User Name :
  Password :

จำนวนสมาชิก 17,837 คน
จำนวนรถ 4,779 คัน

ออนไลน์ 0 คน

รายนามขาเม๊าท์ (0)
  - ไม่มีคนเม๊าท์

Currency Convert



Article

Article Menu




Mazda 626 TTL

การเลือกซื้อ 626 TTLรถรุ่นนี้ ให้ดูตัวปี 92 ถ้าเป็นไปได้เพราะเป็นปีสุดท้ายที่จำหน่าย รถรุ่นนี้ ออกมาตั้งแต่ปี 88-92 มี 3 รุ่น คือ

1.เครื่อง 1.8 คาร์บูเรเตอร์ (มีทั้ง 4และ5 ประตู)
2.เครื่อง 2.0 หัวฉีด 12 Value (ในตัว 4 ประตู) และ
3.เครื่อง 2.0 16 Vale (ในตัว 5 ประตู)

626 TTL 5 ประตู 2.0 16 VALE

เครื่องรุ่นนี้จะเป็นเครื่องฝาสูบสีทอง 148 ม้า TOP Speed 208 Km/hr วัดจากการขับของผมเอง (เมื่อติดเครื่อง บางครั้งจะมีเสียงดัง แต๊ก ๆ ตลอดเนื่องจากมีการปรับตั้งง Value อัตโนมัติไม่ต้องแปลกใจครับเดี๋ยวเสียงหายเองและจะดังตามจังหวะการเร่งเครื่อง ถ้าวิ่งไปซักพักก็จะหาย)

การสังเกตุรถรุ่น5ประตูนี้จากภายนอก ดูได้ง่ายมาก ว่าเป็นเครื่อง 1.8 หรือ 2.0i ให้ดูจากฝากระประตูหลัง สีแผงทับทิมตัว 1.8 สีจะออกดำ 2.0i จะออกสีสดและแจ่มมาก ชัดเจน (เอาไว้เป็นข้อสังเกตุ เผื่อมีบางคนเปลี่ยนเครื่อง 1.8 ออก วาง 2.0 มาหลอกขาย แล้วไม่ได้เปลี่ยนแผงทับทิม)

การเลือกซื้อเข้าเรื่องเลยแล้วกัน

ภายนอก ถ้ามีสติ๊กเกอร์ คำว่า GT ติดที่แก้มหน้าซุ้มล้อหน้า) ทั้งซ้าย-ขวา และ คำว่า 2.0 i 16 VALUE ติดที่ ใต้ไฟท้ายด้านคนขับ (ไม่ใช่เป็น TTL WS นะครับเพราะเป็นสติกเกอร์ของตัว 1.8 ) นั้นหมายความว่า 85-90 % ยังไม่เคยผ่านการทำสี ยังไม่เคยชน แต่ส่วนอื่น เช่นประตูทั้ง 4 ฝากระโปรง ต้องดูสีโดยรวม ว่าโทนสีเดียวกันอยู่กับชิ้นที่มีสติ๊กเกอร์อยู่หรือไม่ (ตรงนี้อย่าไปซีเรียสมาก รถ ประมาณ 11 ปี มีการทำสีน่าจะเป็นธรรมดา แต่ดูที่เฉี่ยวชนเบา ๆ ก็แล้วกัน) รถรุ่นนี้มีแค่ 3 สี นะครับ ขาว ทอง และเทาดำ นอกเหนือจากนี้ไม่ standardครับ (ของผมสีเทาดำ) ดูบริเวณซุ้มล้อทั้ง 4 ต้องไม่ผุ ส่วนใหญ่ผุตรงชายล่างและต่ำแหน่งที่ติดกันโคลน

ไฟหน้าถ้าเขาให้เราเปิดดูหลอดไฟใหญ่ออกมาดู ถ้าเป็น H4 ขาใหญ่เหมือนที่บ้านเราใช้ก็ OK แต่ถ้า ขายึดกับโคมสั้นและเล็ก สันนิษฐานว่าโดนชนแล้วเอาโคมไฟ ญี่ปุ่นมาใส่ ถ้าดูไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับเดี๋ยวเจ้าของรถว่าเอา

สำหรับภายใน

ดูว่าสภาพรับได้ไหม ของผมยังใหม่อยู่เลยนะ คนอื่น ไม่น่าจะเก่าถ้าดูแลดี เบาะกำมะยี่ แผงข้างหนัง เบาะคนขับต้องปรับระดับสูงต่ำได้ด้วย ส่วนใหญ่รถรุ่นนี้จะมีลำโพงติดที่คอนโซล ไม่มีติดที่ประตู และมีลำโพงเพียงคู่หน้าเท่านั้น ถ้ารถที่คุณจะซื้อ ไม่มีวิทยุ หรือถ้ามีก็ดูว่าอย่าเจาะดัดแปลงจนเสียรถ (ถ้าซื้อแล้วค่อยคุยกันนะครับถ้าจะแต่งเครื่องเสียง รถผมติดเครื่องเสียงแล้วยังคงสภาพเดิมได้ดีครับ) อย่าลืมดูด้านหลังภายในจะมีแผ่นปิดระหว่างเบาะหลังกับห้องเก็บสัมภาระ เมื่อเปิดฝาท้ายแผ่นนี้จะยกตาม

สำหรับเครื่องยนต

เมื่อปิดกุญแจไปที่สตาร์ต ไฟที่หน้าปัทม์ จะโชว์ รูปน้ำมันเครื่อง รูปแบตเตอรี่ รูปเบรคมือ(กรณีที่ดึงเบรคมือ) รูปรถเปิดประตู(กรณีที่เปิดหรือปิดประตูไม่สนิท) ถ้าไฟติดสีแดงทุกดวงตามที่กล่าว ระบบไฟ OK และเมื่อติดเครื่องไฟทุกดวงจะหายไปครับ กรณีที่ดับเครื่องแต่ยังไม่ดึงกุญแจออกแล้วเปิดประตู จะมีเสียงเตือนครับว่าลืมกุญแจ กรณีที่เปิดไฟหน้าแล้วเปิดประตูจะมีเสียงเตือนว่าลืมปิดไฟ ถ้าครบOK

การเลือกรถเกียร์ธรรมดา ลองขยับเกียร์ดู ไม่ต้องติดเครื่องนะครับ ขยับ ซ้าย-ขวา ไปมา เปิดประตูรถด้วย แล้วลองเอียงหูฟังว่ามีเสียงเหมือเหล็กกระทบกันหรือไม่ กรึก ๆ ตามการเคลื่อนของเกียร์ แสดงว่าบูธยางตรงคันเกียร์ขาด มันอยู่ใต้รถมองไม่เห็นเลยต้องฟังเสียง แต้ถ้าไม่มีเสียงและคันเกียร์ค่อนข่างแน่น ไม่หลวม คล็อกแคล็ก ถือว่าดีครับ

สำรวจบริเวณเครื่อง ว่ามีคราบน้ำมันอะไรไหม

ก้มดูใต้ท้องรถสังเกตุดูว่ามีน้ำมันอะไรหยดไหม ดูให้ดีนะครับ เพราะถ้ามีปัญหาได้เสียตังค์แน่ จากนั้นติดเครื่อง รอบเครื่องจะอยู่ประมาณ 900 RPM เมื่อเปิดแอร์ 800 RPM เครื่องมีอาการสั่นนิดหน่อย ถือว่า OK

รถรุ่นนี้แอร์ตัวกลางเปิดส่ายไปมาได้ลองกดส่ายดูครับ เปิดไฟทุกดวงว่าทำงานตามปกติ ดูว่าแอร์เย็นไหม การตัดและทำงานของ COMแอร์ และพัดลม ทำงานปกติไหม กรณีที่ปิดแอร์ เมื่อเครื่องร้อนพัดลมไฟฟ้าทำงานไหม เร่งเครื่องฟังเสียงต้องราบรื่นไม่มีอาการสะอึกนะครับ

ฟังเสียงท่อไอเสียด้วยต้องค่อนข้างเงียบถ้าดังแสดงว่าไม่ตรงใดตรงหนึ่งของท่อรั่ว ส่วนใหญ่ปะเก็นตรงเฮดเดอร์ จาก4 มา 2 จะขาด และท่อเมนผุรั่ว เพราะเป็นธรรมดาครับ

ทดลองขับเลยครับขอเขาไม่ต้องขับเร็วนะครับ แต่ให้ครบทุกเกียร์ก็ดี เพื่อดูระบบพ่วงมาลัยต้องเพาเวอร์ ระบบเบรดหยุดดีไหม ถ้าบริเวรที่ขับมีเนินสะดุดยิ่งดีจะได้ดูและฟังเสียงการทำงานของโช้คอัพ ถ้าที่กล่าวมาไม่สนใจจริงไม่ต้องลองขับนะครับ ถ้าเขาไม่ให้ลองก็ลองใช้ผ่ามือกดบริเวร ต่ำแหน่งแก้มซ้าย-ขวา ทั้งหน้าและหลัง กดแบบขย่มทั้งตัวดูว่ารถต้องเด้งหยุด ไม่เด้งต่อเนื่อง ระวังรบเขาบุบ

พวงมาลัยก็ลองหมุนดูแต่ต้องติดเครื่องนะครับไม่ยังงั้นหมุนไม่ได้ หนัก

เรื่องอะไหล่ทางศูนย์ มีเก็บไว้ให้ครับ เช่นพวกซีลยางต่าง ๆ ราคาถูกรับได้ บางอย่างก็แพงครับ แต่เราเลือกที่จะซื้อได้ครับ สำหรับค่าแรงการเปลี่ยนบางอย่างค่าแรงแพงกว่าของครับ อันนี้เราก็เลือกได้ครับว่าจะซื้อของเอง แล้วไปหาอู่ที่ไว้ใจได้เปลี่ยนให้ราคาก็ถูกลง

ผมยกตัวอย่างครับหม้อน้ำผมรั่ว ซ่อมร้านข้างนอกครั้งละ 300-400 บาท แต่ ไม่นานต้องไปซ่อมอีกมันรั่วเป็นตามด ครั้นพอจะเปลี่ยนใหม่ของศูนย์ 8,000 บาท แต่ผมไปซื้อที่เชียงกงบางนา มีหลายร้านบอกราคา หม้อน้ำอย่างเดียว 1500 , 2000 บางร้าน 2000 พร้อมพัดลมอันนี้ขึ้นกับว่าร้านนั้นต้องการขายเป็นชุดหรือขายแยก และมีของหรือเปล่า อยู่ที่เทคนิคครับ ผมได้มาตัวหนึ่งพร้อมพัดลมสภาพ 90 % 2000 บาท กลับบ้านมาเปลี่ยนเอง ถูกไหมครับ

และบางกรณีผมเข้าศูนย์ครับเช่นมีรอยรั่วของน้ำมันเครื่องบริเวณพูเลย์ข้อเหวี่ยง เช็คแล้วซีลยางขาด ค่าซีลยาง 300 บาท ค่าแรง 900 ครับ ก็งานมันทำยากต้องรื้อสายพานไทม์มิ่งออก แต่ถ้าไปเปลี่ยนข้างนอก ค่าซีลยางพอกันถูกกว่าไม่มาก ค่าแรงถูก 500 บาท แต่ของที่คุณได้ซีลยางแท้หรือเปล่า เพราะพวกนี้ของแท้ใช้ได้นานกว่า 2 เท่า ครับ

มีอีกกรณีหนึ่งผมเช็คราคาอะไหล่ที่ศูนย์ เช่น กรองอากาศ 1500 บาท ผมไปซื้อร้ายขายอะไหล่แท้ที่วรจักร 1051 บาท จะเห็นว่าถูกกว่า ดังนั้นอย่างที่ผมบอก ต้องพิจารณาเอาครับ

ต้องเข้าใจมีดีเสียต่างกันถ้าเลือกเหมาะสมอย่างผมคันนี้ไม่มีปัญหาจุกจิกครับ อะไหล่บางอย่างเปลี่ยนลืมครับ (กรองอากาศถ้าเทียบของTOYOTA ถูกกว่ามาก ของเทียม 300-400 บาท ของเบิกห้าง 700-800 บาท แต่อายุใช้งานครับ TOYOTA เปลี่ยนทุก 20,000 Km MAZDA 40,000 ครับ)

รถผมบำรุงรักษาดี ซ่อมมาหลายอย่างบทเรียนเยอะครับถ้าซื้อรุ่นนี้แล้ว อะไรเสียแล้วผมเคยซ่อมผมก็ให้ข้อมูลได้ครับ เพราะผมถือว่า ถ้ารักจะขับรถเร็ว ต้องดูแลเขา บำรุงรักษาและรักษาสมรรถนะให้เขา ออกมาใหม่ ถือว่าคุ้ม ใน 1 ปี ผมมีค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนอะไหล่รถ ประมาณ 20,000 บาท รวมค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง ทุก 5,000 Km ประมาณ 800 บาท ผมใช้บริการปั๊มน้ำมันคาร์ลเท็ค แถวบ้านครับ (อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนบ่อยมีแค่กรองน้ำมันเครื่อง และกรองอากาศ นอกนั้นตามอายุงานในคู่มือครับ แต่อาจจะลดลง 80 % ไม่ถึง 100 % ตามคู่มือ ก็รถมัน 10 ปีแล้วนะครับ)

หวังว่าคงเป็นข้อมูลให้คุณ- ตัดสินใจไม่มากก็น้อยครับ อะไหล่ไม่ต้องห่วง มีครับอีก 5 ปี ยังไหว บางอย่างเทียบรุ่นใช้ได้ครับ คุณ-คงต้องตอบคำถามตัวเองนะครับ ว่า รถระดับนี้ราคาประมาณ 200,000 บาท กับสมรรถนะที่ได้รถรุ่นใหม่ ๆ ยังอาย หรือรุ่นเก่า ๆ ราคาที่เท่ากัน มีไหม ? เอาไว้ผมจะเอากล้องถ่ายรูปรถของผมส่งไปให้ดู ถ้าคุณ- ใช้รุ่นเดียวกับผม เพื่อเป็นแนวทาง ในการแต่งครับ ของผมเน้น Standard ไม่เสียรถ เบื่อก็ขายได้ราคา ของผมยังไม่ขายนะครับ ถ้าตัดสินใจซื้อแล้วยังไงส่งข่าวมาได้นะครับ

=============================

รวบรวมสรุป โดย คุณปอม626TTL