Close this window

121 เปิดแอร์แล้ว อืดครับ
121 ปี93-94 หัวฉีดเดี่ยว
คือเวลา ปิดแอร์นี่วิ่งฉิว เหมือนตัวเบา แต่เวลา เปิดแอร์แล้วมันตื้อๆครับ
- ชดเชยรอบแล้ว มันก็วิ่งดีขึ้น แต่มันก็ยังรู้สึกตื้อๆ แถมเครื่องดังด้วย กดแล้วไม่ วิ่ง เหมือนตอนไม่เปิดแอร์
- ไม่เปิดแอร์ รถนิ่งมากๆ เสียงไม่ดัง เปิดแอร์ แล้วห้องเครื่องเสียงดัง รถก็สั่น ขึ้นด้วยครับ
- เวลาเข้าเกียร์ รอบจะตกลงมา ทำให้เครื่องสั่น ไปชดเชยรอบขึ้น เครื่องสั่นน้อยลง แต่รถมันก็คราง เพราะเสียงรอบสูงขึ้น
- เชคเวคคัมแอร์ มันมี ตัวปรับ2ตัวบนล่าง ตัวบน หมุน ไม่เกิดอะไรขึ้น ตัวล่าง หมุนมีผลกับเสียงเครื่องแต่ไม่มีผลกับรอบเครื่อง แค่ดีขึ้น แต่ก็ไม่หาย ไม่แน่ใจว่าตัวนี้เสียหรือเปล่าครับ ใครเคยเจออาการแบบผมบ้างรบกวนด้วยครับผม
- คาร์บูก็ล้างแล้ว หรือต้องดู ตรงไหนเป็นกรณีพิเศษครับผม
ขอบคุณมากๆครับผม
โดย: Araleboy   วันที่: 17 Nov 2012 - 21:31


 ความคิดเห็นที่: 1 / 8 : 751853
โดย: พจน์400
ขอให้หายไวๆ ครับ
วันที่: 18 Nov 12 - 08:19

 ความคิดเห็นที่: 2 / 8 : 751868
โดย: srithanon
สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบคาบูเรเตอร์ เมื่อมีอาการเปิดแอร์แล้วรอบเครื่องยนต์ตก วิ่งอืดรวมทั้งเข้าเกียร์ รอบตกด้วย ให้แยกการตรวจสอบเป็นสองกรณี กรณีแรก ให้ตรวจสอบระบบไฟจุดระเบิด พวกสายหัวเทียน หัวเทียน การตรวจสอบแบบตาดูหูฟังที่ท่านเจ้าของรถพอจะทำได้

ให้ทดสอบโดยการตรวจสอบการจุดระเบิดของแต่ละสูบ โดยการติดเครื่องยนต์ที่รอบเดินเบา แล้วให้ดึงสายหัวเทียนของสูบที่ 1 ออก แล้วให้สังเกตุผลการตอบสนองของเครื่องยนต์ หากดึงออกแล้วรอบเครื่องยนต์ตกวู๊บ แสดงว่ายังจุดระเบิดดี ก็ให้ใส่สายหัวเทียนกลับเข้าไปตามเดิม จากนั้นก็ให้ดึงสายหัวเทียนสูบที่สองออก แล้วดูผลว่ามีอาการอย่างไร หากดึงออกแล้วอาการเหมือนสูบแรก ก็ถือว่าปกติ

แต่ถ้าหากดึงออกแล้ว รอบเครื่องยนต์ไม่ค่าอยตกลงมา หรือตกน้อยมาก แสดงว่ามีความผิดปกติ อาจจะเป็นที่หัวเทียน หรือสายหัวเทียน เกิดค่าความต้านทานเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดโวลเต็จดร๊อปในสาย ทำให้ไฟสูงลดลง การจุดระเบิดในสูบนั้นก็ต่ำ ทำให้ผลรวมของกำลังเครื่องยนต์ลดลง ดังนั้นเมื่อมีโหลดจากการเปิดแอร์ หรือเข้าเกียร์ รอบเครื่องยนต์จึงตก ให้ตรวจสอบครบทุกสูบนะครับ เพราะกรณีอย่างนี้ หากเครื่องยนต์ไม่มีโหลด จะไม่ค่อยเห็นผลเรื่องรอบเดินเบา ที่มีรอบเครื่องยนต์ตก

ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วทั้งสี่สูบ ผลออกมาปกติ ให้ทำการตรวจสอบองศาไฟจุดระเบิด ในครื่องยนต์ระบบคาบิว ให้ทำการหมุนที่ตัวจานจ่าย ไฟแก่ไฟอ่อน หมุนตามเข็มนาฬิกาไฟแก่ และหมุนทวนไฟอ่อน ให้ปรับกึ่งกลางระหว่างไฟแก่และอ่อน แต่ความจริงแล้วก่อนที่จะมีการปรับองศาไฟจุดระเบิด ควรทำการตรวจสอบกำลังอัดแต่ละกระบอกสูบก่อน เพื่อดูกำลังอัด อาจจะมีกำลังอัดแต่ละกระบอกสูบลดลงมาก จากสาเหตุวาวล์ปิดไม่สนิท หรือวาวล์ยัน แหวนลูกสูบหลวม ก็จำเป็นที่จะต้องตั้งวาวล์ใหม่เสียก่อน แล้วค่อยตรวจสอบมุมองศาจุดระเบิดทีหลัง

ดังนั้นในกรณีที่ตรวจเช็นระบบไฟแล้วปกติ ก็ให้ทำการตรวจวัดกำลังอัดก่อนตั้งวาวล์ และหลังตั้งวาวล์อีกครั้ง เพื่อจำข้อมูลหลังจากตั้งวาวล์ใหม่ ว่ามีกำลังอัดเพิ่มขึ้นมากเท่าใด เพื่อจำไว้เป็นข้อมูลในการตรวจเช็คเรื่องกำลังของเครื่องยนต์ที่ตกลงในคราวต่อไป

ผมมีความเชื่อว่า หากระบบไฟปกติ แล้วทำตามที่ผมแนะนำข้างบนก็จะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้ว นอกจากเสียว่าระบบแอร์มีความผิดปกติอย่างอื่นเข้ามา ดังจะกล่าวในกรณีที่สองต่อไปนี้

สำหรับอาการที่รอบเครื่องยนต์ตกเพราะแอร์มีปัญหา อาจจะมาจากสาเหตุที่ระบบน้ำยาแอร์ ไม่สามารถที่จะระบายความร้อนแฝงออกจากระบบน้ำยา ด้วยคอยร้อนหรือคอนเด็นเซอร์ อาจะตีปตันทางด้านไฮเพรชอร์ ทำให้ลูกสูบของคอมแอร์มีสภาวะของโหลดเิ่พิ่มขึ้น ทำให้สูญเสียกำลังของเครื่องยนต์ แต่อาการนี้ไม่น่าจะใช่ในกรณีที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของท่านเจ้าของกระทู้ เพราะว่าคุณบอกว่า เวลาเข้าเกียร์รอบเครื่องยนต์ก็ตก แสดงว่ามาจากเหตุผลที่ผมกล่าวมาจากข้างบน ก็จะไม่ขอพูดถึงปัจจัยของระบบแอร์ที่ทำให้รอบเครื่องยนต์ตก

ลองตรวจสอบตามนี้ดูก่อนครับ เพราะในระบบเครื่องยนต์ระบบคาบิว ไม่มีปัจจัยร่วมในเรื่องการคอนโทรลเครื่องยนต์ด้วย ECU ที่มตัวร่วมเรื่องระบบเซ็นเซอร์อื่นๆเข้ามาเป็นตัวแปร ก็อยากแนะนำต่อให้อีกเรื่อง เรื่องระบบไฟในระบบคาบิง หากปรับปรุงคอยจุดระเบิดเป็นระบบอีเลคโทรนิคส์ CDI จะทำให้รถมีกำลังตอบสนองในการขับดีมาก เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่าย จุดระเบิดได้สมบูรณ์ ทำให้กำลังเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น เหยียบแล้วรู้สึกความต่างกับแบบเดิมได้ชัดเจน ลองหาเปลี่ยนดู เพราะไฟสูงที่จ่ายให้กับหัวเทียน สูงกว่าเดิมมาก.........srithanon
วันที่: 18 Nov 12 - 10:25

 ความคิดเห็นที่: 3 / 8 : 752015
โดย: kangputter
ในการปรับจูน 121 ต้องใช้เครื่องมือพอสมควร และต้องรู้การทำงานsolino แต่ละตัวด้วยว่าทำงานตอนไหน
ผมแนะนำ ช่างให้ดีกว่าคับ พี่ยู๋แกวไหนคับ
วันที่: 19 Nov 12 - 12:12

 ความคิดเห็นที่: 4 / 8 : 752077
โดย: Araleboy
พจน์400
- ขอบคุณครับ ผมทศ ตาตี่ จำได้หรือเปล่าครับ ไม่ได้เข้ามานานเลย

srithanon
- ขอบคุณในน้ำใจมากๆครับ ที่เข้ามาตอบให้ยาวเลย ไม่ทราบ มีเมล์มั้ยครับ เผื่อลองทำตามดูแล้ว จะได้แจ้งผลความคืบหน้า

: kangputter
- ผมอยู่เลียบด่วนรามอินทราครับ ใช้121 เหมือนกันหรือเปล่าครับ
วันที่: 19 Nov 12 - 17:08

 ความคิดเห็นที่: 5 / 8 : 752160
โดย: kangputter
คุณไปหาผจก. นิรันดรที่ศูนย์มาสด้า ฝั่งตรงข้างแดนเนรมิตคับ. เขามีข้อมูลให้คุนพอสมควรคับ
ไม่ได้มีใช้คับแต่พอได้อ่านข้อมูลบ้างคับ
วันที่: 19 Nov 12 - 23:38

 ความคิดเห็นที่: 6 / 8 : 752318
โดย: Yod Klong3
ถ้าหากพุ่งเป้าไปที่ คอมแอร์ ผมเคยเป็นอาการนี้อยู่ครับ มันดังที่คอมไม่ใช่ที่เครื่อง คอมผมเป็นคอมบิ้ว เปลี่ยนมาเนื่องจากของเดิมรั่วช่างบอกซ่อมไม่ได้ พอเปลี่ยนใช้ได้สองสามเดือนมีอาการคอมดัง แต่ไม่ฉุดรอบเครื่องมาก (ดังแกรกๆๆๆๆ) ไปให้ช่างร้านใหม่ดู เขาบอกว่าลองแวกน้ำยาใหม่ดู น้ำยาอาจไม่พอทำให้ลูกสูบดัง เสียงเบาลงครับ แต่รอบเครื่องฉุดไม่ฉุดยังไงไม่ทันได้่สังเกตุนะครับ แต่ได้แถมอาการไหม่มาคือ จะมีเสียงดัง ฉี่ๆ เป็นระยะในห้องโดยสาร ตามจังหวะช่วงที่คอมแอร์ทำงาน T_T ส่วนคอมแอร์เสียงเบาลงแต่ก็ยังคงดังกว่าระดับปกติกครับ

ปล. ไม่ได้ล่วยไขข้อสงสัยแถมยังถามเพิ่มอีก

วันที่: 21 Nov 12 - 00:09

 ความคิดเห็นที่: 7 / 8 : 753043
โดย: nkk121
แต่ได้แถมอาการไหม่มาคือ จะมีเสียงดัง ฉี่ๆ เป็นระยะในห้องโดยสาร ตามจังหวะช่วงที่คอมแอร์ทำงาน T_T ส่วนคอมแอร์เสียงเบาลงแต่ก็ยังคงดังกว่าระดับปกติกครับ

เป็นเหมือนผมเลยครับ
วันที่: 26 Nov 12 - 17:57

 ความคิดเห็นที่: 8 / 8 : 753096
โดย: ทวีรัฐ
เสียงน้ำยาแอร์ ไม่ใช่ปีญหาครับ
ไว้เติมครั้งต่อไปค่อยให้เขาเช็คที่ตาแมว ตรง ไดเออร์ให้ดี ว่าน้ำยาน้อยไปหรือเปล่า
วันที่: 26 Nov 12 - 23:06