ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษ สำหรับคุณ p_protege
ที่ให้ยืมรถมาทดลองกับอะแดปเตอร์ต่างๆ ของผม

จนทำให้ผมได้ข้อสรุปเรื่อง OBD II ในรถ Mazda รุ่นต่างๆ
ในที่สุด... สำเร็จการไปเมื่อวานนี้

แม้จะไม่ได้พบอย่างที่เคยมีความหวัง
แต่ก็ได้พยายามแล้วสุดความสามารถ

หวังว่าข้อสรุปนี้ จะเป็นประโยชน์กับสมาชิกบางท่าน
หรือที่พยายามจะคิดต่อยอดโครงการอะไรอีกหลายอย่างในอนาคตครับ

โดย: จะเด็ด   วันที่: 5 Jun 2010 - 09:38

 ความคิดเห็นที่: 1 / 16 : 568430

โดย: จะเด็ด

ถ้ายังจำกันได้นะครับ
กระทู้หลังสุดที่โพสต์ไปคืออันนี้

http://www.mazdaclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=62385&sh=OBD

ข้อสรุปมีอยู่ว่า Mazda รถเก่าเครื่องไทยๆ นั้น
ไม่มี OBD II เลยครับ

มีเฉพาะโปเต้ 2.0 เครื่อง FS-DE
และก็น้อง 3 ขึ้นไป

สำหรับ ตาตี่ นิว โครโนส และอื่นๆ
ฟาล์วแล้วทั้งหมด ผมยืนยันตามนี้ครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 16 : 568438

โดย: จะเด็ด

และนี่คือสิ่งที่ผมได้ค้นพบใน FS-DE
ของโปเต้ 2.0 ครับ

OBD II
Protocol ISO 9141-2

กรณีของน้อง 3 เป็น CAN Bus
Protocol จะเป็นอีกตัวหนึ่งไปเลย

 ความคิดเห็นที่: 3 / 16 : 568440

โดย: จะเด็ด

Live Data ของ FS-DE
ที่น่าจะอ่านค่าผ่าน OBD II ได้
มีประมาณ 10 กว่าพารามิเตอร์ดังนี้ครับ

(เสียดายซอฟต์แวร์เป็น Demo อ่ะนะ)

 ความคิดเห็นที่: 4 / 16 : 568442

โดย: จะเด็ด

รถ Mazda เก่าที่ใช้ขั้วต่อ DLC1 (17 + 8 pin)

ขั้วต่อนั้นมีชื่อเรียกทางเทคนิคอย่างเป็นทางการว่า
MECS Version 2

ซึ่งศูนย์ Ford/Mazda จะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า VCM/IDS
ในการอ่านค่าออกมาได้นั้น จนถึงขณะนี้...
ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันจะอ่าน Live Data อะไรออกมาได้บ้างเลย

 ความคิดเห็นที่: 5 / 16 : 568447

โดย: จะเด็ด

ใครใช้โปเต้ 2.0 เครื่อง FS-DE เดิมๆ
สามารถลงหัวฉีด LPG ที่เป็น OBD Auto Tuning
อย่างเช่น AC Stag-300 Premium ได้นะครับ

สำหรับน้องสาม
อยากให้ลองมองไปที่ชุดหัวฉีดรุ่น OSCAR CAN ดู

แต่ถ้าอู่ติดตั้ง สามารถทำให้คาบเวลาฉีด LPG
แตกต่างจากน้ำมันได้ในช่วง บวกลบ 15% แล้ว

ถึงไม่ได้ใช้ OBD หรือ CAN พ่วงมาที่กล่องหัวฉีด LPG
ก็น่าจะวิ่งได้ดีโดยไม่มีปัญหาอะไรมากนัก

คงเหลือเพียงแค่ต้องเข้าเช็คการจูนตามระยะที่อู่กำหนด
เพื่อ Calibrate ค่าต่างๆ บ้างตามสมควร

ตัวผมเองตอนนี้คบหากับ AC Stag-200
สุดแสนธรรมดา สำหรับรถ 4 สูบ
เหลือเข้าไปจูนเก็บอาการอีกสักครั้ง น่าจะจบยาวแล้วครับผม

 ความคิดเห็นที่: 6 / 16 : 568475

โดย: เซนท์โซเฟียร์

อ่าวแล้ว ZE อย่างผมนี่ อดเลย ชิมิ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 16 : 568481

โดย: Méchant

ขอบคุณมากมายคับ พี่ จะเด็ด

 ความคิดเห็นที่: 8 / 16 : 568519

โดย: .เต้ย.

อ้าว...พี่จะเด็ดหันไปคบหัวฉีดแล้วเหรอครับ
ใช้เป็นยังไงบ้าง สงสัยต้องตามไปบ้างแระ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 16 : 568563

โดย: จะเด็ด

เครื่องสัญชาติยี่ปุ่น
หรือที่เรียกว่า JDM ซึ่งรวมไปถึง FS-ZE ชวดทั้งหมดครับ

แต่ถ้าเป็นเครื่องโปเต้ของ US ละก็
FP-DE, FS-DE, FS-DET ตั้งแต่ปี 97-98 ขึ้นมา
ทั้งหมดมี OBD II ครับ
และส่วนใหญ่ในนั้นยัง Flash ROM ด้วยวีธีของ E-OBD ได้อีกแน่ะ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 16 : 568569

โดย: จะเด็ด

ถามว่าไปหากล่องโปเต้มือสองจาก US คุ้มไหม
ผมว่าไม่คุ้ม ถ้าใช้แค่ Fuel Trim มาช่วยทำ Auto-Tune ระบบ LPG
แต่ถ้าใครจะ Flash Rom ก็พอมองเห็นว่าคุ้มหน่อย

 ความคิดเห็นที่: 11 / 16 : 568586

โดย: จะเด็ด

ตอบคุณเต้ยครับ
เทียบกับแลมด้าที่ใช้มาก่อนนี้
ถ้าไม่นับเรื่องที่แลมด้าไม่ตัดรอบเหมือนหัวฉีด

ผมมีปัญหาเรื่องหนึ่งอยู่นานแล้ว
คือเดินเบา ทำให้ A/F พอดีไม่ได้ ต้องปล่อยหนาไว้ตลอด
เข้าใจว่าเป็นกันหลายคันอยู่

หัวฉีดไม่มีปัญหาในการคุมเดินเบา
และโหลดของเครื่องต่างๆ

ขับฝ่ารถติด ประหยัดกว่าแลมด้าชัดเจนครับ
รถติดบ้าบอๆ ในเส้นทางเดิมๆ
จากถังแคปซูล 58 ลิตร วิ่งจนแรงดันตกกดไม่ไป
หมดถังที่ 43 ลิตร

แลมด้าวิ่งได้ 245 กม.
หัวฉีดได้ 270 กม.

ทางไกลไม่ค่อยต่างกันมาก
แลมด้าประมาณ 440 กม.
หัวฉีด 465 กม.

ทั้งนี้ยังต้องไปจูนเก็บหัวฉีดอีกรอบนะครับ
สุดท้ายตัวเลขวิ่งทางไกล ทั้งแลมด้ากะหัวฉีดน่าจะใกล้กันมากกว่านี้

 ความคิดเห็นที่: 12 / 16 : 568596

โดย: จะเด็ด

เรื่องการวิ่ง
ผมมองว่าเครื่องไม่เกิน 140 ม้า
มิก 32 มิล กับแลมด้า แบบที่ผมเคยเป็น

ถ้าไม่กดแบบหนักหน่อยคือสัก 4 พันรอบขึ้นไป
ก็ไม่ได้เห็นว่าหัวฉีดดีกว่าเท่าไร

แต่เสียงที่ท่อไอเสียต่างกันเยอะครับ
หัวฉีดเสียงโหดกว่าและพลิ้วกว่าในเวลาเดียวกัน
(ผมเดินท่อเลส 2.5 ส่วนพักปลายไส้ 2 นิ้ว)

 ความคิดเห็นที่: 13 / 16 : 568739

โดย: .เต้ย.

พี่จะเด็ดไปติดตั้งร้านไหนครับ ค่าเสียหายประมาณเท่าไหร่
กำลังสนใจจะ upgrade อยู่เหมือนกัน
ผมก็มีปัญหาเรื่องจูนเดินเบาอยู่เหมือนกันแก๊สหนาตลอด

 ความคิดเห็นที่: 14 / 16 : 568781

โดย: จะเด็ด

ผมสำเร็จมาจาก Monster Garage ครับ
คงเป็นด้วยความคุ้นเคย คุณนัน คุณเกื้อ
ไกลบ้านหน่อยก็ยอม

เป็นความสบายใจของตัวผมเองครับ

ร้านอื่นๆ ที่ดีก็มีนะ เช่น คุณบอย รังสิต ที่หลายคนในนี้ไปกันก็ดีครับ
ราคาไม่หนีจาก Monster Garage และก็เข้าใจวิธีปรับระยะยก
รวมทั้งการ Calibrate หัวฉีดแต่ละหัวในชุดให้ Matching กัน
ไม่ธรรมดานะครับ คนนี้

 ความคิดเห็นที่: 15 / 16 : 568790

โดย: จะเด็ด

ราคาอัพเกรดจาก mix มาเป็นหัวฉีดในลักษณะนี้
ในกทม. มี 2 ระดับคือ
1) หย่อนลงมาจาก 2 หมื่นบาท (หย่อนมากน้อยแค่ไหน คุยกะร้านเองน่ะ)
2) ประมาณ 15-16k บาท

ราคาที่ถูกกว่า ระวังเจาะสดแล้วกันนิ
เดี๋ยวแหวนสูบดังแกรกๆ แล้วจะเศร้า

 ความคิดเห็นที่: 16 / 16 : 568854

โดย: ๐๐๑