mm และใช่มาจนถึงตอนนี้ อัตราการกินแก๊สเท่าเดิม

ไฟไม่ได้ตั้งเพราะค่าออกเทนแก๊สกับน้ำมันห่างกันแค่ 10-15 เท่านั้น แต่ถ้า
ติด ngv ซึ่งออกเทนสูงกว่านี้ผมคงติด TAP ดีกว่า แต่ก็ไม่แน่นะครับ ว่างๆ
ผมอาจจะลองตั้งไฟแบบคุณจะเด็ดกับ LPG เล่นดูก็ได้

ตอนใช้แลมด้าชอบไหม ชอบสิครับ เพราะมันให้อารมณ์การขับคล้ายน้ำมันดี
ถ้าม้าต้องการหญ้าเยอะ ก็ป้อนหญ้าให้เยอะได้อย่างที่ม้าอยากกิน แต่ติดนิดเดียว
ตรงที่หม้อต้มโทมา 140hp ถ้าอัดกันจริงๆแล้ว ผมว่าป้อนหญ้าไม่ทันนะเพราะ
รุ่นนี้เค้าเน้นประหยัด

ตอนนี้ทดลองใช้ fix เพื่อทดสอบความประหยัดดูสักพัก แต่ถ้าต่อไปพบว่ามีความ
ร้อนมันเพิ่มขึ้นและมีผลต่อการสึกหรอของเครื่องแบบไม่คุ้มกัน ก็คงจะกลับไปหา
แลมด้าเหมือนเดิมครับ

แลมด้าเดี๋ยวนี้ตัวนึงพันกลางๆเอง สายไวร์ไว้อยู่แล้ว เสียบใส่ได้เลย 3 นาทีจบ
ใครรู้ที่ขายตัว stepping motor อย่างเดียว สัก 500 แนะนำด้วยนะครับ
เคยเจอใน gasthai ไม่รู้ยังหาซื้อได้อยู่รึเปล่า
วันที่: 22 Jan 10 - 16:22

 ความคิดเห็นที่: 20 / 27 : 538598
โดย: จะเด็ด
คุณ Michael Scofield ผมไม่ได้เล่น TAP ครับผม

เนื่องจากถ้าลงไป มันอาจจะกลายเป็นว่ามีการชดเชยมาจากทั้ง 2 ทาง
คือจากด้านของกล่องน้ำมัน และก็เจ้า TAP ที่ว่านั้น
(สำหรับพวกรถที่ปรับองศาไฟเอง อาจจะมีปัญหานี้)

เพียงแค่เราต้องเข้าใจว่า กล่องมันคิดยังไงกับตรงนี้เท่านั้นเอง
แล้วปรับความเร็วในการตอบสนองของแลมด้าให้เหมาะสมครับ

ถ้ามิกซ์ขนาด 39 มิล
ผมเห็นด้วยว่าหม้อโทมา 140HP ไม่พอครับ
วันที่: 22 Jan 10 - 17:02

หน้าที่: [1]   2