Close this window

ช่วยวิเคราะห์การแก้ปัญหาโครโนสด้วยครับ
โครโนส 4 สูบเกียร์ออโต้ ปี93 ติดแก๊สมิกซ์
อาการก่อนเข้าอู่
1. ปัญหาคือเวลาเข้าเกียร์ทั้ง D,R จะดึงรอบลงมากจะสั่นมาก อยู่เกียร์ Nจะไม่สั่น ปกติรอบ 800 จะตกลงมาประมาณเหลีอ4-500
2. เวลาจอดรอบเดินเบา 800 ถ้าเปิดแอร์เปิดไฟ รอบจะไม่ตก ไม่สั่น
อาการหลังเข้าอู่
1.รอบเดินเบาจะอยู่ที่1200 เวลาเปิดแอร์ เปิดไฟรอบจะไม่ตก ไม่สั่น แต่เสียงเครื่องดัง
2.เวลาเข้าเกียร์D,R รอบจะตกลงมาอยู่ที่7-800รอบ แต่รถจะไม่สั่นมากพอรับได้
**ช่างที่อู่แจ้งว่ารถมีการแก้ไขระบบไฟฟ้าของชุดชดเชยรอบ ต้องไล่ระบบใหม่ สัณนิษฐานว่าอาจจะเป็นที่ ECU เสีย ถึงมีการแก้ไขระบบไฟ
*******คำถามคือว่าผมต้องดำเนินการอย่างไรต่อครับ ระหว่างการแก้ไขระบบไฟใหม่กับใช้ไปแบบที่ช่างเค้าทำให้ ขอบคุณครับ
โดย: mukkiko   วันที่: 12 Sep 2012 - 17:55

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 24 : 740243
โดย: srithanon
ตามที่บอกมามันแก้ไม่ตรงประเด็น กับอาการที่เกิดขึ้น สงสัยช่างคงไปปรับตั้งแกนลิ้นปีกผีเสื้อให้เปิดเอาอากาศจากหน้าลิ้นปีกผีเสื้อมาเข้าท่อไอดี แบบเราเหยียบคันเร่งไว้หน่อยๆ ให้รองเดินเบาสูงขึ้น หารู้หรือไม่ว่า การปรับอย่างนั้นมันผิดวิธี เพราะแกนลิ้นปีกผีเสื้อมันใช้แกนร่วมกันของตัว TPS sensor ตัวที่ทำหน้าที่ตรวจจับมุมองศาการเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อ เพื่อส่งไปให้ ECU สังปรับระยะเวลาการฉีดน้ำมันของหัวฉีด ให้เหมาะสมกับจังหวะรอบเดินเบาและอัตราเร่ง จึงเป็นผลให้การทำงานของรอบเดินเบามีรอบสูง เนื่องจากมุมอศาการเปิดของลิ้นเคลื่อนไปอยู่ในจังหวะก่ำกึ่ง ระหว่างรอบเดินเบากับอัตราเร่ง

หากมุมองศาการเปิดของลิ้นไปอยู่ในต่ำแหน่งรอบเดินเบา ช่วงลิ้นปีกผีเสื้อปิด จะทำให้มีอากาศมากในส่วนผสม หรือเรียกส่วนผสมบาง ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ไม่มีกำลัง เมื่อเครื่องยนต์มีโหลด จากการเปิดแอร์ เข้าเกียร์ จึงทำให้รอบตกลงมามาก
ช่างที่ไม่เข้าใจระบบการทำงานของระบบการคอนโทรลรอบเดินเบา มีกชอบใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นนี้

เนื่องจากรถของท่านเจ้าของกระทู้บอกว่าใช้ระบบแก็สแบบดูด ทำมีคำถามต่อไปว่า หากมาใช้ระบบน้ำมัน มีอาการดังที่บอกมาหรือไม่ ? หากว่าไม่เป็น ผมจะได้บอกวิธีแก้ไขให้ เพราะต้องร่ายยาวในการตอบกระทู้ของผม เพราะใช้เวลาพิมพ์เนื้อหานานครับ เพื่อให้แก้ไขได้ตรงประเด็น ไว้พรุ่งนี้จะมาต่อเนื้อหาให้นะครับ วันนี้มีงานอื่นที่ต้องทำก่อนครับ......srithanon
วันที่: 12 Sep 12 - 22:07

 ความคิดเห็นที่: 2 / 24 : 740355
โดย: su54
เยี่ยมมาก คุณ srithanon
วันที่: 13 Sep 12 - 15:31

 ความคิดเห็นที่: 3 / 24 : 740362
โดย: srithanon
ขอบคุณครับ คุณ SU54 ผมยังไม่เห็นเจ้าของกระทู้เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลอะไรต่อ ก็เลยรอดูก่อนว่าเจ้าของกระทู้ยังสนใจปัญหานี้อีกหรือเปล่าครับ....srithanon
วันที่: 13 Sep 12 - 16:53

 ความคิดเห็นที่: 4 / 24 : 740377
โดย: mukkiko
ขอโทษครับไม่ได้ตามกระทู้ งานยุ่งมาก และขอบคุณอย่างมากที่ช่วยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
1.เป็นทั้งตอนใช้แก๊สและน้ำมันครับ เพราะผมจะสตาร์ทน้ำมันตลอดและลองวิ่งน้ำมัน
2.ผมลอง reset ECU ตามเว็ป โดยปรับรอบไว้ที่ 850 ทดลองเข้าเกียร์D,R สั่นมากครับ อยู่ที่ N,Pไม่สั่นครับ
3 ยางแท่นเครื่องตัวกระถางธูปเปลี่ยนแล้วครับ ของเทียม
4.แอร์โฟร์เปลี่ยนแล้ว
5ล้างชุดลิ้นปีกผีเสื้อและชุดมอเตอร์เดินเบาแล้ว
ทั้งหมดให้ช่างทำให้ครับ
****ผมอยู่แถวสาธุประดิษฐ์มีอู่แนะนำไหมครับ
วันที่: 13 Sep 12 - 18:52

 ความคิดเห็นที่: 5 / 24 : 740387
โดย: Deen
ของผมก็เคยมีอาการ ใส่เกียร์แล้วรอบตก เครื่องสั่น แต่ของผมเป็นๆหายๆ แต่ตอนนี้หายสนิทตั้งแต่เปลี่ยนกล่อง ECU

อาการที่ว่าใส่เกียร์แล้วรอบตกเคร่องสั่น อาจจะเป็นไปได้ว่า ระบบเกียร์อาจจะมีปัญหา ถ้าไม่เคยเปลี่ยน น้ำมันเกียร์ ลองเปลี่ยนดูครับ อีกอันน่าจะเป็นไปได้ เวลาใส่เกียร์ ทีตัวเกียร์จะมีสวิทย์ ไปสั่งให้ชดรอบเดินเบา บางทีสวิทย์นี้อาจจะมีปัญหา ส่วนอาการเครื่องสั่นยางแท่นเครื่องน่าจะขาด

สรุปแบบเดาเอานะครับ
1.เกียร์อาจมีปัญหา ลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ดู
2.สวิทย์ที่ไปสั่งชดเชยรอบเดินเบา ที่เกียร์อาจมีปัญญหา ลองเชคดู
3.ตัวกล่อง ECU มีปัญหา ลองถอดออกมาดูแผงวงจรภายใน

แต่เคสนี้น่าจะเป็นที่ระบบเกียร์ ลองไล่ดู ครับ
วันที่: 13 Sep 12 - 20:01

 ความคิดเห็นที่: 6 / 24 : 740391
โดย: mukkiko
ขอบคุณครับคุณ DEENอย่างนี้ต้อง เอาเข้าอู่ให้ช่างเช็คให้ คงทำเองไม่ได้ แต่ก่อนหน้าผมให้ช่างเช็คให้ ช่างบอกว่ามีการแปลง ระบบวงจรไฟชดเชยรอบ (เจ้าของเดิมคงทำไว้) อาการที่ว่าสามารถเข้าอู่ทั่วไปได้ไหมครับ หรือมีคำแนะนำเพิ่มอีก รอคุณ srithanon ช่วยเพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ
วันที่: 13 Sep 12 - 20:38

 ความคิดเห็นที่: 7 / 24 : 740401
โดย: srithanon
ตามที่คุณ Deen แนะนำก็เป็นหลักๆ ที่มีปัญหาที่ช่างตรวจพบ ในระบบช่วยรอบเดินเบาเครื่องยนต์ นอกจากจะควบคุมด้วยระบบอากาศช่วยรอบเดินเบาแล้ว ยังมีตัวช่วยรอบเดินเบา ในขณะที่เครื่องยนต์มีโหลด เช่นเข้าเกียร์ เปิดแอร์ พวกนี้จะมีเซ็นเซอร์ ที่ส่งสัญญาณไฟโวลเต็จไปให้ ECU สั่งให้หัวฉีพื่อดเพิ่มความถี่ในการฉีดน้ำมัน เพื่อรักษารอบเดินเบาของเครื่องยนต์ให้คงที่ ไม่ตกเมื่อมีโหลด และก็เป็นไปได้ว่า ตัวส่งสัญญาณจากการทำงานของเกียร์ ไม่ทำงาน ทำให้รอบเดัยเบาตก ข้อสังเกตุเรื่องนี้ก็ตามที่เจ้าของกระทู้บอกว่า เวลาที่เครื่องยนต์อยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา ถึงแม้จะเปิดแอร์ เปิดไฟหน้ารถ รอบเครื่องยนต์จะไม่ตก แต่พอมาเข้าเกียร์ รอบจะตกทันที

แสดงว่าตอนเปิดแอร์ ระบบแอร์จะส่งสัญญาณไฟโวเต็จ จากสัญญาณไฟที่ใช้ร่วมกับไฟที่จ่ายไปให้กับคอมแอร์ทำงาน โดยะบบ Temperature controlแอร์ ทำหน้าที่ตัดต่อไฟตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ เมื่อ ECU iรับสัญญาณไฟโวลเต็จ มันจะฉีดน้ำมันเพิ่ม รอบเครื่องจะสูงเพิ่มขึ้นประมาณร้อยรอบ แต่เพราะมีโหลด มันจึงเพียงมองเห็นเข็มวัดรอบกระตุกลงนิดหน่อยแล้วกลับมาอยู่ที่ต่ำแหน่งเดิม

เรามีการพิสูจน์เรื่องนี้ได้ว่า ถ้าหากเราเข้าเกียร์แล้วรอบตก ในระหว่างที่เปิดแอร์ด้วย ให้ทดลองทำตามนี้ ประการแรกทดสอบเรื่องแอร์ก่อน ให้สตาร์ทเครื่องยนต์อยู่ในจังหวะรอบเดิน(เข้าเกียร์ตัว N หรือ P ) ให้เปิดแอร์และดูรอบเครื่องยนต์ไว้ สมมุติว่าอ่านได้ 850 รอบ หลังจากนั้นให้ดับเครื่องยนต์แล้วปิดสวิชท์แอร์ พร้อมกับไปดึงปลั๊กสายไฟที่เสียบเข้าคอมแอร์ออก เพื่อไม่ให้คอมแอร์ทำงานเป็นโหลดของเครื่องยนต์
หลังจากนั้นให้สตาร์ทเครื่องยนต์ให้อยู่ในรอบเดินเบาอีกครั้ง ในช่วงนี้ให้เราเปิดสวิชท์แอร์ จะเห็นว่า
มีรอบเครื่องยนต์สูงจากเดิมประมาณร้อยรอบ หากเป็นดังนี้ให้เราทำการเข้าเกียร์รถตัว D ทันที หากในช่วงเข้ากียร์นี้มีรอบเครื่องลดลงมาเหลือที่ 850 รอบ เหมื่อนที่เราเปิดแอร์ช่วงแรกที่ยังไม่ดึงสายไฟที่คอมแอร์ออก

หากเป็นตามนี้ แสดงว่าเวลาที่เราเข้าเกียร์ มันไม่มีสัญญาณของเกียร์ส่งไปให้ ECU รอบเครื่องยนต์จึงตกตามที่กล่าวมา หากการทดลองข้างบนที่กล่าวมา มีรอบเครื่องยนต์ต่ำกว่า 850 ลงมาเหลือสัก 700 รอบ ก็อย่าตกใจ เพราะในจังหวะที่เข้าเกียร์ เครื่องยนต์ใช้โหลดมากกว่าแอร์ โดยเฉพาะเกียร์ Auto เพราะเราขอยืมเซ็นเซอร์ของแอร์มาหรอกใช้ เขาตั้งโปรแกรมตามโหลดที่ได้จากแอร์ ส่วนของเกียร์จะมากว่า ก็เป็นการทดสอบแบบง่ายๆ เพื่อให้ทราบปัญาหาเวลาเข้าเกียร์ แล้วรอบตก

ความจริงการทดสอบนี้เรื่องสัญญาณที่ส่งออกจากเกียร์ หากคนที่เป็นช่างเขาจะรู้ว่าจะหรอก ECU ว่ามีสัญญาณจากเกียร์อย่างไร โดยไม่ต้องทำตามที่ผมแนะนำ ง่ายด้วย ก็ลองทำตามนี้ก่อนครับ ได้ผลอย่างไรมาบอกกันบ้าง และอยากให้ทดลองเหยียบเบรคดูในขณะเครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบาด้วย ว่ารอบเครื่องยนต์ตกบ้างไหม หากรอบเครื่องยนต์ตก แสดงว่าในระบบหม้อลมเบรคอาจรั่ว เพราะเคยตรวจเจอแต่ไม่ค่อยจะพบนัก ก็ลองตรวจดู ผมยังมีเรื่องที่จะแนะนำอีก แต่อยากดูผลของการทดลองก่อนครับ........srithanon
วันที่: 13 Sep 12 - 22:15

 ความคิดเห็นที่: 8 / 24 : 740411
โดย: Deen
วันที่: 13 Sep 12 - 23:00

 ความคิดเห็นที่: 9 / 24 : 740412
โดย: ทวีรัฐ
คุณDeen ไปโป้ง ท่าน ศรีธนนท์ ทำไมอ่ะ
วันที่: 13 Sep 12 - 23:11

 ความคิดเห็นที่: 10 / 24 : 740416
โดย: Deen
5555 คิดไปได้ นะท่านทวีรัฐ
วันที่: 13 Sep 12 - 23:45

 ความคิดเห็นที่: 11 / 24 : 740423
โดย: srithanon
ขอบคุณ ท่านทั้งสองข้างบนด้วยนะครับ

ขอเพิ่มเติมในกระทู้อีกนิดครับ สำหรับเรื่องให้ทดลองดึงสายไฟที่คอมแอร์ออก ........ หากเข้าเกียร์แล้วยังมีอาการรอบตกเช่นเดิม แสดงว่าระบบเกียร์มีปัญหา ตามที่คุณ DEEN กล่าว ก็ลองเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ดูก่อนในเบื้องต้น แต่นั้นเป็นการทดสอบเรื่องสัญญาณเกียร์เข้ากล่อง ECU ในกรณีที่น่าจะเป็น แต่มันมีสิ่งที่จะตรวจสอบเพื่อประกอบความแน่ใจว่าเกิดขึ้นในระบบเกียร์ เพราะอาการนี้ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า จริงหรือไม่ว่า เมื่อส่งสัญญาณจากเกียร์ให้ ECU แล้ว แต่มันไม่สั่งปรับการฉีดน้ำมันเพิ่ม เพื่อช่วยรอบเดินเบา ก็ต้องตรวจสอบด้วยใช้ Oscilloscope จับสัญญาณ ที่หัวฉีด ดูว่าญญาณหากเข้าเกียร์แล้ว มีสัญญาณพัลส์ที่เกิดที่หัวฉีด มีระยะคาบเวลาเร็วเพิ่มขึ้นหรือไม่ หากมีและวัดอ่านค่าของคาบเวลาที่เกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจริง แสดงว่าเกียร์มีปัญหาครับ หากไม่มีก็อาจเป็นไปได้ว่า กล่อง ECU มีปัญหา หลังจากที่รับสัญญาณจากเกียร์แล้วไม่สั่งเพิ่มการฉีดน้ำมัน ก็เป็นการตรวจสอบสัญญาณที่กล่องECU จะได้แน่ใจว่า เกียร์หรือกล่อง ECU เสียกันแน่......srithanon
วันที่: 14 Sep 12 - 07:08

 ความคิดเห็นที่: 12 / 24 : 740428
โดย: Fujiwara Takumi
การทำ generate pulse ต่างๆ เพื่อหลอกให้กล่อง ECU ทำงานอยากรู้ว่า เครื่อง OBD2 หรือเครื่องมือ Digital Storage Oscilloscope and Function/Arbitrary Waveform Generator เนี่ยตามอู่มาตรฐานทั่วไปเค้ามีรึปล่าวครับ ราคาแพงมั้ยครับเจ้าตัวนี้
วันที่: 14 Sep 12 - 08:15

 ความคิดเห็นที่: 13 / 24 : 740448
โดย: mukkiko
ขอขอบคุณอีกครั้งครับ คูณsrithanon กับน้ำใจที่เผื่อแผ่ รู้ปํญหา+วิธีการ แต่คงทำไม่ได้ ค่าใช้จ่ายในการทำ ประมาณเท่าไหร่ครับ มีที่แนะนำมั๊ยครับ (คิดว่าจะซ่อมใช้ยาวๆ ชอบครับชอบทั้งรถ+club m/z)

**อีกอย่างยังไม่มีตังค์ซื้อรถใหม่ครับ เลยต้องขับไปซ่อมไป**
วันที่: 14 Sep 12 - 10:09

 ความคิดเห็นที่: 14 / 24 : 740480
โดย: srithanon
ตอบคุณ Fujiwara Takumi ราคา OBD2 มีตั้งแต่ราคาเยาวชน ไปถึงผู้ใหญ่ครับ ตั้ง
แต่ราคา สามสี่พันบาท ไปจนถึงหลักแสนบาท แล้วแต่ว่าใช้ครอบคลุมกับรถรุ่นใหม่ๆ และหลายยี่ห้อได้มากแค่ไหน สามารถอัพโปรแกรมใหม่ๆได้ หรือไม่ได้ มีข้อจำกัดเกี่ยวกับข้อมูลไดโนสติคของรถแต่ละยี่ห้อหรือเปล่า หรือทำได้แค่พื้นๆ

สำหรับตัว Digital storage oscilloscope ก็มีราคาตั้งแต่สองสามหมื่นบาท ไปจนถึงหลักสองสามแสนบาท แล้วแต่ละยี่ห้อ และความสามารของมัน ว่าสามารถใช้ Bandwidth ของ ความถี่สูงมากน้อยแค่ไหน จำนวน channel มีตั้งแต่ 2ch และ 4ch หากใช้ของที่ผลิตในจีนและใต้หวัน ก็ถูกหน่อย หากใช้แบรนดฺดีๆ พวกเทร็คโทรนิคส์ หรือฮิวเล็ตแพคการ์ด ก็แสนกว่าถึงสามแสน

ของผมที่ใช้ หากใช้งานแบบยกเคลื่อนไปมา หล่นบ้างกลิ้งบ้าง ก็ใช้ของยี่ห้อ RIGOL ราคาสามสี่หมื่น
หากเอาไว้ใช้งานวิเคราะห์ พวกอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารก็ใช้ของ เทร็คโทรนิคส์ ราคาก็หนักหน่อย
สำหรับ Function/Arbitrary Waveform Generator ก็มีราคาเช่นเดียวกับ Digital oscilloscope

สำหรับเจ้าตัวนี้เหมาะกับการนำมาใช้ซ่อมเครื่องยนต์ ที่ควบคุมด้วยระบบ ECU อย่างมาก เพราะมันสามารถเรียนแบบ waveform pulse การทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างดี และหลังจากที่ให้มันจับ waveform การทำงานของเครื่องยนต์แล้ว ก็ให้มันสร้างwaveform นั้นขึ้นมา แล้วเก็บ storage ไว้ในหน่วยความจำของมัน เพื่อเอาไว้ตรวจสอบหรือหรอกให้ ECU มันทำงานเสมือนหนึ่งว่า มาจากการทำงานของเครื่องยนต์ ในภาคนั้น ๆ ก็จะทำให้ง่ายกับการตรวจสอบการแก้ไขปัญหาที่เกิดกับเครื่องยนต์ ง่ายในการวิเคราะห์ รวดเร็วกับการใช้เวลาในการซ่อม ถูกต้องและตรงประเด็น ...srithanon
วันที่: 14 Sep 12 - 12:18

 ความคิดเห็นที่: 15 / 24 : 740488
โดย: srithanon
ต่อคำถามของท่านเจ้าของกระทู้ ถามว่าสามารถจะหาอู่ที่ซ่อมด้วยระบบที่ผมกล่าวนั้น มีครีบแต่หายาก เพราะว่าอู่ใหญjๆ เขาก็ใช้พวก scanner tool พวก OBD2 และเครื่องมือที่ใช้กับงานรถ ที่ออกแบบมาใช้เฉพาะ กับรถยนต์ยี่ห้อนั้น นอกจากช่างที่ศึกษามาทางอีเลคโทรนิคส์ ก็จะนำเครื่องมือที่ผมกล่าวมาใช้

สำหรับสถานที่ซ่อมผมยอมรับว่าผมไม่ทราบว่ามีที่ไหนบ้าง ทีซ่อมออกมาแล้วใช้งานได้ดี เป็นปกติ มีแต่ทราบว่าซ่อมมาแล้วมักมีปัญหาตามมาเป็นปกติ อยากจะช่วยซ่อมให้ แต่ไม่มีสถานที่และเวลา แต่ ก็ยังมีน้องๆในชมรมแห่งนี้และชมรมรถฮอนด้า เอามาให้ช่วยซ่อมให้บ่อยๆ ช่วงนี้ก็มีอีกหนึ่งคัน แลนติส V6
ของน้องในชมรมมาสดาแห่งนี้ เอารถยกขับมาทิ้งไว้หน้าบ้าน ให้ช่วยซ่อมให้หน่อย ทั้งที่ไม่มีเวลา แต่ก็นั้นแหละ น้องเขาคิดว่าซ่อมให้เขาได้ เพราะมาหาทุกครั้งที่รถมีปัญหา ก็อดใจไม่ได้ที่จะช่วย อะไรที่ช่วยได้ก็ยินดีที่จะช่วย แต่ช้าหน่อยเพราะไม่มีเวลาจริงๆครับ ....srithanon
วันที่: 14 Sep 12 - 12:44

 ความคิดเห็นที่: 16 / 24 : 740505
โดย: Fujiwara Takumi
ขอบคุณ ท่าน srithanon มาก ๆ ครับ ได้ความรู้มาอีกเรา ขอบคุณครับ
วันที่: 14 Sep 12 - 13:51

 ความคิดเห็นที่: 17 / 24 : 740588
โดย: 323เก่าๆ
"หากเป็นตามนี้ แสดงว่าเวลาที่เราเข้าเกียร์ มันไม่มีสัญญาณของเกียร์ส่งไปให้ ECU รอบเครื่องยนต์จึงตกตามที่กล่าวมา"

มีวิธีทดสอบง่ายๆ อยู่ครับ คือดับเครื่อง เข้าเกียร์ตำแหน่ง r d s l แล้วสตาร์ท (ก่อนทำ แนะนำให้จอดที่โล่งๆ เหยียบเบรคไว้)

ถ้าปกติ จะบิดแล้วเงียบ

ถ้าผิดปกติ จะสตาร์ทได้ อันนี้ต้องไปไล่เช็คที่ range switch ของเกียร์ครับ
วันที่: 14 Sep 12 - 21:06

 ความคิดเห็นที่: 18 / 24 : 740868
โดย: mukkiko
ขอสถานที่จอดหน่อยครับ คุณsrithanon ผมขอรบกวนหน่อยครับ นานหน่อยไม่เป็นไร เพราะทุกวันนี้ เข้าทีก็จอดแช่แล้วครับ เบอร์ผม0868606834
วันที่: 16 Sep 12 - 16:44

 ความคิดเห็นที่: 19 / 24 : 740890
โดย: srithanon
ปกติการสตาร์ทเครื่องยนต์ หากเกียร์ไม่อยู่ในต่ำแหน่ง N หรือ P จะสตาร์ทไม่ติด เพราะว่าทั้งสองต่ำแหน่ง คือ N และ P จะมีสวิชท์ต่อไฟไปจ่ายให้กับรีเรย์มอเตอร์สตาร์ท และสัญญาณ STA ไปให้กล่อง ECU หากเข้าเกียร์ในต่ำแหน่งอื่นๆ ก็จะสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้ เขาออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
หากไม่มีระบบนี้ จะทำให้เจ้าของรถ บางครั้งเผลอไปใส่เกียร์ต่ำแหน่งเดินหน้าหรือถอยหลัง เวลาสตาร์ทเครื่อง รถก็จะพุ่งออกไปทันที่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ สำหรับรถที่เป็นเกียร์แมนนวล ก็ต้องเหยียบครัชท์ก่อน ถึงจะสตาร์ทได้ ( บางรุ่น)
สำหรับเจ้าของกระทู้ผมกำลังจะติดต่อไปตามเบอร์ที่แจ้งไว้ครับ ...srithanon
วันที่: 16 Sep 12 - 19:58

 ความคิดเห็นที่: 20 / 24 : 740932
โดย: บอมบ์


เยี่ยมครับ
วันที่: 17 Sep 12 - 00:47

หน้าที่: [1]   2