ปตท.ไม่ทำโรงแยกก๊าซหรอกแต่บริษัทปิโตรเคมีในกลุ่มปตท.และซิเมนต์ไทย แยกทุกอย่างออกมาเช่น CO2 N ที่อามาเติมยาง มีอร์กอนนิดหน่อยแล้วก็อัดถังขายไปที่เหลือก็ไปโรงอื่นๆแยกพวกพลาสติกต่างๆออกแล้วทำเป็นเม็ดขาย ถุงก๊อบแก๊ป โฟม ถึงเต็มบ้านเต็มเมือง ต่อไปก็แยกพวก LPG ออกมาได้นิดหน่อย เบนซินเล็กน้อย ที่เหลือก็คื มีเทนซึ่งหรือ NGV มีถึง 70% ของก๊าซทั้งหมดส่งไปตามท่อเข้าโรงไฟฟ้าหลายโรงตั้งแต่ของ GLOW มาบางปะกง ไปศรีราชามากทม.พรนครเหนือ ศูนย์ราชการ เลยขึ้นไปถึงโรงวังน้อยและไปเรื่อยๆ
ไอ้โรงที่ว่ามานั้นมีอุปกรณ์ไฟฟ้าของบริษัทไปติดตั้งอยู่ทั้งนั้นไปมาหมดแล้วเริ่มจากโรงงานแยกก๊าซ โรงเม็ดพลาสติกโรงไฟฟ้า ไอ้ก๊าซที่ยังไม่ได้แยกน่ะถ้าป้อนเข้าโรงไฟฟ้ารับรองชาวบ้านแถวนั้นตายหมดแล้ว
จะพูดตรงๆเลยว่าข้อมูลที่โพสในกระทู้เป็นเท็จทั้งสิ้น หลุมก๊าซของเรามีมีเทนหรือ NGV มากถึง 70 ส่วน รองลงไปเป็นพวกอีเทนที่ทำพลาสติกนั่นแหละ ตรงข้ามกับของประเทศอื่นๆที่มี LPG หรือ Propane เป็นส่วนใหญ่
เรื่องที่ตลกไม่ออกขณะที่เราหลีกเลี่ยงพลาสติก แต่พลาสติกถูกสูบขึ้นมาทุกวัน
ลองถามตาลุงที่ทำงานอยู่กลางทะเลอีกคนดูก็ได้
ทำไมเรานำเข้า LPG (โปรดใช้วิจารณญาณ)
ก๊าซดิบออกมาจากปากหลุมในอ่าวไทย 3,146 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน เข้าโรงแยก 1,770 ล้าน ลบ.ฟุต/วันเข้าโรงก๊าซไม่ได้แยกไม่ทัน 1,376 ล้าน ลบ.ฟุต/วัน ถ้าเอาก๊าซที่แยกไม่ทันไปผลิตเป็น LPG จะได้ 2.1 ล้านตันต่อปี เรานำเข้า 4 แสนตัน /ปี เพราะว่าก๊าซที่แยกไม่ทันก็เอาเข้าโรงไฟฟ้าบางประกง แทนที่จะแยกเอามีเทน เอาปิโตรเคมีออก เป็นเหตุผลว่าทำไม ปตท.ไม่ทำโรงแยกก๊าซ แล้วก็เอาเงินมาชดเชยก๊าซนำเข้าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 
