ขอโทษทีครับ มือไวไปอีแระ
ประเด็นคือ จะบอกว่า อีพริ้งค์ของผม มันวิ่งได้แล้วครับ......บ หุหุ
จากล่าสุดที่โดนเมาขับมาชน เมื่อ......5-6 เดือนก่อน นานมากจนจำไม่ค่อยได้แระหุหุ
ตอนนี้จัดการแต่งหน้าทาปากเรียบร้อยแล้ว กลับมาแรดได้ใหม่ พร้อมหัวใจใหญ่กว่าเดิม หุหุ
ก็ KL-ZE 6 เม็ด 200 ม้า 2พัน5 ซีซี ของค่ายเรานี่ล่ะครับ
ก็ไม่ได้ทำไรเพิ่มเติมมากมายนัก แค่เปลี่ยนเป็นเกียร์ธรรมดาสับเอง มาประจำการแทนออโต้ที่ติดเครื่องมา
แต่ว่าเกียร์ที่เอามาใส่ใหม่มี LSD ติดมาด้วย ไม่ได้เป็นเกียร์ของ Lantis V6 อย่างที่เจอๆ กัน เพราะเ้กียร์ธรรมดาที่ผมได้มานั้น มันเป็นเกียร์ธรรมดาของตัว K8 ที่อยู่ใน MX3 ตัวที่มี Limited Slip อยู่ด้วย แบบว่าได้มาแบบฟลุ๊คมากๆ หุหุ เฟืองท้าย 4.388 : 1
ส่วนเพลา ก็แน่นอนครับ ทำกันใหม่ วุ่นวายอยู่พักนึง แต่ก็สำเร็จมาวิ่ง และเทสได้ค่าต่างๆ มาให้ชมกันได้แล้วครับ
รอบเครื่อง ที่เกียร์ 5
ความเร็วหน้าปัด 100 กม/ชม. ที่ GPS วัดได้ 101 รอบอยู่ที่ประมาณ 3050 รตน.
ความเร็วหน้าปัด 120 กม/ชม. ที่ GPS วัดได้ 122 รอบอยู่ที่ประมาณ 3600 รตน.
ความเร็วหน้าปัด 140 กม/ชม. ที่ GPS วัดได้ 144 รอบอยู่ที่ประมาณ 4100 รตน.
นับว่าผิดคาดอยู่เหมือนกัน เพราะทีแรกคิดว่า รอบเครืองที่ความเร็วต่างๆ ที่ว่ามา จะสูงกว่านี้ซะอีก
ก่อนมาดูอัตตราสิ้นเปลือง มาดูแอคเซสเซอรี่ของอีพริ้งค์เพื่อประกอบการพิจารณากันหน่อยนะครับ
ยาง Nitto NT555 215-45-17
ล้อ Mazda 3 17" ไมเนอร์เชนจ์ (เขากวาง เกลื้อนๆ)
สปอยเลอร์หลังตรงรุ่น ตัวเล็ก ไม่ใช่ตัว มาสด้าสปีด นะครับ
ช่วงล่าง V6 เดิมทั้งชุด
โช๊ค V6 ซ่อมอัดน้ำมันใหม่แข็งกว่าเดิมประมาณ 20 % (วัดจากความรู้สึกนะครับ)
ท่อ SUS 2.5" ทั้งเส้น มีพักกลาง พักหลัง ปลาย HKS เสียงหวานจับใจ
เครื่องยนต์ KL -ZE เดิมๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย
น้ำมันที่ใช้ แก๊สโซฮอลล์ 95 ของ ปอ ตอ ทวย. ยังไม่ได้ลอง วีเพาเวอร์ นะว่าเป็นไง
น้ำมันเครื่อง คาสตอล GTX กระป๋องขาว ที่ใช้กับ แก๊สน่ะครับ
น้ำมันเกียร์เป็นของ ปอ ตอ ทวย ที่ใช้กับเกียร์ LSD โดยเฉพาะ
ไม่มีเครื่องเสียง เพราะพังแล้ว หุหุ
แล้วหลังรถก็แบกถังแก๊ส มีแก๊สอยู่ครึ่งถัง แต่ไม่ได้ใช้ กะยางอะไหล่บาง 17" 1 เส้น
มาดูอัตตราสิ้นเปลืองกันครับ อ้อ ตอนเทสเนี่ย เปิดแอร์วิ่งหนาวตลอดทางนะครับ
ครั้งแรก
วิ่งไปลพบุรี ไปกลับ ระยะทาง 397 กม. ใช้ความเร็วที่ 120-140 วิ่งกลางวัน
ใช้น้ำมันไป 36.54 ลิตร ลงตัวที่ 10.86 กม./ล. ทีแรกหารแล้วตกใจเหมือนกัน เออ มันกินน้อยกว่า BP อีกวุ๊ย
หลังจากนั้น แอร์ไม่เย็น กลับมาแก้ ทำแอร์ ถ้ายน้ำยาแอร์ กับ ล้างคอมแอร์ถ่ายน้ำมันใหม่
ตั้งรอบเครื่องใหม่ จูนโน่น นี่ เองใหม่จนนิ่งสุดๆ แล้ว เอาไปลองมาอีกรอบ หุหุ
ครั้งที่ 2 หลังจากปรับจูน
เส้นทางเดิมลพบุรี ไปกลับ แต่รอบนี้วิ่งมากกว่าเดิมเพราะทำธุระด้วย วิ่งไป 468 กม. ความเร็ว 120-140 วิ่งกลางวันช่วงบ่ายถึงเย็น
ใช้น้ำมันไป 40.35 ลิตร ลงตัวที่ 11.598 กม./ล.
ครั้งล่าสุดนี่ลองในเมืองครับ วันนี้เอง วันพุธ ที่ 2 มิ.ย. 53
เส้นทาง ปากเกร็ด ราชพฤกษ์ สาทร พระราม4 หัวลำโพง วรจักร ราชดำเนิน ประตูน้ำ รามคำแหง บางกะปิ ลาดพร้าว โชคชัย4 แล้วมาจบที่บ้านปากเกร็ด
ออกเดินทางตั้งแต่ 07.30 วิ่งตลอด แวะทำงานที่ สาทร ครึ่ง ชม. ไปซื้อของที่ วรจักร กับ พันทิพย์ แล้วไปส่งของ บางกะปิ เสร็จแล้วกลับมานอนออฟฟิศ โชคชัย4 ตกเย็นวิ่งกลับบ้านปากเกร็ด
ระยะทางโดยรวมใช้ไป 121 กม. มาเติมน้ำมัน หัวจ่ายเดิม เติมได้ 11.8 ลิตร
หุหุ คำนวณแล้ว ก็อยูที่ประมาณ 10.25 กม./ล. ตะลึงๆ ตึ๊งตึงๆๆ และแอบดีใจ
อ้อ .. อีกอย่าง ที่วิ่งในเมืองนี่ ผมใช้วิธีเหยียบครัชท์ ปล่อยไหล ออกตัวปล่อยครัชท์ไหล ไม่แตะคันแร่ง ให้มันไปด้วยแรงเครื่องมันนะครับ ตอนออกตัวไฟแดงรถติดๆ แบบกระดื๊บๆ น่ะครับ
โดยรวมถือว่าพอใจมากกกกกก ครับ
ที่ได้ประหยัดขนาดนี้ผมว่า อาจเพราะได้เครื่องค่อนข้างสดวิ่งจากญี่ปุ่นมาน้อย มากๆ
และก็ต้องขอบคุณนวลจันทร์การช่างในการบริการด้วย
โปรเจคต่อไป แต่คงอีกซักระยะ ล่ะครับ จะหาเฟืองท้าย 4.1 มาแทน 4.3 เพื่อรอบที่ความเร็วสูงจะได้ต่ำลงแล้วก็ประหยัดกว่านี้อีก หุหุ
ป.ล. ขากลับมาจากลพบุีรี รอบสองนี่ ลองของด้วยครับ พอดีเจอ ซีวิค fd 2.0 หน้าตาซิ่งๆ หน่อยมาจ่อตรูดก็เลย เ่ล่นๆ กันอยู่พักนึง ผมหลบให้เขาแซงแล้ววิ่งจิกตูดเลย หุหุเขาก็หนีเต็มที่อ่ะครับ กดไปที่ 170 กว่า ผมก็ยังตามอยู่ติดๆ มุดหนี ไปมา ก็เข้าทางเราครับ มุดด้วย มุดด้วย มุดไปมุดมาสงสัยเขาคงงงเหมือนกันอ่ะ ไมมันยังตามอยู่ฟระ พอได้ตรงโล่งๆอีกที ที่ความเร็วประมาณ 160 ผมสับลง 4 รอบฟาดไปที่ประมาณ 5500-6000 เนี่ยดูไม่ถนัด แต่เสียงนี่วี๊ดดด.............ดดดดดดดดด มั๊กๆ ดึงหลังติดเบาะอ่ะ โห..อึ้งเหมือนกัน พอวี๊ดดด ฉีกหนีไปมองกระจกหลังเขาไม่ตามมาแระ ผมก็เบาลงมาวิ่งที่ ทางขนาน แวะเข้าปั้ม นั่งจับขาตัวเองที่สั่นอยู่พักนึง หุหุ มันดีครับ
ป.ล.อีกที ที่เล่ามาข้างบนนี่ไม่ได้มาชี้ชวนให้ขับรถเร็วแบบประมาทกันนะครับ เพราะทางมันว่างจริงๆ และเป็นถนนพหลโยธินช่วง สระบุรีถึง หนองแค มัน 3 เลนตอนประมาณ บ่าย 3 ครึ่ง ค่อนข้างโล่ง แล้วก็อยากลองอีพริ้งค์ด้วย เลยจัดซะ 1 ยก หุหุ
.
.
.