Close this window

tributeสตาร์ทไม่ติดครับ ช่วยด้วย
อาการคือถ้าจอดแล้วดับเครื่องสักแป๊บเดียว 3-5 นาที
สตาร์ทใหม่ไม่ติดครับ ไดสตาร์ทหมุนปกติ อาการเหมือนน้ำมันไม่มา
แต่ถ้าทิ้งไว้สัก 20-30นาที สตาร์ทได้ครับ
จอดนานนานข้ามคืนไม่มีปัญหา แต่ล่าสุดอาการหนักทิ้งไว้เกือบชั่วโมงยังไม่ยอมติด
มีคำแนะนำบ้างไหมครับ ขอบคุณครับ
อ้อ รถ2.3ไม่ติดแก๊สครับ
โดย: Zoom2   วันที่: 13 Jun 2011 - 19:30


 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 650699
โดย: srithanon
นี้เมื่อคืนนี้ได้นั่งพิมพ์จะส่งเผลอไปโดนคีย์ตัวไหนของแป้นก็ไม่รู้ ข้อความตอบกระทู้หายหมด ลืมพิมพ์ที่ ไมโครซ็อฟเวิดก่อน
อาการของรถคุณขอแนะนำได้สองกรณีครับ
กรณีแรก อาจจะเป็นที่ระบบหัวฉีดน้ำมันรั่ว หากเป็นที่กรณีนี้ จะมีอาการคล้ายกับที่คุณบอกมา คือ ในกรณีที่จอดรถทิ้งไว้นานๆ หรือจอดในตอนเย็นแล้วเช้า ก็มาสตาร์เครื่องยนต์ขับไปทำงาน ในกรณีจะทำการสตาร์ทเครื่องติดปกติ แต่ในระหว่างการเดินทางหากจอดรถแวะข้างทาง เข้าไปทำธุระ ไม่เกินสองสามนาที่ ก็จะยังสตาร์ทได้ แต่หากนานไประดับห้านาทีขึ้นไปถึงสิบห้านาที จะสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก
ที่เป็นดังนี้ ในกรณีที่หัวฉีดน้ำมันรั่ว เมื่อมีการดับเครื่องยนต์จอดรถทิ้งไว้ไปทำธุระ 5-15 นาที น้ำมันที่รั่วจากหัวฉีดจะทยอยหยดลงมากองในท่อไอดี และสะสมกับระยะเวลาที่กล่าว ทำให้มีน้ำมันในส่วนผสมหนา ระหว่างอากาศกับน้ำมัน สตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก ในกรณีอย่างนี้ หากต้องการสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดง่ายขึ้น ให้ทำการเหยียบคันเร่งเครื่องยนต์ ให้สุด ทั้งนี้เพื่อต้องการที่จะให้ลิ้นปีกผีเสื้อทำการเปิดให้อากาศที่หน้าลิ้นปีกผีเสื้อ ผ่านไปยังท่อไอดีได้มากสุด ทำให้อากาศเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับอัตราส่วนผสม ระหว่างอากาศและน้ำมัน ถึงแม้ว่าอากาศที่ได้จะยังไม่เป็นไปตามอัตราส่วนผสมที่ถูกต้อง แต่ก็ช่วยให้สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ง่ายขึ้น
ในกรณีที่หัวฉีดรั่ว หากเราจอดรถทิ้งไว้นานๆ การรั่วซึมของหัวฉีดจึงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะว่า แรงดันน้ำมันในรางหัวฉีด เริ่มมีแรงดันลดลงเรื่อยๆ เมื่อหัวฉีดรั่ว จนกระทั้งแรงดันในรางหัวฉีด ไม่ค่อยมีแรงดันน้ำมันผ่านซีลยางบ่าหัวฉีด มันก็จะไม่รั่วออกมา และส่วนที่น้ำมันรั่วในช่วงแรกๆ มันก็ทยอยกลายเป็นไอไปหมด ทำให้การสตาร์ททเครื่องยนต์สตาร์ทได้ตามปกติ แต่จะรูสึกช้าไปหน่อย เพราะแรงดันในรางหัวฉีด ต้องรอให้ปั้มติกส่งน้ำมันขึ้นมาแทนที่ ที่พร่องไป ตอนหัวฉีดรั่วช่วงแรกๆ
อาการอย่างนี้หากสงสัยก็นำรถไปให้ช่างทำการถอดหัวฉีดออกมาทำการตรวจเช็คครับ
ในกรณีที่สอง ที่พบรองลงมาก็คือ เป็นที่กล่อง ECU มีวงจรของระบบขยายสัญญาณพัลส์ หรือวงจรที่สร้างสัญญาณพัลส์ IGT ไปให้วงจรช่วยจุดระเบิด สร้างไฟสูงจุดระเบิด ไม่สามารถที่จะ generate สร้างสัญญาณ IGT ขึ้นมาได้ เนื่องจากมีอุปกรณ์ของพวกคาร์ปาซิเตอร์ แบบอีเลคโทรไลท์ ที่ทำหน้าที่ฟิลเตอร์ โวลเต็จ ให้กับวงจรดังกล่าว เกิดการลีคในตัวมัน ทำให้เกิดค่าความต้านทานต่ำค่าหนึ่ง ทำให้กระแสไฟโวลเต็จที่ใช้เลี้ยงวงจร เกิดไหลผ่านลงกราวด์ ทำให้กระแสไฟโวลเต็จหายไปส่วนหนึ่งหรืออาจะเหลือไม่ถึง ค่าที่จะทำให้วงจรนั้นทำงานสร้างสัญญาณ IGT ขึ้นมาได้ ทำให้เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด
อาการนี้จะค่อยๆเริ่มเป็น จากแรกๆพอสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ จนเริ่มเป็นมาก คือมีการลีคของตัวคาร์ปาซิเตอร์ มากขึ้นจนค่าความ้านทาน ที่ยังคงมีมากๆในตอนแรก ก็ทยอยลดค่าต่ำลง จนนกระทั้งไม่มีคาวต้านทาน เท่ากับช๊อทเซอร์กิต คือไปช๊อทลงกราวด์หมด ไม่เหลือดร็อปกับการเกิดค่าความต้านทาน หากมีความต้านทานมาก ก็จะทำให้โวลเต็จยังคงตกคร่อมค่าความต้านทาน ทำให้ยังพอมีไฟหลงเหลือในวงจร แต่เมื่อใดค่าความต้านทานที่เกิดภายในตัวค่าคาร์ปาซิเตอร์ ลดลงมีค่าน้อยก็ยิ่งทำให้โวลเต็จไหลลงกราวด์มากขึ้น จนไม่มีไฟโวลเต็จให้กับ + Vcc ของวงจร
เมื่อเป็นดังนี้ ก็จะไม่มีไฟให้วงจรสร้างสัญญาณ IGT เราจึงสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด
ในกรณีอย่างนี้ ขั้นแรกให้ท่านเจ้าของรถ ถอดดึงเอากล่องหัวฉีดออกมาตรวจดู พวกคาร์ปาซิเตอร์ ที่เป็นอีเลคโทรไลท์ หากใช่ ที่ตัวมันจะมีคราบตระกรันของน้ำกรดอีโลคโทรไลท์ สีเขียวอ่อนๆ จับที่ขาของคาร์ปาซิเติร์ และที่ตัวคาร์ปาซิเตอร์ จะบวมพองให้เห็น หากพบดังนี้ ให้ถอดกล่องไปให้ร้นซ่อมวิทยุ ทำการเปลี่ยนตัวคาร์ปาซิเตอร์ตัวนั้นเสีย โดยมากจะมีค่าประมาณ 10 Mfd/50V ราคาไม่เกินตัวละ3-5 บาท เสียค่าช่างบัดกรีตะกั่วและเปลียน ประมาณ 50-100 บาท ก็สามารถนำมาใช้ได้ปกติ หากไม่สามารถเปลี่ยนเองได้
อาการที่ตัวคาร์ปาซิเตอร์เสีย มันจะไม่เสียทันทีทันได มันจะค่อยๆเพิ่มระยะการเกิด แต่มีบางท่านอาจจะมีคำถามว่า แล้วทำไมจึงเป็นตอนจอดหรือดับเครื่องยนต์ ก็เพราะว่า ในตอนแรกๆที่เมื่อสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ติด และใช้งานไป ทำให้กระแสไฟโวลเต็จที่ไหลผ่านค่าความต้านทานภายในตัวคาร์ปาซิเตอร์ มีความร้อนเกิดขึ้น จากการทำปฏิกริยาของน้ำยาอีเลคโทรไลท์ ทำให้ค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นภายในนตัวมมันเพิ่มขึ้น กระแสไฟโวลเต็จจึงไหลผ่านลงกราวด์ได้น้อย ต่อเมื่อดับเครื่องยนต์ ไม่มีกระแสไฟโวลเต็จไหลผ่านค่าความต้านทาน ที่เกิดภายในตัวคาร์ปาซิเตอร์ ทำให้ค่าความต้านทานต่ำ ทำให้กระแสไฟโวลเต็จไหลลงกราวด์ได้มาก ทำให้โลเต็จที่ใช้เลี้ยงวงจรดังกล่าวขาดหายไป จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการลีคของตัวคาร์ปาซิเตอร์ จนกระทั้งไม่มีความต้านทานทำให้โวลเต็จไหลลงกราวด์หมด ไม่มีจ่ายให้กับวงจรที่สร้างสัญญาณ IGT ก็สตาร์ทไม่ติด อาการคล้ายกับหัวฉีดรั่ว และก็มักพบบ่อย
แต่อาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อาจจะมาจาก ตัวเซ็นเซอร์อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นและอากาศในท่อไอดี อาจจะเสีย มีค่าความต้านทานของตัวเซ็นเซอร์เปลี่ยนไป ไม่ตรงกับค่าที่กำหนด ทำให้ ECU สั่งให้หัวฉีด ฉีดน้ำมันมาก ในอัตราส่วนผสม ทำให้สตาร์ทติดยาก ก็เป็นสาเหตหนึ่งที่ตรวจพบในรถบางรุ่น
ยังงัยก็เอาไว้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์การแก้ไขครับ อะไรก็เกิดขึ้นได้ กับระบบอีเลคโทรนิคส์ อาการที่เคยพบเจอในอาการเดียวกัน กลับไม่ใช่ตัวที่เสียเดิม ก็ต้องตรวจสอบกันไปครับ...srithano
วันที่: 14 Jun 11 - 16:49

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 650717
โดย: พจน์400
วันที่: 14 Jun 11 - 19:19

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 650786
โดย: Zoom2
คารวะคุณsrithanonในความพยายาม(พิมพ์ใหม่)และความเอื้อเฟื้อความรู้เป็นวิทยาทานครับ
จะลองเอาไปทดลองดู ได้เรื่องยังไงจะมาอัพเดทครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ
วันที่: 15 Jun 11 - 00:21

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 650835
โดย: รัด
ขอบคุณสำหรับข้อมูล
วันที่: 15 Jun 11 - 09:41

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 650983
โดย: Zoom2
ลากไปเซควอญ่า หลักสี่ครับ
เบื้องต้นแจ้งว่าปั๊มเชื้อเพลิงเสีย ราคา 14,000 :(
รถวิ่งน้อยแค่ 60000กม. ไม่น่าเสียเร็วขนาดนี้
ยังต้องรอเครื่องติดก่อนครับ ว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ไหม
แล้วมาอัพเดทเรื่อยๆเป็นข้อมูลกันครับ
วันที่: 15 Jun 11 - 21:47

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 681687
โดย: วรเทพ
ขอบคุณ คุณsrithanon มากครับผม รถผมมีอาการแบบนี้มาเกือบปีแล้ว เป็นรถ cefiro a32 จนผมทนไม่ไหวเลยไปเรียนซ่อมเครื่องยนต์ได้เกือบเดือน อาจาร์ยท่านใจดี หลังจากที่ผมเช็คระบบไฟ และน้ำมันเกือบครบแล้ว อาจาย์รท่านก็มาช่วยดูให้ โดยการถอดหัวฉีดมาดู ก็ไม่รั่ว พรุ้งนี้ว่าจะเช็คเซ็นเซอร์น้ำ ว่าผิดปกติไหม เพราะคิดกันว่าส่วนผสมมันอาจจะหนาเกินไปทำให้สตาร์ทไม่ติด เพราะมีกลิ่นน้ำมันเบนซินออกท่อฉุนมากตอนสตาร์ท ขออณุญาติก๊อปปี้ข้อความท่านไปเผยแพร่เพื่อการเรียนรู้ของอาการนี้ต่อไปครับ ขอบคุณมากครับ
วันที่: 08 Dec 11 - 20:55

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 770501
โดย: pui
คุณวรเทพ ผมก็ใช้A32ขอร่วมด้วยคนครับ ของผมเป็นมาประมาณ4เดือนแล้ว ก่อนอื่นขอคาราวะท่านSrithanonchai ก่อนเลย (ขอเติมchaiต่อท้าย) สุดยอดมากเลยครับ

A32 ผมใช้มาอายุปาเข้าไป16ปี อยู่ๆเกิดมีปัญหาสตาร์ทยาก เริ่มเป็นมา3~4เดือนแล้วเห็นจะได้ ตอนแรกก็นานๆครั้งจาก 3อาทิตย์ครั้ง ลงมาเหลือ 2 อาทิตย์ แล้วก็ 1อาทิตย์ ตามด้วย 3-4 วันครั้งท้ายสุด 2 วัน จนกระทั่ง วันต่อวัน

เป็นแรกๆนั้นจะสตาร์ท 2-3 ครั้งบวกกับเหยียบคันเร่งช่วยถึงจะติด ก็นึกว่าปกติ จนเวลาย่างเข้าเดือนสุดท้ายก็เลยนึกว่า กรองเบนซิน, Valveควบคุมรอบเดินเบา, SWเซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยงสกปรก เลยจัดการเปลี่ยนกรองและล้างValveและSWใหม่ สตาร์ทฉึ่งเดียวติด ดีใจอยู่ 1อาทิตย์มันเริ่มสตาร์ทยากอีกแล้ว เดาไม่ถูกเลยบางทีก็จอดนานบางทีก็จอดกินข้าวแค่จานเดียว ถามใครก็มึนตึ๊บไปหมด เพราะพี่แกนึกจะติดก็ติด แต่ติดแล้วติดเลย ขับดี เร่งดี เดินเรียบ วิ่งปกติทุกอย่างแต่สังเกตุดูเหมือนว่ารอบเครื่องต่ำๆมันจะแรงน้อยไปหน่อย เร่งไม่ค่อยขึ้น ไม่รู้คิดเองหรือเปล่า!

มาถึงอาทิตย์สุดท้ายเริ่มบอกสถานะค่อนข้างชัดคือ จอดนานข้ามคืนสตาร์ทยากต้องลากยาวขึ้นเป็นวันเว้นวันแล้ว ปอดแหกไม่กล้าไปไหนเลย กลัวต้องกินข้าวลิงแทน 555

สองวันสุดท้ายตอนเช้าจะไปทำงานสตาร์ทไปเกือบ 20ครั้งได้ ไฟดีแรงดีแท้แต่ไม่ติด เรียกช่างมาดูเปิดฝาปั๊มติ๊กรอไว้ทั้งSWทั้งท่อยางปกติดี ช่างเอามือกดSWไว้แล้วให้ผมสตาร์ทดันติดเฉยแต่อันนี้ไม่ใช่สาเหตุก็เลยเอารถไปใช้วิ่งไปวิ่งมาทั้งวันเย็นเอามาจอด เช้าวันถัดไปเอาไปใช้สตาร์ทฉึ่งเดียวติด ตอนเย็นจะกลับบ้านไม่ติดอีกแล้ว สตาร์ทไป15ทีได้มั้งถึงจะติด เลยขับกลับบ้านจอดข้ามคืน ตอนตี1ลุกขึ้นมาสตาร์ทวอร์มไว้ ลากยาว4-5วินาทีติด ตื่นมาตอนเช้าสตาร์ทพอๆกันขับไปทำงาน บ่ายโมงต้องมาสตาร์ทวอร์มไว้ ตอนเย็นจะกลับบ้าน สนิทเลยครับไม่เอาะไม่แอะ สตาร์ทไปเหอะเครื่องหมุนแรงดีจังแต่ไม่ติดเลยคราวนี้

จากที่ผ่านๆมาเคยสังเกตุปั๊มติ๊ก เวลาถอดเบาะนั่งหลังออก เปิดONสวิทซ์กุญแจจะได้ยินเสียงฉีดน้ำมันลั่นห้องโดยสารด้านหลังเลย แต่ไอ้สองวันสุดท้ายนี่เสียงฉีดมันอื๊ดๆ กระปิดกระปอยยังไงไม่รู้ จนกระทั่งแทบไม่ได้ยินเสียงมันเลย วันรุ่งขึ้นให้ช่างหาปั๊มติ๊กมือสองมาเปลี่ยนฉึ่งเดียวติด สบายกระเป๋าไป 1,800 ไทยบาท สาเหตุคือปั๊มติ๊กเสื่อมแรงดันไม่พอครับตอนแรกๆเดายากมากครับเพราะแรงดันมันเริ่มตก แต่ว่ายังใช้งานได้…แต่ไม่ดีดังอาการที่ผมเจอมา อันนี้รถไม่ได้เกเรนะแต่ว่าอะไหล่มันถึงอายุของมันครับ แต่ตอนนี้เพื่อความสบายใจเบิกห้างเปลี่ยนเรียบร้อยแล้วครับ 5,000 บาท+/-

ปล. มีวาล์วกักแรงดันน้ำมันรางหัวฉีดอีกตัวครับที่ต้องดู หากมันรั่วจอดทิ้งไว้นานน้ำมันรั่วลงถังหมดต้องสตาร์ทลากยาวถึงติด วิธีตรวจสอบให้ดึงสายVacuumที่ต่อไว้ออกดูต้องของดีต้องไม่มีน้ำมันรั่วไหลตามออกมาครับ
วันที่: 16 Mar 13 - 14:07