User Name :
  Password :

จำนวนสมาชิก 17,837 คน
จำนวนรถ 4,779 คัน

ออนไลน์ 0 คน

รายนามขาเม๊าท์ (0)
  - ไม่มีคนเม๊าท์

Currency Convert



Article

Article Menu
626- Cronos
มาสด้า626 หรือ โครโนส Cronos เป็นรถครอบครัวขนาดกลาง หรือฝรั่งเค้าจะเรียกว่า Mid-Size car ซึ่งจะเป็นรถที่ให้ความสะดวกสบาย ทั้งผู้โดยสาร และผู้ขับขี่.....เป็นรถนำเข้าทั้งคัน ราคามือสองแค่ 2-3 แสนกว่าๆ มาสด้า 626 โครโนส เปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นด้วยรุ่นซีดาน 4 ประตูในช่วงกลางปี 1991 และอีกประมาณ 2 เดือนก็เปิดตัวรุ่นแฮทช์แบก 5 ประตู โดยใช้ชื่อ EFINI MS-6 จากนั้นในปี 1993 จึงบุกเมืองไทยในแบบนำเข้าพร้อมกันทั้ง 2 รุ่นตัวถัง

รถยนต์เกือบทุกรุ่นของมาสด้า ไม่ค่อยได้รับความนิยมแบ่งรุ่นด้วยรหัสตัวถัง แต่มักระบุด้วยชื่อรุ่นที่มาจากโรงงาน หรือชื่อที่เล่นที่ตั้งขึ้นเองและเข้าใจกันในวงการช่างมากกว่า เช่น 626 รุ่นก่อนหน้าโครโนสก็มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า '626 ทีทีแอล' มาจากการใช้ช่วงล่างแบบปีกนกคู่สัมพันธ์ ส่วน 626 ที่นำเสนอในครั้งนี้ก็มีชื่อเฉพาะต่อท้ายว่า 'โครโนส' เวลาบอกรุ่นเพื่อซื้ออะไหล่หรือซื้อขาย มักเข้าใจได้ตรงกัน ไม่คลาดเคลื่อน โดยทางผู้จำหน่ายพยายามไม่เรียกว่า 626 มากนักเพื่อไม่ให้ดูซ้ำเหมือนรุ่นเดิมที่ชื่อเสียงชักจะตกลงไปแล้ว แต่เน้นเฉพาะคำว่า โครโนส ให้คนทั่วไปเรียกสั้นๆ เท่านี้

โครโนส ยังคงใช้แนวทางการออกแบบเหมือนๆ 626 รุ่นที่ผ่านมา แต่ในด้านรูปลักษณ์นั้นชัดเจนว่าไม่คล้ายกันเลย คือ ตัวถังเป็นทรงลิ่มแบนเพรียว ไม่มีเหลี่ยมสัน เต็มไปด้วยด้วยความโค้งมนกลมกลืนตลอดคัน ทั้ง 2 รุ่นใช้ตัวถังหลักครึ่งคันส่วนหน้าร่วมกัน แตกต่างที่รายละเอียดปลีกย่อยเล็กน้อย ฝากระโปรงหลังของรุ่น 5 ประตูเป็น สปอยเลอร์ในตัวแบบ BUILT IN พร้อมติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3

ไฟหน้าแบบฮาโลเจนและสปอตไลต์แบบโปรเจกเตอร์ ถูกรวมไว้ในโคมเดียวกันทรงเรียว ไฟเลี้ยวหน้าและหลังเป็นแบบเปลือกนอกขาวมาเลย แต่ด้านข้างยังเป็นสีเหลือง ทั้ง 2 รุ่นใช้ล้อแม็กลายเดียวกันแบบ 5 ก้าน ขนาด 14 นิ้ว โดยตลอดอายุตลาดไม่มีการปรับโฉมภายนอกเลย

มิติตัวถังรุ่น 4 ประตู ยาว 4,685 มิลลิเมตร กว้าง 1,750 มิลลิเมตร สูง 1,400 มิลลิเมตร ระยะห่างฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น 5 ประตูเตี้ยกว่า 10 มิลลิเมตร คือมีความสูง 1,390 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมประมาณ 1,200 กิโลกรัม

ภายในห้องโดยสารยังไม่มีถุงลมนิรภัยแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แต่ก็ปลอดภัยด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย ออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ พร้อมคานเหล็กลดแรงกระแทกในประตูทั้ง 4 บาน เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 4 ตำแหน่ง คู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้ 5 ระดับ และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดออกแบบให้ลาดเท เพื่อป้องกันไม่ให้วางสิ่งของ สะดวกสบายด้วยครูสคอนโทรล เบาะหลังของรุ่น 5 ประตูสามารถพับลงเป็นระดับเดียวกับพื้นห้องเก็บของด้านท้าย เพิ่มเนื้อที่บรรทุกสัมภาระ

ช่วงแรกบุกตลาดด้วยเครื่องยนต์รหัส FS-DE แบบเบนซิน 4 สูบเรียง ทวินแคม 16 วาล์ว ความกว้างกระบอกสูบ 83 มิลลิเมตร ช่วงชัก 92 มิลลิเมตร ความจุ 1,991 ซีซี อัตราส่วนการอัด 9.0 : 1 กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 17.3 กก.-ม. ที่ 4,500 รอบ/นาที

หลังจากทำตลาดประมาณ 2 ปี จึงเพิ่มรุ่น วี6 2.0 ใช้เครื่องยนต์รหัส KF-ZE บล็อกเดียวกับแลนติส วี6 เป็นแบบ 6 สูบ ทวินแคม 24 วาล์ว ความกว้างกระบอกสูบ 78 มิลลิเมตร ช่วงชัก 69.6 มิลลิเมตร ความจุ 1,995 ซีซี อัตราส่วนการอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.2 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที

ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมโหมด POWER, NORMAL และ HOLD MODE พร้อมระบบ AUTO SHIFT LOCK ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการเข้าเกียร์โดยไม่ตั้งใจ

ระบบบังคับเลี้ยวแบบแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ ช่วงล่างแบบอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัท ปีกนกล่างรูปตัว A พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังปีกนกคู่สัมพันธ์ TTL (TWIN TRAPEZOIDAL LINK) ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ พร้อมเอบีเอสแบบ 4 เซ็นเซอร์ 3 แชนแนล ทุกรุ่นใช้ล้อแม็กขนาด 6 X 14 นิ้ว ยางขนาด 195/65 R14

จุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ คือ ราคามือสองที่ไม่แพงไปกว่ารถยนต์ระดับเดียวกันปีเดียวกัน เช่น นิสสัน เซฟิโร ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือฮอนด้า แอคคอร์ด อุปกรณ์มาตรฐานภายในที่จำเป็นก็มีให้ครบครัน ประสิทธิภาพของช่วงล่างในด้านการเกาะถนนก็เด่นกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร ไม่โคลงในความเร็วสูง แต่ยังให้ความนุ่มนวลดีในช่วงความเร็วต่ำ ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีครีบระบายความร้อน พร้อมเอบีเอสป้องกันล้อล็อก ไว้ใจได้สบาย

อะไหล่มีหลายทางเลือก ทั้งของแท้จากศูนย์บริการ ของเทียบจากวรจักร และของมือสองจากเชียงกง ราคาอาจแพงกว่ายี่ห้ออื่นในหลายชิ้น และอาจต้องควานหาบ้าง แต่พอจะมีครบทั้งอะไหล่ตัวถัง ช่วงล่าง และเครื่องยนต์ การบำรุงรักษาหรือซ่อมแซม สามารถใช้บริการตามอู่ทั่วไปที่ได้มาตรฐาน เพราะไม่มีระบบที่ซับซ้อน

จุดด้อยอีกอย่างหนึ่ง คือ พื้นที่ภายในห้องโดยสารค่อนข้างแคบ เบาะหลังทำเป็นหลุมสำหรับ 2 ที่นั่ง ตรงกลางยกเป็นสัน ถ้าจะนั่งตรงกลางก็ไม่สะดวกนัก แต่ก็มีเข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุดเตรียมไว้ให้ และถ้าคนนั่งหลังตัวสูงสักหน่อย ศีรษะอาจติดเพดานได้

ก่อนตัดสินใจซื้อควรทดลองขับดูก่อนว่า พอใจกับความแรงหรือไม่ แต่ก็อย่าเพิ่งดูถูกว่า 115 แรงม้าจะอืดอาด เพราะถ้าทดลองขับแล้วอาจงงว่าอัตราเร่งดีเกินตัวเลขแรงม้า ถ้าไม่ใช่คนเท้าหนักมาก แนะนำให้ซื้อรุ่น 4 สูบ เพราะมีรถยนต์สภาพสวยๆ ให้เลือกมาก ไม่ต้องข้ามไปเลือกรุ่น วี6 ที่มีรถยนต์ให้เลือกน้อย มีราคาแพงและซ่อมก็แพงกว่า อะไหล่ก็หายาก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์รุ่นใด ส่วนใหญ่จะเป็นตัวถังแบบ 5 ประตูมากกว่า 4 ประตู

มาสด้า 626 โครโนส ซีดานระดับกลาง เด่นที่ช่วงล่างและเบรกที่มั่นใจได้ในความหนึบ เครื่องยนต์ทนทาน ไม่ซับซ้อน การประกอบและวัสดุเนี้ยบตามแบบฉบับรถยนต์นำเข้า แต่ห้องโดยสารแคบไปนิด จะน่าใช้ก็ต่อเมื่อไม่นั่ง 5 คนบ่อยๆ และได้รถยนต์สภาพดีๆ มา เพราะจุดด้อย (เพียงเล็กน้อย) อยู่ที่การซ่อมหรือการหาอะไหล่จะไม่ค่อยสะดวก และราคาไม่ถูกเหมือนรถยนต์ประกอบในประเทศหรือรุ่นตลาดๆ เตรียมเงินไว้มากหน่อย เวลาต้องซ่อม แต่ก็ไม่ถึงกับกระเป๋าฉีก

ราคากลางปี 1993 ประมาณ 250,000 บาท ไม่ควรเกิน 290,000 บาท และปี 1996 ประมาณ 330,000 บาท ++ ขึ้นอยู่กับสภาพรถ

==============================

คัดลอกจากบทความในหนังสือ Thai Driver

วิธีสังเกต ความแตกต่างระหว่าง โครโนส วีหก และ สี่สูบ 1. คอนโซลและภายในสีเทาเข้มมาก ๆ เกือบดำเลยแหละ 2. ไม่มีระบบหรี่ไฟในรถหลังปิดประตู ปิดแล้วดับเลย 3. ไม่มีไฟส่องรูกุญแจที่คอพวงมาลัย 4. ไม่มีไฟในรูกุญแจที่ประตู ปกติโครโนสสี่สูบล๊อตแรก ๆ จะมีไฟในรูกุญแจ เวลายกมือจับขึ้น 5. เก๊ะเก็บของระหว่างคนนั่งและคนขับสองชั้น ถ้าเป็น 4 สูบ หลังปี 95 เก๊ะเก็บของระหว่างคนนั่งและคนขับเป็นชั้นเดียว 6. เบาะกึ่งบั๊คเกตซีท กำหมะหยี่ (ล๊อตแรกเป็นผ้า) 7. กระจังหน้าเป็นห้าเหลี่ยม 8. ไม่มีไฟในประตูหลัง

ที่พูดมานี่คือโครโนสหลังปีเก้าห้าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสี่หรือหกสูบ แต่หกสูบมันจะเป็นแบบนี้หมดทุกคันอยู่แล้ว ถ้าไม่มีแบบที่ว่ามา แปลว่าเอาตัวก่อนปีเก้าห้าที่เป็นสี่สูบมาทำ

ที่กลัวคือเอาตัวสี่สูบหลังปีเก้าห้ามาแปลงเป็นหกสูบ คราวนี้แหละดูยากแน่ แต่ไม่น่าจะมีใครทำ เพราะสี่สูบหลังปีเก้าห้ามีการแก้ปัญหายอดฮิตคือจานจ่ายมาให้เรียบร้อยแล้ว

เอาให้ชัวร์เลย ก็ดูสมุดทะเบียนเลย ต้องเป็นเล่มแรก และใช้รหัสเครื่องว่า KF เพราะมาสด้าจะไม่มีเลขเครื่องปั๊มที่เพลทตัวถังเหมือนซูบารุ แถม สติกเกอร์ข้างประตูคนขับก็บอกแค่ซีซี ซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะสี่สูบหรือหกสูบมันก็สองพันซีซีเท่ากันอยู่ดี(ว่ะ)

===================================

รวบรวมโดย คุณตาม