เครื่องbp1800 เกียร์ธรรมดาครับเป็นมานานเป็นเประมาณเกือบสองเดือนครับ เริ่มต้นคือให้ช่างที่รู้จักกันช่วยล้างปีกผีเสื้อ ล้างแอร์โฟร์ แล้วช่างถอด tps sensor ออกมาบอกมอเตอร์เดินเบา(มาศีกษาจากที่นี่จึงรู้ว่าtps) จากนั้นสักพักขับไปอาการออก คือเกียร์ 1กับ2 กะตุก กะชากเลย เหยียบครัชแล้วรอบสวิง ต้องรีบขึ้นเกียร์สามสี่ซึ่งบางทีเหยียบแล้วเหมือนน้ำมันไม่มาไม่ขึ้น แต่ถ้าวิ่งแก๊สไม่เป็นไร จากนั้นเริ่มหาจากระบบน้ำมันก็ปร๊กษาช่างที่ล้างปีกผีเสื้อ เริ่มจากดูปั้มติ้กก็เปลี่ยน กรองเบนซิลเปลี่ยน เคยบอกช่างที่อู่กะจะให้เค้าช่วยซ่อมเค้าบอกรถใช้แก๊สก็แบบนี้หัวฉีดตันเค้าก็ชี้ให้ดูรถตาตี่สีเขียวบอกเป็นเหมือนกัน สักพักจึงจ้างช่างเดิมที่ล้างปีกรื้อหัวฉีดเอามาล่้างเสียบสายไฟ ใช้ลมอัดเห็นๆจนหัวฉีดเป็นฝอยละเอียด4หัว ไม่หายครับจากที่ศึกษาจากที่นี่ตัวที่น่าสงสัยที่สุดคือ tps ผมก็พยายามศึกษาวิธีตั้งค่า ตามนี้
http://www.mazdaclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=67145
http://www.mazdaclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=88529
แต่สิ่งที่ผมทำกับช่างทำด้วยกัน(ช่างที่เคยถอดล้างปีกผีเสื้อแต่เรื่องระบบเซ็นเซอร์ดูเค้าไม่ค่อยรู้) ดูมันไม่ค่อยได้ผลครับ คือขั้นแรกบิดสวิทออน เอามัลติมิเตอร์วัดเป็นโวลท์ ตัวtpsผมมี4ขา ช่างก็งงๆไม่รู้ว่าจะวัดยังไงผมก็ไม่รู้ ก็วัดขาที่4(มีหมายเลขจากล่างขึ้นบนคือ 1-4) ซึ่งวิธีคือเอาเข็มเย็บผ้าทิ่มไปตรงสายแล้วเอาสายมิเตอร์แดงมาแตะส่วนเส้นดำแตะที่แบตเส้นที่สี่ค่าโวลท์ประมาณ4 ส่วนสามถึงหนึ่งเป็น0.01มั่งจะไม่ค่อยไปไกลกว่านี้มาก ตัวผมเองก็วัดไม่เป็นช่างเองก็วัดไม่เป็นอีก เลยลองอีกวิธีที่ว่าจั้มขั้ว ten gnd ไม่เคยรู้ว่าต้องจิ้มยังไง ช่างก็หาสายไฟมาปอกเหลือไส้ทองแดงสองข้างแล้วเอาจิ้มที่รูอยู่ในกล่องพลาสติกสีดำมีตารางบอกข้างนึงก็ten อีกข้างก็จิ้มไปที่gndอยู่ข้างล่างถัดไปมุมสุด ก็รอดูอาการว่าพัดลมจะติดมั้ย คลายน็อต tps ขยับไปมาก็ไม่เห็นพัดลมติดอีก(สวิทออนแต่ไม่ได้สตาร์ทเครื่อง) ผมก็คิดว่าวิธีที่ผมทำไปคงต้องผิดขั้นตอนแน่ๆ แต่ก็ไม่กล้ารบกวนช่างมาก สุดท้ายเลยลอง ปรับตัว tps แบบมั่วมาอยู่ตรงกลางแล้วลองขับดูไม่หายครับ เอาใหม่คราวนี้ปรับให้มันมาฝั่งสุดตรงข้ามกับตอนแรกคือสุดเลย ลองขับดูไม่หายครับ ลองสตาร์ทเครื่องลองขยับตัว tps จากสุดอีกฝั่งนึงเลื่อนไปสุดอีกฝั่งนึงมีผลก็คือรอบเครื่องเหมือนเสียงเบาและดังขึ้น จีงอยากรบกวนผู้รู้ช่วยเสริมให้หน่อยครับว่าผมทำผิดตรงไหนต้องผิดแน่ๆควรไปทำใหม่อย่างไรดี หรือเป็นไปได้มั้ยว่าตัวtpsของผมมันเสียแล้วครับ หรือว่าขออู่ที่จะตั้งหรือเช็คเรื่องนี้ก็ดีครับ ผมปวดหัวกลุ้มกับเรื่องนี้มานานเลยรบกวนด้วยครับ

โดย: pinitp   วันที่: 26 Aug 2012 - 00:45

 ความคิดเห็นที่: 1 / 33 : 735702

โดย: Fujiwara Takumi

TPS ตัวมันเป็นเซนเซอร์วัดองศาลิ้นเร่งครับถ้าเสียอาจะมีผลต่อการควบคุมรอบเดินเบา และการจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมกับคันเร่ง-รอบเครื่องครับ ดังนั้นก็มีส่วนที่ต้องสงสัยครับ ท่านลองจับการใช้เชื้อเพลิงดูครับ ผมว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างล่ะไม่มากก็น้อย ดูง่าย ๆ ก่อนคือมันจะกินจุมากกว่าปกติครับ ถ้ามันเสื่อม

และถ้าค่า TPS Sensor ไม่ตรงเพี้ยนไปมาก อย่างแรกเลยรอบจะสวิงๆ บางครั้งเปิดแอร์รอบก็จะตก วิ่งออกตัวอาจจะมีกระตุกบ้าง เพราะว่ากล่องอ่านค่าจาก TPS Sensor ผิดเพี้ยนไปมันจะมองว่าลิ้นเปิดอยู่ที่กี่ % ปกติถ้าจอดนิ่งมันจะต้องมองว่าเป็น 0% เสมอ ถ้าติดลบมันก็จะจ่ายค่าน้ำมันบาง ถ้าเป็นบวกแล้วมันจะจ่ายน้ำมันหนา ตามค่าของ TPS Sensor ครับ ตรงนี้สำคัญมาก และบางอู่ครับ รอบเครื่องสูง หรือต่ำ พี่ท่านเล่นขันน็อตใต้ลิ้นปีกผีเสื้อเลย ไม่ได้ตั้งที่สกรูปากแบนตรงลิ้น รอบบางคันถึงไม่นิ่งไงครับ

วิธีตรวจสอบครับ
หลักการทำงานของ TPS คือ การวัดค่าการปิด-เปิด ของลิ้นปีกผีเสื้อ โดยค่าจะอ่านเป็น 0-100 %ในโปรแกรม ECU แต่ตัวเซ็นเซอร์เองจะอ่านเป็น 0-5 โวลท์ตามลักษณะของ อานาล๊อค ทู ดิจิตอล หลักการปรับตั้ง ในโปรแกรมกล่อง STD คือ 0.47-0.50 โวลท์ ในสภาวะลิ้นปิดสุด วิธีคือ
เอา โวลท์มิเตอร์จิ้มที่ สายสัญญาณ อีกข้างนึงลงกราวน์ไว้เปิดออน ถ้าไม่ได้ค่าตามนั้นก็ปรับตั้งใหม่
สาย TPS signal ที่ปลั๊กเสียบ ส่วนมากจะ สีแดง/น้ำเงินครับ

หรือ อีกวิธี TPS Sensor ดึงปลั๊กเซ็นเซอร์ออกแล้วใช้มิเตอร์จับที่ขั้ว C หรือที่ขั้ว 6 ของกล่อง ECU เปิดสวิทช์กุญแจในตำแหน่ง ON แล้ววัดค่าโวลท์จะได้ 5 โวลท์ แล้วเสียบปลั๊กเซ็นเซอร์คืน ใช้มิเตอร์จับที่ขั้ว B หรือขั้ว 22 จะได้ค่า 0.50 โวลท์ ในตำแหน่งลิ้นปีกผีเสื้อปิดสุด และ 5 โวลท์ในตำแหน่งลิ้นปีกผีเสื้อเปิดสุด และทำการทดสอบค่าอีกครั้งด้วยการค่อยๆบิดปีกผีเสื้อให้เปิดจากตำแหน่งปิดสุดจนเปิดสุด ค่ากระแสที่วัดได้จะต้องต่อเนื่องไม่มีการขาดหายของสัญญาณเด็ดขาด (ขั้นตอนการตรวจเช็คไม่ต้องทำการสตาร์ทเครื่องยนต์)

ส่วนในยูทูป เป็นแบบ 3 ขา แต่คงเป็นแนวทางได้เป็นอย่างดีเลยครับ เข้าใจง่ายขึ้น
หรือตามหน้าเพจนี้ครับ ประสบการณ์คล้าย ๆ กันครับ

http://www.coronathailand.com/board/index.php?topic=73055.0;wap2

http://www.youtube.com/watch?v=lt8vzAa7RSc

ว่าแต่ช่างนี่วัดค่า TPS ไม่เป็นเลยเหรอครับ จั้มขั่ว ten gnd ก็ไม่เป็นแล้วเค้าจะซ่อมให้ท่าน pinitpได้ยังไงล่ะเนี่ย
รอท่านอื่นมาตอบดูด้วยครับเรื่องค่าของตัว TPS

 ความคิดเห็นที่: 2 / 33 : 735730

โดย: Yut13

ตอบมาก่อนว่าสายต่อ TPS มีกี่เส้น

ถ้า 3 เส้นแต่ 4 ขั้วอันบน A จะมีไฟ 5 โวลท์ ถัดลงมาเป็นจุดที่ส่งไปกล่องตำแหน่งปีกผีเสื้อปิดสุดต้องว้ดได้ 0.3 โวลท์ไม่เกิน 0.99 ขั้วถัดลงมา C ไม่มีสายต่อ ขั้วล่างสุด D เป็นขั้วร่วมให้วัดไฟทั้ง A และ B เทียบจุดนี้
ไม่รู้ว่าช่างไปปรับตัวหยุดปีกผีเสื้อด้วยหรือเปล่า

ถ้าเป็นสี่เส้นก็อีกเรื่อนึง

 ความคิดเห็นที่: 3 / 33 : 735738

โดย: พจน์400

 ความคิดเห็นที่: 4 / 33 : 735797

โดย: pinitp

ลิงค์ที่คุณFujiwara Takumi ส่งมาให้ผมอาการเหมือนผมมากๆเลยครับ ทำให้ผมชักสงสัยว่าtpsผมเสียรึป่าว เพราะไม่ว่าผมจะลองขยับไปทางไหนอาการก็เหมือนเดิม แต่ถ้าไม่เคลื่อนตัวรถไปไหนรอบมันก็คงที่รอบชดเชยแอร์ก็ทำงานอยู่แต่ตกนิดหน่อย น้ำมันผมว่าอย่างที่คุณFujiwara Takumi มันน่าจะกินผิดปกติหมดเร็วครับขนาดไม่ค่อยได้ขับน้ำมันเพราะมันใช้ไม่ค่อยได้สตาร์ทออกตัวแล้วกะชากผมก็เร่งให้เป็นแก๊สแล้ว ในยูทุปก็เหมือนเค้ามีการผ่าสายแล้วเอาเข็มมัลติมิเตอร์วัด ซึ่งผมว่าคราวนี้ผมจะไปหาซื้อมิเตอร์มาวัดดูเองทำเองอีกสักทีครับ ส่วนช่างที่ว่าคือถ้าเป็นเรื่องแนวนี้เค้าไม่ถนัดเค้าเคยเป็นช่างเก่าตอนนี้ขายแบตผมเป็นลูกค้าประจำเค้าก็ปรึกษาทำกับเค้าไปหลายเรื่อง เช่น เปลี่ยนครัชล่าง ล้างไดร์สตาร์ทติดรีเรย์สตาร์ท เปลี่ยนลูกปืนล้อหลัง ฯลฯเป็นต้น ตกลงวิธีจั้มten gnd นั้นถูกต้องแล้วใช่มั้ยครับ ผมจะได้ไปลองทำเองใหม่เพราะพอได้เห็นช่างทำแล้วคิดว่าตัวเองก็น่าจะทำได้ ถ้าไม่ได้จริงๆก็จะเข้าอู่หรือลองหาซื้อของมือสองมาลองเองอีกสักครั้ง tpsของผมมี 4 เส้นครับที่คุณYut ถามมา มีหมายเลขกำกับคือบนสุดเลข4 ถัดลงมาจนข้างล่างสุดคือ3-1 ผมได้ลงรูปมาให้ดูด้วยครับ ขอบคุณเพื่อนสมาชิกด้วยครับที่มาช่วยตอบ

 ความคิดเห็นที่: 5 / 33 : 735798

โดย: pinitp

นี่ครับตำแหน่งที่ปรับวางไว้แบบมั่วๆ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 33 : 735802

โดย: Fujiwara Takumi

อ๋อเข้าใจแล้วครับ ดีครับที่ท่านมีช่างประจำคอยให้คำปรึกษา อาการความคืบหน้าเป็นยังไงรบกวนช่วยแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังด้วยนะครับ เพื่อที่จะเป็นความรู้ให้กับตัวผมและสมากชิกท่านอื่น ๆ น่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 33 : 735833

โดย: pharam3

ตาตี BP1800 ตอนได้มาใหม่ๆ รถมีอาการเข้าเกียร์ 1 2 แล้วมีอาการกระตุกอย่างแรง รถไม่มีกำลัง ต้องรีบเร่งให้รอบสูงขึ้นถึงวิ่งได้ จอดติดไฟแดงรอบกระพือ ไม่นิ่ง

ทำอย่างไรก็ไม่หาย สุดท้ายฝาครอบจานจ่ายตัวใน ร้าว ไฟกระโดด เปลี่ยนเสร็จ หายเป็นปริดทิ้ง


เมื่อก่อนหาอาการจากการล้างลิ้นปีกผีเสื้อ แอร์โฟร์ ซ๊อตขั้วตั้งรอบ ก็ไม่หาย

 ความคิดเห็นที่: 8 / 33 : 735841

โดย: pinitp

อาการของคุณ pharam3 ก็คล้ายของผม แต่ของผมเวลาวิ่งแก๊สแล้วไม่มีปัญหาเหมือนน้ำมันคิดว่าไม่น่าใช่ ตรงนี้แหละครับอาการคล้ายกันแต่สาเหตไม่เหมือนกันทำให้ปวดหัว ตอนนี้ผมก็ได้มัลติมิเตอร์มาแล้วอันนึงเดี๋ยวผมจะย้อนไปศึกษาการวัดให้เข้าใจอีกที หากมีคำแนะนำเพิ่มเติมก็ช่วยแนะนำกันด้วยครับขอบคุณเพื่อนๆ แล้วจะมารายงานผลให้ทราบครับ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 33 : 735858

โดย: Yut13

สี่เส้นฮะฮ้า งานงอก ไอ้สี่เส้นปรับยากที่สุด

เส้นล่าง C คือตัวส่งโลจิกเดินเบาไปกล่องต้องตั้ง TAS ตัวหยุดปีกให้พอดีก่อนคือปีกปิดสนิทและไม่เบียดกับเรือนจนเหยียบคันเร่งไม่ได้ ต่อไปใช้ Feeler guage หนา 0.5 มิลสอกเข้าไประหว่างสกรูปลับและเรือนด้านล่าง ใช้โอมห์จับระหว่าง C D หมุน TPS จนต่ำแหน่งที่ C กับ D ชอร์ทกันพอดี
ต่อไปก็เทสโวลท์ที่ขา B เทียบกับ D ว่าเวลาหมุนล้อเปิดปีดไปจนสุดโวลท์จะเปลียนจาก 0.3+- 0.5 จนถึง 3.5 โวลท์

 ความคิดเห็นที่: 10 / 33 : 735881

โดย: pinitp

ดูจากที่คุณYut13 บอกผมต้องไปหา Feeler guage 0.5 มิลมาเพิ่มแล้วสิครับ ตัว tas นี่ตอนแรกค่อนข้างเพี้ยนเพราะเคยโดนปรับมาก่อนให้รอบสูงขึ้นจากช่างที่ขายให้แต่พอดีก็มาศึกษาจากที่นี่จน พอไปปรับได้บ้างทำให้รอบชดเชยรอบแอร์ทำงานขึ้นได้ยิ่งตอนก่อนที่จะถอดtpsออกมาตอนนั้นดีมากเลยแต่ตอนนี้ชดเชยรอบแอร์ก็ยังไม่ค่อยดี บางครั้งก็เหมือนไม่ทำงานคงเพราะตัวtpsเพี้ยนอยู่(หรือเสียรึป่าวยังไม่รู้) เส้นล่างC ตามที่ผมเข้าใจคือ ตำแหน่ง D (เส้นที่1อยู่ล่างสุด) การใช้โอมจับ(คืออันนี้ไม่เคยรู้เรื่องไฟฟ้ารถก็พึ่งซื้อมาเป็นคันแรกนะครับ ) คือมัลติมิเตอร์ตั้งค่าที่หน่วยเป็นโอม เส้นที่ 1(D) กับเส้นที่ 2(C) หมุน TPS จนต่ำแหน่งที่ C กับ D ชอร์ทกันพอดี คือหมายถึงมีหน่วยเป็นโอมเท่ากัน(รึป่าวครับ) แล้วไปวัดเส้น B (3) กับ D (1) แล้วหมุนล้อเปิดคือหมุนล้อคันเร่งวัดค่าเป็นโวลท์ 0.3+- 0.5 จนถึง 3.5 โวลท์ แบบนี้ใช่มั้ยครับ ต้องขออภัยที่ต้องมาทวนกันอีกรอบตามความเข้าใจของผมถ้ามีอะไรผิดช่วยแนะนำด้วยครับ และเริ่มต้นทำผมควรวอร์มเครื่องให้ร้อนแล้วดับเครื่องบิดกุญแจที่ออนและต้องจั้มขั้ว ten gnd ไปด้วยมั้ยครับ ขอบคุณมากครับสำหรับหลักสูตรนี้ ผมจะไปลองอย่างเต็มที่เลยครับ

 ความคิดเห็นที่: 11 / 33 : 737118

โดย: pinitp

หลังจากทดลองตามสูตรได้สองครั้งพบว่ามีผลต่างกัน ครั้งแรกตั้งสกรูtasห่างไปไม่ยันลิ้นเร่ง แล้วค่อยๆปรับ ตัวtpsใช้โอมจับ c d ไม่เจอค่าที่เป็น 0.00 แต่ได้ค่าประมาณ 0.09-0.12 เลยลองไปวัด โวลท์ ที่ b กับ d ซึ่งได้ตรงตามเสป็ค คือ เวลาหมุนล้อเปิดปีดไปจนสุดโวลท์จะเปลียนจาก 0.3+- 0.5 จนถึง 3.5 โวลท์ แล้วลองเทสดูผลคือเวลาเปิดแอร์สักพักรอบค่อยๆตกจนรถสั่นจะดับ เลยลองมาคิดว่าสงสัยเพราะสกรูไม่ยันลิ้นเร่งเลยปีกผีเสื้อปิดสนิดตั้งตอนนั้นตัวtpsคงไม่ค่อยเห็นเลยเหมือนไม่ค่อยจ่ายน้ำมัน อืม ไม่ได้เอา Feeler guage 0.5 มิล มาสอดไว้ เอาใหม่คราวนี้ปรับสกรูให้พอดีเรื่อนลิ้นเร่ง เอา Feeler guage 0.5 มิล มาสอดไว้ แล้วค่อยจับค่าโอมค่อยๆขยับ tps อีกแบบตามที่ไปถามช่างเดิม(ที่ล้างปีกให้) คือปรับมิเตอร์ไปที่มีเสียงถ้าแตะแล้วมีเสียงน่าจะใช้ได้ที่ว่าชอร์ทกันพอดี(แต่พอวัดค่าโอมแบบไม่มีเสียงแตะทั้งสองเส้นไม่ได้ค่าที่0.00ตามความเข้าใจของผมและช่างที่ปรีกษาที่ว่าชอร์ทกันพอดี) ที่เส้น c กับ d ก็เจออยุ่จุดนึงที่ขยับแตะแล้วมีเสียง แล้วลองไปวัดโวลท์ที่ค่า b กับ d ได้ผลใกล้ตามเสป็คคือ จากประมาณ0.36-3.6 โวลท์ เมื่อหมุนวงล้อคันเร่งจนสุด จึงล็อคtpsที่จุดนี้ แล้วรีเซ็ทกล่องโดยถอดขั้วลบ เหยียบเบรค เปิดไฟหน้าประมาณ10วินาที 3ครั้ง ทดสอบการเดินเบาค่อยๆปรับสกรูอากาศไว้750 ผลที่ได้คือเสียงดูมีกำลังผิดกับครั้งแรกลองเปิดแอร์ การตอบสนองในการชดเชยค่อนข้างดีผิดกับครั้งแรกที่ตอนทำไม่ได้เอา Feeler guage 0.5 มิล มาสอด ดูอยู่พักใหญ่ๆเห็นว่ารอบไม่คอ่ยตก ทดลองขับน้ำมันผลคือเหยียบแล้วเหมือนน้ำมันไม่มาเอาละสิไม่น่าใช่เรื่อง tps ตัวเดียวซะแล้วปรึกษากับช่างช่างบอกสงสัยต้องลองเปลี่ยนปั้มติ้กกันดูอีกสักรอบสงสัยเรื่องแรงดันปั้มติ้ก สาเหตเรื่องนี้ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ แต่ในเรื่อง tps ผมก็คิดว่าน่าจะใช่ตำแหน่งของมันแล้วนะเพราะดูไปมามันมีจุดมาร์คอยู่มีเห็นเป็นสีแต้มลางๆในจุดมาร์คจะมีเส้นบางๆอยุ่ซึ่งตำแหน่งที่ปรับตัว tps ได้ ตรงขอบพลาสติคสีดำจะมีรอยเส้นอยู่ เส้นจะค่อนข้างตรงกันกับเส้นในจุดมาร์ค ซี่งผมเคยลองขยับขึ้นหรือลงห่างจากจุดที่มาร์คไว้ ผลที่วัดนั้นมันจะไกลห่างจากสูตรเลย ถึงผลที่ได้คือขับน้ำมันไม่ได้แต่ผลของการขับแก๊สก็ผิดกัน ในครั้งแรกที่ทำลองขับแก๊สเหมือนเครื่องไม่ค่อยมีกำลังรอบชดเชยไม่ค่อยดี พอทำรอบสองขับแก๊สรอบนี้ดีมากรอบชดเชยทำงานค่อนข้างดีทีเดียวเครื่องเหยียบแล้วมีกำลังตอบสนองไปดีอาการค่อนข้างเสถียรในเรื่องรอบเครื่อง แต่ก็ต้องค้นปริศนาอาการของรถผมต่อไป ว่ามันยังไงกันแน่ชักจะงานงอกใหญ่คราวนี้ ดูจากที่เค้าว่ากันว่าท่อไอเสียมีไอน้ำเกาะแสดงว่าการเผาผลาญเชื้อเพลิงดีถ้าดูจากเรื่องนี้ของผมเวลาเดินเบาซักพักมันก็จะมีไอน้ำเหมือนกันนะสักพักมีหยดลงพื้นด้วย แต่พอพักใหญ่ๆมันก็ระเหยหายไป ยังคงงงมากกับรถคันแรกของผมตอนนี้ ก็ไว้ได้ผลอย่างไรจะมาบอกเล่าไว้เป็นกรณีศึกษาครับ

 ความคิดเห็นที่: 12 / 33 : 737133

โดย: Fujiwara Takumi

ปูที่นอนรอฟังความคืบหน้า ได้แต่เป็นกำลังใจให้น่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 13 / 33 : 737686

โดย: pinitp

ขอบคุณครับคุณ Fujiwara Takumi ที่มาเอาใจช่วยวันนี้ผมก็ได้ลองเปลี่ยนปั้มติ้กกับช่างเดิม(ที่ล้างปีกผีเสื้อ)ดูผลก็คือไม่หายครับเหยียบน้ำมันขึ้นมั่งไม่ขึ้นมั่งปั้มติ้กที่เค้าอามาให้คือของโตโยต้ารุ่น1600 ทำให้ผมคิดว่าต้องจับเป็นเรื่องๆให้เด่นชัด ช่างบอกว่าอาจเป็นตัวกักน้ำมันกลับถังมีปัญหา ถ้ามีตัววัดแรงดันน้ำมันน่าจะเห็นชัด งั้นผมคิดว่าถ้าติดเกจวัดแรงดันที่ห้องเครื่องเลยก็น่าจะดี ช่างก็บอกว่าดีจะได้รู้ว่าแรงดันปั้มติ้กไม่พอหรือตัวกักน้ำมันมีปัญหา ก็คงต้องไปติดเกจวัดโดยจ้างช่างศักดิ์(ที่ล้างปีกครับ) แล้วก็ติดตามจุดนี้กันต่อไปถ้าใครพอมีความรู้ว่าเครื่องbp1800 ควรมีแรงดันน้ำมันเบนซินเท่าไรรบกวนบอกด้วยครับ แล้วจะมารายงานผลกันต่อไป

 ความคิดเห็นที่: 14 / 33 : 737691

โดย: ทวีรัฐ

ท่านpinitpครับ

ปั๊มติ๊กของโตโยต้าที่เอามาของเครื่องรุ่นไหนครับ
ถ้าเป็นรุ่นที่ใช้กับเครื่องJ 6สูบได้นี่กำลัง้กินพอแล้วสำหรับ bp นะครับ แล้วถ้ามันมากไป เวลาวิ่งแก๊สนานเข้าแรงดันที่มากเกินจะทำให้ซีลเซรามิคหัวฉีดรั่วได้ครับ งานงอกยกชุดรางหัวฉีดเลยครับ หายากอยู่ด้วย ถ้าเวลาเข้าแก๊ส ไม่ได้ตัดปั๊มติ๊กนะครับ
ว้าเล่นยากเหมือนกันแฮะ ถ้าตัดแล้ววิ่งแต่แก๊ส ไม่ค่อยวิ่งน้ำมัน หัวฉีดไม่มีน้ำมันไปเลี้ยงก็ตันอีก

อ่ะนอกประเด็นซะแระ มารอลุ้นเอาใจช่วยครับ

 ความคิดเห็นที่: 15 / 33 : 738437

โดย: pinitp

ปั้มติ้กที่ช่างเปลี่ยนให้เห็นบอกเป็นของโตต้าก้นโด่งนะครับคุณทวีรัฐ เหมือนจะบอกว่ารุน เอ็กซเลน นี่แหละเคยถามว่ากี่ซีซีตอนแรกบอก1600 วันนี้บอก2000 (อืมไม่รู้ไงแน่) การใช้ระบบแก๊สนี่ก็เสี่ยงแต่ก็คงต้องยอมรับความเสี่ยงกันไปครับน้ำมันแพงมากคงต้องคอยดูแลป้องกันไว้ ของผมเป็นแก๊สระบบดูดคิดว่ามีการตัดปั้มติ้กเคยลองเอาหูแนบฟังตอนเป็นแก๊สไม่ได้ยินปั้มติ้ก ก็กะว่าจะวิ่งทั้งสองระบบพยายามดูแลป้องกันหัวฉีดตัน ปั้มติ้กไว้เท่าที่จะทำได้ วันนี้ผมและช่างศักดิ์(ช่างเดิม)ก็ได้ทำการทดสอบเรื่องแรงดันน้ำมันกันแล้วผมก็ไปหาเกจวัดหาอุปกรณ์ให้ช่างเค้าทำการติดตั้งทดสอบกันดู(ไปถามอู่ฝั่งตรงข้ามพูนทรัพย์บอกเช็กแรงดันปั้มติ้กน้ำมัน500บาท หาทำเองดีกว่าพอกันแถมได้อุปกรณ์ไว้ใช้ด้วย) เลยเอารูปมาให้ศึกษาดูกัน รูปแรกนี้ตอนสตาร์ทเครื่องพบว่าแรงดันก็ปกติประมาณ3.00

 ความคิดเห็นที่: 16 / 33 : 738438

โดย: pinitp

อันนี้ตอนวิ่งครับ

 ความคิดเห็นที่: 17 / 33 : 738439

โดย: pinitp

วิ่งไปวิ่งมาไหงกลายเป็นงี้ แรงดันตกฮวบ เป็นช่วงที่เหยียบไม่ขึ้นสะดุดจึ๊กๆ

 ความคิดเห็นที่: 18 / 33 : 738440

โดย: pinitp

งานนี้ช่างศักดิ์บอกน่าจะเกี่ยวกับสองตัวคือปั้มติ๊กกับเรคกูเลเตอร์ เค้าว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเซนเซอร์กับกล่องecuแล้ว เอาเป็นว่าลองเปลี่ยนเรคกูเลเตอร์แล้วกัน เพราะปั้มติ้กเปลี่ยนสองรอบแล้ว นั่นแหละครับในรูปของเดิมที่ถอดมา

 ความคิดเห็นที่: 19 / 33 : 738441

โดย: pinitp

ไปเอาของเชียงกงมา300บาทของโตต้าอีกเข้ากันได้ดี ดูจากรูปครับนั่นตอนใส่เสร็จแล้วไม่มีการน้ำมันรั่ว

 ความคิดเห็นที่: 20 / 33 : 738443

โดย: pinitp

ผลคือเหมือนเดิม เอาไงละทีนี้ไปเชียงกงอีกรอบบอกตัวนี้ไม่ได้ลองเปลี่ยนมาอีกตัวใส่เข้าไป เหมือนเดิม ช่างศักดิ์บอกเอางี้แล้วกันดูแล้วน่าจะต้องลองเปลี่ยนปั้มติ้กกันอีกรอบ อาจเป็นไปได้ว่าแรงดันปั้มติ้กไม่พอจ่ายตอนรถวิ่ง แต่ตอนนนิ่งๆนี่มันก็ได้นะแปลก แล้วอีตอนที่ดับเครื่องแล้วสวิทออนแรงดันมันก็ขึ้นไปประมาณน่าจะ3.00มั้งถ้าจำไม่ผิดแบบนิ่งๆ แต่ไหงตอนรถวิ่งแรงดันมันตกได้ เฮ้อเหนื่อยใจครับแต่รู้สีกว่าน่าจะใกล้ความจริงแล้วนะ(ปลอบตัวเองไว้ก่อน) ถ้ามีใครเคยเป็นอาการนี้หรือพอรุ้มั่งก็ช่วยบอกแนะนำกันด้วยนะครับ ส่วนเรื่องนี้ก็คงต้องลองทำกันอีกครั้งพอดีวันนี้ลองกันจนมึดแล้วหน้าก็มึดด้วยจึงแยกย้ายกันกลับบ้านก่อน ไว้ผลคราวหน้าจะเป็นไงก็จะมารายงานความคีบหน้าไว้เป็นกรณีศึกษาต่อไปครับ