Close this window

เห็นข้อความนี้เผื่อมีประโยชน์กับระบบเกียร์ออโต้ครับ
ปีหนึ่งๆ เราใช้รถนับพันกิโลเมตร ทำให้เกียร์ที่ทำงานหนักอาจจะมีปัญหาได้ ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ทราบว่าอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นบ่งบอกถึงเกียร์ที่กำลังมีปัญหา ดังนั้น เรื่องเกียร์ในสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นตอนสุดท้าย ผมนำอาการของเกียร์ออโต้ที่บ่งบอกว่ามีปัญหามาอธิบาย

เข้าเกียร์แล้วรถไม่ค่อยอยากจะออกตัว

อาการรถไม่ออกตัว โดยเฉพาะในเกียร์ D และหรือเกียร์ R อาการนี้หลายครั้งที่ ได้รับแจ้งจากผู้ใช้ ว่ารถไม่ค่อยวิ่ง สาเหตุเกิดขึ้นจาก น้ำมันเกียร์ มีปริมาณไม่ถูกต้อง เช่น น้อยเกินไปหรือมากเกินไป ถ้าพูดง่ายๆ ก็เกิดจากการขาดการดูแลตรวจตรา เพียงแค่เติมน้ำมันให้ได้ระดับที่ถูกต้องก็สามารถที่จะใช้งานได้ตามปกติ
แต่อาการนี้ถ้าเกิดขึ้นกับรถที่มีระยะการใช้งานมากกว่าแสนกิโลเมตรขึ้นไปและผ่านการดูแลบำรุงรักษาตามปกติตลอดเวลา ก็จะเกิดจากการสึกหรอภายในเกียร์ เช่น ชุดผ้าคลัตช์ ชุดวาล์ว ควบคุมแรงดัน การแก้ไขเป็นเรื่องใหญ่โตเสียเงินกันมาก เพราะต้องยกเกียร์ออกมาผ่าหรือเรียกว่าโอเวอร์ฮอล์เกียร์กันเลยทีเดียว

เข้าเกียร์ D หรือ R แล้วกระตุกหรือกระชาก

ปัญหานี้เช่นกันมักจะเกิดจากผู้ใช้รถไม่ตรวจสภาพและปริมาณน้ำมันเกียร์ หรือปริมาณน้ำมันเกียร์มากกว่าปกติ น้ำมันเกียร์ไม่ได้เปลี่ยนถ่ายตามปกติ และที่เกิดขึ้นง่ายๆ ก็คือออกรถในขณะที่อุณหภูมิของเครื่องยนต์ไม่ถึงเกณฑ์ทำงานปกติ พูดได้ว่าออกรถในขณะที่เครื่องยังเย็นอยู่ หรือเมื่อใช้งานไปแล้ว (เครื่องร้อนแล้ว) แต่น้ำมันเกียร์ยังไม่ถึงอุณหภูมิที่ถูกต้อง (เกียร์เย็น) หรือน้ำมันเกียร์ร้อนเกินกว่าที่กำหนด การแก้ไขต้องเริ่มที่ตรวจวัดระดับน้ำมันเกียร์รวมทั้งคุณภาพของน้ำมันเกียร์ ตามด้วยการตรวจเช็กระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ และน้ำมันเกียร์ หรือในเกียร์ออโต้รุ่นแรกๆ รวมทั้งที่ยังไม่มีระบบไฟฟ้าควบคุมมากมายนัก ก็ตรวจหรือปรับตั้งที่สายเกียร์

เกียร์เปลี่ยนเร็ว หรือช้ากว่าปกติ

อาการนี้เกิดจากการปรับตั้งสายเกียร์ที่ไม่ถูกต้อง (ในรุ่นที่มีสายเกียร์) แก้ไขโดยการปรับตั้ง ในรุ่นที่ควบคุมระบบไฟฟ้า เคลียร์เมมโมรีของสมองเกียร์ (Transmission Control Module) หรือตรวจสอบวาล์วควบคุมทางเดินน้ำมันด้วยไฟฟ้า น้ำมันเกียร์ มากหรือน้อยเกินไป รวมทั้งน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ แก้ไขด้วยการเติมหรือเดรนส่วนที่เกินออกหรือเปลี่ยนน้ำมันเกียร์การอุดตันของทางเดินน้ำมันเกียร์ในสมองเกียร์ (Valve body) แก้ไขด้วยการถอดสมองเกียร์ (โดยช่างที่ชำนาญ) ออกมาล้างทำความสะอาด มีการรั่วซึมภายในระบบเกียร์ของชุดเกียร์ต่างๆ เช่น แหวนกันน้ำมัน ลูกสูบวาล์ว (ลิ้นปิดเปิด ทั้งแบบกลไก และหรือไฟฟ้า)

เกียร์สุดท้ายไม่มีและหรือไม่มีคิกดาวน์

อาการไม่มีคิกดาวน์ถ้าเกิดขึ้นหลังจากการซ่อมเกียร์ (ผ่าเกียร์) เกิดจากการประกอบผิดพลาด ชิ้นส่วน (แหวนกันน้ำมัน โอริงกันน้ำมัน) ฉีกขาด ใส่กลับทาง ใส่ไม่ครบ แต่ถ้าเกิดจากการใช้งานมานานแล้วยังไม่เคยผ่านการซ่อมมาก่อนจะเกิดจากการรั่วซึมภายใน ก็ต้องผ่าเกียร์ เปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหาย
ออกตัว ต้องเร่งเครื่องใช้รอบสูงๆ

อาการนี้แม้ว่าจะวอร์มเครื่องก่อนออกรถแล้วก็ตาม แก้ไขโดยตรวจระดับน้ำมันเกียร์และคุณภาพของน้ำมันเกียร์ ถ้าน้ำมันเกียร์ถูกต้อง เกิดจากผ้าคลัตช์ในชุดเกียร์สึกหรอเสื่อมสภาพ แก้ไขโดยการยกเกียร์ผ่าเกียร์เปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอครับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเกียร์ออโต้จากประสบการณ์ดูเหมือนจะมีอยู่เท่านี้

ปัจจุบันเกียร์ออโต้ที่ติดตั้งมาในรถรุ่นใหม่ๆ มีรูปแบบหรือเรียกชื่อแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ผู้ผลิตเช่นเกียร์ CVT (Continuous Variable Transmission ) หรือเกียร์ลูกข่างหรือเกียร์โซ่ เป็นเกียร์ออโต้แบบใหม่ที่ชิ้นส่วนภายในและระบบการทำงานภายในแตกต่างจากเกียร์ออโต้ทั้งหมดที่กล่าวมาอย่างสิ้นเชิง และเริ่มมีใช้กันแพร่หลายในบ้านเรา ในรถเก๋งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ในบางยี่ห้อ มีรายละเอียดของการทำงานและชิ้นส่วนต่างๆ มากมาย ที่จะใช้โอกาสอื่นในการนำเสนอ

อย่างไรก็ตามในด้านของผู้ใช้รถแล้วการใช้ (การขับ) การดูแลบำรุงรักษาก็ไม่ต่างไปจากเกียร์ออโต้ที่กล่าวมาทั้งหมด เผื่อมีประโยชน์ครับ
โดย: va   วันที่: 15 Sep 2010 - 20:22


 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 592026
โดย: tangtang
วันที่: 15 Sep 10 - 20:57

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 592027
โดย: tangtang
เวลาใส่เกียร์ D หรือ R แล้วรอบเครื่องตก เกิดจากอะไร และแก้ไขยังงัยครับ
วันที่: 15 Sep 10 - 21:12

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 592030
โดย: ตานํา
ตอนนี้เป็นอย่างที่บอกมาหมดเลย รวมแล้วค่าซ่อมเท่าไหร่ครับ 626 TTL จะไปให้ช่าง ประภาส ดูไม่รู้ว่างหรือเปล่า
วันที่: 15 Sep 10 - 21:30

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 592032
โดย: cronosbo
ต้องเอาเก็บไว้ใน article ด้วย
วันที่: 15 Sep 10 - 21:44

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 592118
โดย: Goy
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ
วันที่: 16 Sep 10 - 10:32

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 592152
โดย: moodyblues
626 ของผมก็มีอาการเข้า D แล้วกระตุก ใช้ไปได้ซัก 2 ปี เกียร์ 4 เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ทำความเร็วไม่ดี
ต่อมาเวลาเข้าเกียร์ D แล้วเกียร์ไม่จับทันทีต้องรอสัก3 -5 วิ ถึงออกตัวได้ เอาแล้วๆๆๆ
อาการต่อมา เข้าR เดินหน้าเฉย เข้า N ได้อยู่ เข้า D ไม่ไปไหนเกียร์ไม่จับ จบข่าว
โชคดีได้เกียร์มือสองมา เลยผ่าเกียร์ตัวใหม่ เปลี่ยนของทุกอย่างที่จำเป็น(จำเป็นที่ต้องจ่าย)ซื้ออะไหล่เอง
ปะเก็นตัดเอง ล้างกรองใหม่(ซื้อไม่ไหวพงมั่กๆ) ประกอบใส่เสร็จใช้เวลา2วัน เสียเวลาวิ่งหาอะไหล่มากกว่าเวลาทำ ซะอีก ก็เลยลองด้วยตัวเอง ผลที่ออกมา
ออกตัวแบบว่าล้อฟรีได้เลย ซู้ดยอก ออกถนนโล่งๆดีกว่า ผลที่ได้
ต่างจากของเก่าโดยสิ้นเชิง เหมือนได้เกิดใหม่ รอบขึ้นแบบสั่งได้ ทำความเร็วได้ปรู๊ดปร๊าด
เกียร์สี่เข้าง่ายมากๆ สรุป ดีตั้งแต่ออกตัวจะไหลปลายเลยล่ะ ดีใจจนน้ำตาไหล(อันนี้เกินจิง)
..หากท่านใดมีอาการดังที่เจ้าของกระทู้อ้างไว้นั้น อย่ามัวนิ่งนอนใจผมขอร้อง
ตรวจเช็คเสียก่อนเนิ่นๆ อาจไม่ต้องเสียเงินมากจนเครียด
สุดท้าย ขอขอบคุณพี่ชายผมเอง และลูกทีมของเค้า ที่ช่วยเป็นธุระให้ สุดยอดเลย
[email protected]
วันที่: 16 Sep 10 - 12:43

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 592557
โดย: Pot 5d V6
ขอบคุณอย่างแรงครับ เข้าใจแล้วว่าทามมัยมันเข้าเกียร์แล้วต้องรอเดินหน้าหรือถอยหลัง
พอดีรถผมเพิ่งเป็นครับ ออกต้วก้ไม่มีแรง ก็เลยทำตามคำแนะนำนี้
ปรากฏว่าหายหมดเลครับอาการดังกล่าว เพียงแต่เติมน้ำมันเกียร์ DR II ลงไปประมาณ 3 ขวดนม
หายเลยครับ แสดงว่ามันแอบหยดและรั่วไปเรื่อย ๆ จนขาดการดูแล ตอนนี้จะคอยเช็คระดับสม่ำเสมอครับ ขอบคุณครับผม
วันที่: 18 Sep 10 - 14:09