อืมอาจเกี่ยวก็ได้ครับ
ถ้าเป็นที่ฝาหม้อน้ำ ง่าย ๆ ก่อนก็ให้สังเกตดูระดับน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ ถ้าพบว่าน้ำในหม้อพักน้ำไม่ยุบแต่น้ำในหม้อน้ำยุบลงกว่าปกติหรือน้ำในหม้อพักน้ำขาดต้องเติมบ่อย ๆ แต่ไม่มาก นั่นคืออาการของฝาหม้อน้ำเสียแล้ว ให้เปลี่ยนใหม่เลยครับ
หากฝาปิดหม้อน้ำไม่ดีจะมีผลเสียคือ
1. มีโอกาสจะทำให้เกิดปัญหาความร้อนได้ เนื่องจากไม่สามารถสร้างแรงดันให้กับระบบได้น้ำหล่อเย็นในระบบจะร้อนเร็วกว่าปกติ ( แต่ของท่านมีลดลงด้วยนี่น๊า อืม..... )
2.ระบบ Coolant Recovery ไม่สามารถทำงานได้เนื่องจาก Vacuum Valve ไม่เปิดให้ Coolant ในถังพักเข้ามาในระบบได้ครับ
การตรวจสอบฝาหม้อน้ำว่าดีปล่าวแบบทางการ
1 .ฝาหม้อน้ำต้องไม่เป็นสนิม สปริงภายในสามารถยุบตัวได้และไม่ติดขัด
2 .ซีลต้องปิดสนิทและสะอาด ไม่มีรอยฉีกขาดหรือบิดเสียรูป
3 .คอหม้อน้ำกับฝาหม้อน้ำต้องปิดได้สนิทและมีบ่ารับได้รูปไม่เสียหาย
4 .วาล์วจะต้องสะอาดและไม่เป็นสนิม อุดตัน
ไอ้เจ้าฝาหม้อน้ำ มันทำหน้าที่ควบคุมความดันภายในหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน และช่วยเพิ่มจุดเดือด ของน้ำหล่อเย็นในระบบ ให้สูงขึ้น ในขณะที่น้ำหล่อเย็น มีอุณหภูมิสูงขึ้น น้ำจะเกิดการขยายตัว เพื่อดันตัวเอง ออกสู่ภายนอกหม้อน้ำ สปริงวาล์วของฝาหม้อน้ำ จะต้านทานแรงดันนี้ไว้ได้ระดับหนึ่ง หากน้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นอีก แรงดันที่เกิดขึ้น จะมากกว่าแรงต้านทานที่ฝาหม้อน้ำจะรับได้ แรงดันนี้ จะดังสปริงวาล์วฝาหม้อน้ำ ให้เปิดออก แล้วน้ำก็จะไหลออกไป ทางรูน้ำล้น ที่อยู่ด้านข้างขอบปากหม้อน้ำ ซึ่งจะมีสายต่อท่อน้ำล้นออกไปสู่ถังน้ำสำรอง ( Coolant reserve tank ) ในทางกลับกัน ขณะที่อุณหภูมิน้ำลดลง ความดันน้ำในหม้อน้ำจะลดลงด้วย ก็จะเกิดภาวะ สูญญากาศในหม้อน้ำ ทำการดูดน้ำ ที่อยู่ในถังน้ำสำรอง กลับคืนสู่หม้อน้ำดังเดิมครับ
อยากบอกท่านสมาชิกที่ใช้ฝาแบบแรงดันสูง ๆ ไว้นะครับว่า ให้ดูระดับแรงดันของฝาเดิมด้วยนะครับ สำหรับเครื่่องยนต์ทีไม่ได้มีการโมดิฟาย หรือหม้อน้ำแบบธรรมา ( ชั้นเดียว ) หรือเครื่องเดิม ๆโรงงานควรเลือก ฝาที่ทนแรงดันตามที่ระบุไว้ที่ฝาพอครับ เพราะถ้าเลือกตัวที่ทนแรงดันสูง เช่น 1.1 /1.2 /1.3 ที่มีท่านสมาชิกบางท่านใส่อยู่ จะทำมีแรงดันในหม้อน้ำมาก ไม่สามารถระบายออกมาที่กระป๋องพักน้ำได้ จะทำให้เกิดการเสียหายของหม้อน้ำได้นะครับ
แล้วถ้าเกิดซวยท่านอาจเจออาการเครื่องร้อนแล้วร้อนอีก มันก็ยังไม่พ่นน้ำใส่หม้อพักน้ำสำรองเลย
สุดท้ายน้ำมันไประบายออก ที่ท่อยางน้ำบน เกิดเสียงดังสะนั่นขึ้นมา ไม่อยากคิดสภาพห้องเครื่องเนี้ย เละไปหมดแน่ ๆ เลยครับ
ฝาหม้อน้ำแรงดันสูงมีประโยชน์สำหรับเครื่องยนต์โมดิฟายครับ และใช้รอบสูง ๆ พวกนี้ความร้อนเยอะ ทำให้น้ำเดือดช้าให้ได้มากที่สุด
แต่สำหรับรถเดิม ๆ ท่านสมากชิกบางท่าน( ไม่ใช้ท่านวิตต์น๊ะคร้าบบบบบ )ไม่จำเป็นเท่าไหร่นักเพราะทางผู้ผลิตคำนวณมาแล้วว่าแค่ระดับมาตรฐาน
ฝาแรงดันขนาดนี้ก็พอครับ แต่ถ้าจะเปลี่ยน เอาแค่เท่ห์ ก็ไม่ผิด นะครับ แต่แนะนำให้อ่านต่อให้จบนะครับมันมีผลดีกับผลเสียอยู่ เมื่อเราทำให้ฝาหม้อน้ำทนแรงดันได้เยอะขึ้น แรงดันภายในย่อมสูงขึ้นตามเช่นกันทำให้เกิดภาระ ในระบบมากขึ้น พวกท่อยาง ท่อน้ำ หรือระบบหล่อเย็นต่างๆ ที่มี จะต้องรับภาระแรงดันที่สูงขึ้น
อย่างปกติผู้ผลิตจะใช้แค่ 0.9 -1.0 บาร์ เท่านั้น ( แล้วแต่ผู้ผลิตกำหนดครับ ) แต่ถ้าท่านไปใช้ฝาที่แรงดันสูงกว่านั้น ท่านก็ต้องพร้อมเสี่ยงต่อการเสียหาย แม้จะไม่ได้เสียหายโดยทันที แต่อายุการใช้งานมันจะลดลง หรือบางคัน Over Spec มาก ๆ ก้อเกิดอาการ น้ำแตก ( น้ำแตก โอ้วววว! ) ให้เห็นมากมาย
รถที่โมดิฟายมาก ๆ ใช้หม้อน้ำแรงดันสูง ส่วนใหญ่เค้าก็ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ อัพเกรด ตามไปด้วย
เช่น ท่อยางหม้อน้ำ แบบเกรดสูงๆ (พวกสีๆ ยี้ห้อแพงๆ )ที่ทนแรงดันได้เยอะ มันถึงจะทนแรงดันสูงได้โดยไม่ระเบิดซะก่อน รถใหม่ๆ ของเดิมอาจจะทนได้ แต่ถ้าเริ่มเก่าก็น่ากลัวเหมือนกัน หม้อน้ำเดิมเมื่อเริ่มเก่า จะกรอบ อาจจะทำให้ แตกรั่วง่าย หากเจอแรงดันสูงมากเกินมากเกินปกติรถทีโมดิฟายเครื่องมา ก็มักจะเปลี่ยนหม้อน้ำไปเป็นหม้อน้ำอลูมิเนียม พวกนี้จะทนได้ แต่รถธรรมดาเดิม ก็ไม่จำเป็นครับ ถ้าอยากจะใช้ฝาหม้อน้ำแต่งก็ได้ครับ เข้าใจว่าอยากสวย แต่ขอให้ใช้ ฝาที่มีค่าแรงดันตามสเป็กเดิมเรื่องยนต์เป็นหลัก หากรถเป็นรถเดิม ใช้สเป็กเท่าเดิมดีแล้วแน่นอนครับ
อากาศมันร้อน อะไรๆก็เลยร้อน - -!
วันนี้ต้องไปทำธุระที่หาดใหญ่ ระยะทางไปก็ 120 กม.โดยประมาณ ออกเดินทางเวลา 11.50 น.ต้องไปให้ทัน 13.00 น. ด้วยความเคยชิน ก็แซ่ดไปตามปกติ ประมาณ 4,500 รตน. วัดไมล์ขาดเทียบเอาก็ประมาณ 140-150 กม./ชม. พอใกล้ถึงน้ำตกบริพัตร ความร้อนเริ่มขยับเลยขีดกลาง เอาวุ้ย ท่าทางงานจะเข้า แวะหม่ำข้าวก่อนดีกว่า พักรถไปในตัว เหลืออีกตั้งประมาณ70 กม. กินข้าวเสร็จ เช็คระดับน้ำในหม้อพัก ปกติ ไม่หายไปไหน คราวนี้มองเข็มความร้อนแทนวัดรอบกับวัดบูสต์ ลองแร่ดๆดู ความร้อนเริ่มขยับอีกแระ ลดความเร็วลงเหลือประมาณ 100-120 เข็มนิ่งอยู่ที่กึ่งกลางพอดี ติดไฟแดง ลดลงมาปกติ ต่ำกว่าครึ่งลงมาอยู่ที่ประมาณ 8 นาฬิกา ทนๆขับไปด้วยความอึดอัด เข็มความร้อนขยับไปที่9นาฬิกาเป็นระยะๆ กว่าจะถึง สายไป10นาที
พอเข้าเขตเมือง ความร้อนลดลงมาที่ระดับปกติ ทำธุระเสร็จ วัดระดับน้ำในหม้อพัก เปิดดูในหม้อน้ำ ปกติ ขับกลับ ความร้อนมีขยับขึ้นลงเป็นระยะๆ เปิดปิดแอร์ ไม่มีผล แต่ยกคันเร่งมีผล 
