Close this window

1.6ซีดานติดแก๊ส ระบบดูด เร่งไม่ขึ้น(อืด) แก้ยังไงครับ
1.6 ซีดาน ติดแก๊ส ระบบดูด เร่งไม่ขึ้น(อืด) แก้ยังไงครับรบกวนผู้รู้ช่วยหน่อยครับ
โดย: jodonut   วันที่: 24 Nov 2011 - 13:50


 ความคิดเห็นที่: 1 / 10 : 679661
โดย: srithanon
เรื่องของแก็สระบบดูด หรือ Fix mixer มีปัญหาหลายอย่าง เพราะความไม่สมบูรณ์ของระบบ และมีปัญหาเรื่องการจ่ายปริมาณแก็สเข้าห้องไอดี ไม่เป็นไปตามความต้องการของรอบเครื่องยนต์ และหลายๆที่ที่ติดตั้งก็ไม่มีสูตรสำเร็จ ที่จะให้ยึดถือเป็นต้นแบบ ที่มีประสิทธิภาพ สูตรใครสูตรมัน แล้วแต่ความถนัดของแต่ละช่าง ผมคงไม่กล่าวในหลักการก็แล้วกัน เพราะผมก็ไม่เหมือนใคร และใครก็ไม่เหมือนผม
เข้าประเด็นดีกว่าครับ อาการที่คุณเล่ามา ต้องถามข้อมูลเพิ่มเติมว่า ใช้แก็สมากี่ปี่แล้วตั้งแต่ติดตั้งมา เพราะระยะเวลาในการใช้ สามารถที่จะบอกว่ามันเสื่อมและผิดปกติที่ส่วนไหน เป็นว่าผมร่ายาวๆเลยก็แล้วกัน ก่อนที่จะวกเข้ามาปัญหาของรถคุณ
รถที่ทำการติดตั้งแก็สระบบดูดมาและใช้งานมากกว่าปีครึ่งถึงสองปี อาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติก็คือ ประการแรกรถเริ่มบริโภคแก็สมากกว่าปกติ จากที่เคย 9-10 กม/ลิตร ก็เหลือประมาณ 6-7 กิโล/ลิตร อาการของเครื่องยนต์ วิ่งไม่ออก รอบเดินเบาคอนโทรลไม่ได้ วิ่งๆไปบางครับมันขออนุญาตพัก ดับกลางทางแบบไม่เกรงใจกัน บางครั้งจอดติดไฟแดง รอบตกเครื่องสั่นและก็ดับ ดับแล้วยังไม่พอใจสตาร์ทติดอยากแถมให้อีกต่างหาก สร้างความสนุกสนานให้กับเจ้าของรถ จนเหงื่อไหลใครย้อย เพราะอะไร
เนื่องจากว่าอุปกรณ์ภายในหม้อต้มแก็สเสื่อม ปกติแผ่นผ้าไดอะแฟรมของหม้อต้ม แผ่นยางหน้าสัมผัสของวาวล์ฉิ่งฉับ
วาวล์ที่ปล่อยน้ำแก็สจากกรองแกสมายังห้องเปลี่ยนสถานะของน้ำแก็สให้เป็นไอ และรวมถึงแผ่นยางของห้องต้ม ที่ทำหน้าที่กันน้ำไม่ให้ออกจากห้องต้ม ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ย่อมมีสภาพผิดรูปไปจากเดิม พวกยางที่ปิดเปิดให้น้ำแก็ส และไอแก็สผ่าน กลับปิดไม่สนิท แผ่นไดอะแฟรมที่มีสภาพตึง กลับย่นไม่คงรูป แผ่นไดอะแฟรมรรูปร่างคล้ายฝาชี เมื่อถูกใช้งานไปนานๆ ทำให้ขี้แก็สที่คล้ายน้ำมันเครื่อง จับที่ผิวแผ่นไดอะแฟรม ทำให้ผิวของแผ่นย่น การที่ผิวของแผ่นไดอะแฟรมย่น ทำให้แรงดูดที่มาจากท่อไอดี ผ่านลิ้นปิกผีเสื้อ เข้าท่อยางมาเข้าหม้อต้มแก็ส ไม่สามารถสร้างแรงกดก้านวาวล์ ของวาวล์ฉิ่งฉับ ให้สัมพันธ์กับ แรงต้านของสปริงตัวปรับไอเดิลของหม้อต้มแก็ส
ปกติแล้วในรอบเดินเบาการทำงานของแผ่นไดอะแฟรม จะถูกแรงดูดจากท่อไอดีให้มีแรงกดก้านกระเดื่องวาวล์ให้ก้านวาวล์เปิด แต่จะถูกแรงดันต้านการกดของแผ่นไดอะแฟรม เพื่อให้เกิดการเปิดของวาวล์จ่ายแกสไปยังห้องมิ๊กเซอร์ ให้มีปริมาณแก็สในอัตราส่วนผสมในรอบเดินเบาที่พอเหมาะ เพื่อให้การจุดระเบิดสมบูรณ์ เมื่อจุดระเบิดสมบูรณ์ เครื่องยนต์ก็มีกำลัง ทำให้รอบเดินเบาไม่ตกเมื่อมีโหลด
แต่เมื่อใดที่แผ่นไดอะแฟรมมีผิวย่น น้ำมันขี้แก็สจับ แรงดูดที่มาจากท่อไอดีไม่สามารถดูดแผ่นผ้าไดอะแฟรมให้มีแรงกดเหมือนสภาวะแรกๆที่สมบูรณ์ ทำให้แรงดันของสปริงตัวไอเดิลเอาชนะแรงกดของแผ่นไดอะแฟรม ผลก็คือทำให้ไม่สามารถบังคับวาวล์ให้เปิดแก็สแต่น้อยๆพอดีกับจังหวะรอบเดินเบาของเครื่องยนต์ แต่กลับไปในทางตรงกันข้าม คือเปิดสุด แก็สก็ไหลจ่ายไปที่ห้องมิ๊กเต็มที่ เมื่อแก็สไหลไปที่ห้องมิ๊กมาก ทำให้มีปริมาณแก็สมากในอัตราส่วนผสม หรือมีส่วนผสมหนา การจุดระเบิดก็ไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง รอบเครื่องยนต์ตกและสวิง
ผลที่ตามมาก็คือ การกินแก็สมากผิดปกติ แต่จะไม่มีผลกับรอบอัตราเร่งของเครื่องยนต์ เพราะแก็สยังต้องไหลผ่านด่านอรหัน เพาเวอร์วาวล์ ที่ถูกปรับจำกัดปริมาณแก็สไว้ ณ จุดความเร็วของรถ เช่นไม่เกิน 120 กม/ชม หมายความว่าตั้งแต่รอบเดินเบาถึงประมาณ สามพันรอบหรือ 120 กม/ชม แก็สจะไหลผ่านเพาเวอร์วาวล์ที่พอเหมาะกับอัตราส่วนผม แต่ไม่เกิน 120 กม/ชม หากเกินแก็สจะไหลไม่พอ มีส่วนผสมบาง หากต่ำกว่า 120 ลงมา จะเริ่มมีส่วนผสมหนา จนถึงรอบเดินเบา แต่รอบเดินเบาเราปรับให้สมดุลไว้แล้ว
การที่วาวล์ฉิ่งฉับไม่สามารถคอนโทรลการจ่ายแก็สในรอบเดินเบาได้ ตามที่กล่าวมา จะทำให้แก็สมากไหลเข้าท่อไอดี เวลาเราดับเครื่องยนต์ จะทำให้แก้สตกค้างในท่อไอดี ดังนั้นเวลาที่เรากลับมาสตาร์ทเครื่องอีกครังจะสตาร์ทติดยาก เพราะมีแก็สมากในอัตราส่วนผสม
จะเห็นว่าที่ผมกล่าวมาข้างบนนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถวิ่งไม่ออก แต่ตัวที่เป็นปัจจัยในเรื่องหม้อต้มที่มีผลต่ออัตราเร่งหรือการจ่ายปริมาณแก็สได้ทันตามความต้องการของเครื่องยนต์ ที่มีรอบแปรผันทั้งต่ำและสูง ก็คือในห้องต้มของหม้อต้มแก็ส ที่มีแผ่นยางกันน้ำมีสภาพย่นหดตัว เพราะโดนความร้อนตลอดการใช้งาน แผ่นยางนี้ปกติจะแนบสนิทกับผนัง
ของโลหะที่กันระหว่างห้องต้มกับห้องเปลี่ยนสถานะ เพื่อเอาความร้อนของน้ำในหม้อต้มทรานเฟอร์อุณหภูมิความร้อนผ่านผนังโลหะให้กับห้องเปลี่ยนสถานะน้ำแก็สให้เป็นไอแก็ส เมื่อใดก็ตามที่แผ่นยางที่ย่นหดตัวไม่แนบผนัง นั้นหมายความว่า ความร้อนที่จะไปสร้างอุณหภูมิความร้อนในห้องเปลี่ยนสถานะ ย่อมมีน้อย เป็นผลให้การเปลี่ยนสถานะของน้ำแก็สให้กลายเป็นไอแก็ส ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดขี้แก็ส ที่คล้ายน้ำมันเครื่อง ขี้แก็สนี้ก็จะไปจับชิ้นส่วนต่างภายในหม้อต้ม ที่แผ่นไดอะแฟรม เลยออกไปในท่อไอดี เข้าไปจับตามลิ้นปีกผีเสื้อ ช่องสกรูปรับช่วยรอยเดินเบา และส่วนต่างๆในตัวเรือนปีกผีเสื้อ ทำให้อากาศช่วยรอบเดินเบาตีบตัน โดยเฉพาะเมื่อมีการกลับไปใช้ระบบน้ำมัน รอบเดินเบาจะตกเพราะมีเขม่าจากขี้แก็สอุดตัน
ที่กล่าวมาพอจะนึกออกหรือยังว่า ขี้แก็สเกิดขึ้นได้อย่างไร มีผลเสียอย่างไร สำหรับท่านที่ติดตั้งแก็สระบบดูด พึงจำไว้ว่าทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ควรสตาร์ทด้วยระบบน้ำมันก่อนจึงจะถูกต้อง เพราะการสตาร์ทรถในครั้งแรกด้วยระบบน้ำมัน เพื่อต้องการให้น้ำในหม้อน้ำรถ มีอุณหภูมิความร้อนของเครื่องยนต์ เมื่อน้ำในหม้อน้ำรถมีความร้อนแล้ว เท่ากับว่ามีน้ำร้อนให้กับหม้อต้มแก็ส เพื่อให้ห้องเปลี่ยนสถานะน้ำแก็สเป็นไอแก็สได้สมบูรณ์ จะได้ไม่เกิดขี้แก็ส ตัวที่เป็นปัญหา ทั้งรอบเดินเบาและอัตราเร่ง
ความจริงในเรื่องของท่านเจ้าของกระทู้ที่ว่ารถวิ่งอืด มันมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบการจ่ายแก็สและกาศ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการติดตั้งวางระบบแก็สแบบมิ๊กเซอร์ ว่ามีส่วนไม่ถูกต้องตรงไหนอย่างไร จำเป็นด้วยหรือที่จะจ่ายแก็สหน้าลิ้นปีกผีเสื้อ แถมยังมีเรื่องท่อมิ๊กเข้ามาเกี่ยวข้อง ว่าต้องมีขนาดเท่านี้เท่านั้น หลงประเด็นหรือไม่ ก็แล้วแต่ เพราะก็ทราบอยู่แล้วว่า การที่ทำให้อากาศผ่านเข้าลิ้นปีกผีเสื้อมีอุปสรรค์ ถูกจำกันการไหลของอากาศ ตามที่วิศวกรเขาออกแบบไว้ มันเป็นผลเสียเพราะอากาศจะต้องไหลผ่านสะดวก และมีปริมาตรพอดีกับอัตราส่วนผสมในการจุดระเบิด ทั้งรอบเดินบาและอัตราเร่ง เมื่อเอาท่อมิ๊กไปจำกัดขนาดช่องอากาศผ่านลิ้นปีกผีเสื้อไปท่อไอดี แน่นอนกำลังเครื่องยนต์จึงตก ก็มาเกริ่นกันเล่นๆ
วกกลับเข้ามาเรื่องของเจ้าของกระทู้ อยากจะสรุปในเบื้องต้นก่อนว่า ปัจจัยแรกก็เรื่องของหม้อต้ม ไม่ทราบว่าใช้มานานหรือยัง ประการที่สอง ต้องทำการปรับจูนแก็สใหม่ ประการที่สาม เรื่องขององศาไฟจุดระเบิด และไฟที่จ่ายให่กับหัวเทียน ประการที่สี่ หากใช้มานาน เอารถไปตั้งวาวล์ใหม่ ในกรณีที่ไม่ใช่วาวล์แบบไฮโดรลิคส์ ลองตามนี้ก่อนครับ
หากมีเวลาจะเข้ามาแนะนำให้ในรายละเอียด……..srithanon
วันที่: 24 Nov 11 - 16:04

 ความคิดเห็นที่: 2 / 10 : 679680
โดย: นัทแปดริ้ว
จูนแก๊สใหม่ครับ
วันที่: 24 Nov 11 - 19:35

 ความคิดเห็นที่: 3 / 10 : 679758
โดย: jodonut
ขอบคุณทั้งสองท่านที่ให้คำแนะนำครับ
1. ติดตั้งมา3 ปี (ผมซื้อรถที่ติดแก๊สมาแล้ว และก็ไม่เคยใช้รถติดแก๊สมาก่อนครับ) ตอนนี้ก็สตาร์ทแก๊ส เพราะว่าเจ้าของรถคนเดิมบอกว่าตัวควบคุมน้ำมันเสียครับ
2. ถ้าไปเช็คและเปลี่ยนอะไหล่ตามที่คุณ srithanon แนะนำจะมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรครับ
วันที่: 25 Nov 11 - 08:40

 ความคิดเห็นที่: 4 / 10 : 679784
โดย: น้องใหม่ แลนติส
ตัวควบคุมน้ำมัน หรือตัวตัดแก็สสลับกับน้ำมันเสียครับ ถ้าตัวตัดแก๊สที่สลับกับน้ำมันเสีย ก็ทำสวิตซ์ปิดเปิดน้ำมันเพิ่มเท่านั้นเองครับ เวลาสตาร์ทจะได้สตาร์ทน้ำมัน สวิตซ์ตัวไม่กี่บาทหรอกครับ ให้ค่าแรงช่างสัก 100 ก็พอ
วันที่: 25 Nov 11 - 11:10

 ความคิดเห็นที่: 5 / 10 : 679830
โดย: srithanon
อยู่แถวไหนล่ะครับ ถ้าหากใช้มา 3 ปีแล้ว เปิดหม้อต้มออกมาดูรับรองว่าน่าเกลียดมาก ไม่ทราบว่าใช้หม้อต้มของยี่ห้ออะไร หากเป็นของโทมาเซ๊ทโต้ 140 ค่าชุดซ่อมภายใน 750 บาท รีบเปลี่ยนเลยครับ
สำหรับ ตัว Auto switch ที่ควบคุมการ Transfer switch จากน้ำมันเป้นแก็ส หากเสีย จะใช้แบบ สวิชท์โยก ตามที่คุณ น้องใหม่ แลนติสก็ได้ ราคาถูกดี
ความจริงเรื่องวงจรหรือกล่อง Auto switch ผมเห็นว่ามันมีจุดอ่อน เรื่องรีเรย์ที่ใช้ มันมีหน้าคอนแท็ค ที่ทนกระแสไฟผ่านได้น้อย และเป็นปัญหาบ่อยๆ และอีกอย่างหนึ่ง วงจรที่ใช้งาน ในการแปลงความถี่ ที่ได้จากสํญญารวัดรอบเครื่องยนต์ ให้เป็นโวลเต็จ หรือ Frequency to voltage มีจุดอ่อน ที่บางครั้งรีเรย์ที่ทำงานในตำแหน่งใช้แก็ส กลับไม่ทำงาน ทำให้การใช้แก็สกลับมาเป็นระบบน้ำมัน หรือใช้เปลี่ยนเป็นระบบแกสไม่ได้
ผมเคยมีข้อความตอบกระทู้เรื่องนี้ใน Gasthai.com ถึงแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับวงจร Auto switch แต่กระทู้ที่ผมตอบโดนลบทิ้งไป เพราะไปกระทบกับแบรนด์ยี่ห้อนั้น ที่ลงโฆษณาในเว็ปนั้น แต่ผมก็ได้ออกแบบโมดิฟลายแก็ไขไว้แล้ว พร้อมปริ้นบอร์ด แต่ยังไม่ได้ทำเพื่อจำหน่าย ขี้เกียจทำ และไม่ค่อยมีเวลา ก็เก็บลงกล่องเอาไว้เคาะฝุ่น เมื่อถึงเวลาที่จะคบหากับมันอีก.....srithanon
วันที่: 25 Nov 11 - 15:05

 ความคิดเห็นที่: 6 / 10 : 679844
โดย: วัช
ถ้าหม้อต้มใช้มาหลายปีแล้ว ให้เปลี่ยนเลยครับแล้วจูนใหม่ แต่ถ้าหม้อยังใหม่อยุ่ให้จูนแก๊สใหม่ อาจจะเป็นที่แก๊สหนาหรือบางเกินไป ถ้าแก๊สบางส่วนใหญ่จะเหยียบได้ไม่มัน หรือเร่งไม่ขึ้น แต่ถ้าแก๊สหนาวิ่งเร็วๆจะเหยียบลื่นมาก แต่เวลาเบาเครื่องอาจดับได้เพราะแก๊สท่วมหรือเวลาชะลอรถเรื่องอาจจะดับเลยและจะมีกลิ่นแก๊สออกมามากจนรู้สึกได้ ของคุณถ้าสตาร์ทด้วยแกีสแล้วรถติดเลย แต่เวลาเหยียบแล้วอืดอาจจะจูนบางไป หรือหม้ออาจเสื่อมแล้วทำให้จ่ายแก๊สได้ไม่สมำเสมอ
วันที่: 25 Nov 11 - 15:49

 ความคิดเห็นที่: 7 / 10 : 679852
โดย: jodonut
ขอบคุณครับทุกๆท่าน
ผมอยู่ชลบุรีครับ
วันที่: 25 Nov 11 - 17:43

 ความคิดเห็นที่: 8 / 10 : 679872
โดย: ตั้ม ดนตรี
ถ้าได้เปลี่ยนหม้อต้มแล้ว มีเงินเหลือ ก็ลองหา A/F มิเตอร์ ของพวก APEXI หรือ ยี่ห้ออื่นๆ (ของแท้) มาติดเพิ่มเติม เอาไว้ดูอัตราส่วนผสมเชื้อเพลิงกับอากาศ เผื่อในอนาคตอยากจูนเองเล่นเอง จะได้เห็นว่าแก๊สหนาหรือบาง นอกจากมันจะวัด A/F ได้แล้ว มันยังวัดแบต ตั้งเวลาดับเครื่อง วัด O2 ได้ด้วย

ผมก็อาศัยตัวนี้แหละครับ จูนแก๊สเอง โดยอาศัยค่าใกล้เคียงกับตอนใช้น้ำมัน แต่จูนให้หนานิด เครื่องจะได้ไม่ร้อนมาก คือ น้ำมัน มันจะวิ่งอยู่แถวๆ 14 - 14.7 ผมก็จูนแก๊สไว้ที่ 14 ผลที่ได้คือ วิ่งแก๊สได้ความเร็ว 190 + เลยทีเดียว (ไม่กล้าวิ่งต่อ เสียว) อัตราเร่งตั้งแต่ช่วง 1000 รอบเป็นต้นไปต่อเนื่องดี รู้สึกว่าเครื่องไม่ร้อนมาก

ผมลองจูนให้ได้ 15.5 (แก๊สบางนิด) ผลที่ได้คือ เร่งดีกว่าเดิม แต่รู้สึกว่าเครื่องร้อนมากกว่าตอน 14 แต่ประหยัด

ลองเปลี่ยนมาจูนให้ได้ 12 (แก๊สหนา) ผลที่ได้คือ เร่งช่วง 1000 รอบถึง 2500 มีสะอีกนิดหน่อย ออกตัวอืดๆ (แก๊สท่วม) พอพ้นช่วงประมาณ 2200 เป็นต้นไป รถจะพุ่งดีมาก ต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วสูงสุด แต่ กินแก๊ส

ผมเลยใช้ค่า 14 เป็นหลักครับ


ลองหามาเล่นดูนะครับ ค่าตัวเลขที่ได้จากตัววัดที่ว่ามันอาจจะเชื่อไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้เราคลำทางได้ถูกเมื่อถึงเวลาต้องเล่นกับหม้อต้มเอง..........
วันที่: 25 Nov 11 - 21:11

 ความคิดเห็นที่: 9 / 10 : 691490
โดย: yothin
ได้รับความรู้มากเลย คุณ Srithanon เปิดร้านติดตั้งซ่อมบำรุงหรือเปล่า ถ้ามีขอแผนที่และเบอร์ติดต่อด้วย จะขอบคุณมากเลย อยากไปอุดหนุน แล้วก็รู้สึกไว้วางใจ กับความรอบรู้ที่ช่างมี
วันที่: 07 Feb 12 - 09:29

 ความคิดเห็นที่: 10 / 10 : 819727
โดย: nick
ของผมตอนนี้เปลี่ยนหม้อต้มใหม่ อะติเคิ่ล ทองขาวใหม่ คอนเดนเซอรใหม่ ตั้งวาวล์ใหม่

ขับแก๊สได้แค่เกียร1-2 พอ3เหยียบไม้ได้เลย

จากรถขับมาได้ทุกเกียร แค่เหยียบได้ไม่เกิน90 ช่างบอกเปลี่ยนๆจนจะหมดแรงแร่ะ

อ้อเปลี่ยนยันหม้อลมเบรคเขาบอกว่ารั่วรอบเดินเบาเลยไม่นิ่ง
วันที่: 11 Sep 14 - 07:18